‘เศรษฐา’โปรยยาหอม
อ้อนชาวอีสาน
อาสาพัฒนาพื้นที่/แก้จน
ดันราคาข้าวสินค้าเกษตร
เดินหน้ารถไฟรางคู่เฟส2
เปิดชายแดนเพิ่มมูลค่าศก.
จัดครม.สัญจรหนองบัวลำภู
นายกฯเศรษฐา ฟิตจัดลุยอุดรฯ-หนองคาย อ้อนชาวอีสาน ขออาสาพัฒนาพื้นที่ แก้จนดันราคาสินค้าการเกษตร สักการะ “หลวงพ่อพระใส”เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เคาะหัวให้พร“ขอให้บริหารประเทศให้ดี” ก่อนเดินตลาดแวะซื้อผ้ายกดอกสุรินทร์ฝาก “อุ๊งอิ๊ง” ด้าน “วราวุธ” ปลื้มเดินหน้าพัฒนายกระดับ พม.เป็นกระทรวงเกรดเอ ชงครม.แก้ปัญหาเงินขาดแคลนช่วยเด็กแรกเกิดความเคลื่อนไหวของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ในการเดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชนในภาคอีสานเป็นวันที่สาม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 กันยายน 2566 ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายสมศักดิ์เทพสุทิน รองนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทยและคณะลงพื้น ที่ตลาดร่มเขียวอุดรธานี ซึ่งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดอุดรธานีเพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของเกษตรกรและให้กำลังใจภายใต้แนวคิด “ปลอดภัย สดใหม่ จากเกษตรกร ผลิตที่อุดร โดยคนอุดร เพื่อคนอุดร”
นายกฯเดินตลาดร่มเขียว/รุมกรี๊ด
โดยบรรยากาศการเดินเยี่ยมชมตลาดร่มเขียว เป็นไปด้วยความคึกคัก ตลอดทางมีผู้ค้าประชาชนให้การต้อนรับ ถ่ายรูปกันอย่างเนืองแน่น บางคนรุมกรี๊ดเมื่อเจอนายกฯตัวจริงก่อนพูดว่า“ตัวจริงสูงและหล่อกว่าในทีวี”
นายกฯได้ยกมือไหว้ทักทายประชาชนตลอดเส้นทางซึ่งทุกร้านค้าได้พยายามนำเสนอสินค้าของตนเองให้นายกฯได้ชิม ทั้งข้าวจี่ ปลาร้าบอง ถั่วคั่ว กล้วย และก๋วยเตี๋ยวหลอด ซึ่งนายกฯได้ทดลองชิมเพียงบางอย่าง เพราะบางอย่างทานไม่เป็น โดยนายกฯยังอุดหนุนสินค้าการเกษตร อาทิ ผักสวนครัว ข้าวไรซ์เบอรี่ และถั่วคั่วทราย ที่เป็นของขึ้นชื่อของ จ.อุดรธานี นายกฯยังถือโอกาสเหมา ร้านข้าวจี่ด้วย
ให้กำลังใจนายกฯกู้ชาติสำเร็จ
นอกจากนี้ นายกฯจะเดินตลาดแล้ว ยังให้คำแนะนำกับพ่อค้าแม่ค้าพัฒนาแพคเกจจิ้ง เพื่อส่งออก รวมถึงอยากใส่รายละเอียดเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า เพราะสินค้าบางอย่างของไทยเป็นที่ต้องการในต่างประเทศ
อีกทั้งยังมีแม่ค้านำกล้วยมาให้นายกฯพร้อมบอกว่า “ขอให้กำลังใจนายกฯ กู้ชาติได้สำเร็จทำงานกล้วยๆ”
ช่วงหนึ่ง ขณะนายกรัฐมนตรีผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวหลอด ที่นำดอกไม้มาประดับตกแต่ง นายกฯสอบถามว่าดอกไม้พวกนี้รับประทานได้ด้วยหรือ เพราะปกติเห็นคุณแม่นำมาจัดแจกัน
ส่วนราคาข้าวหอมมะลิ นายกรัฐมนตรีได้บอกให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ช่วยไปดูแล้วรับปากกับชาวบ้านว่าจะทำให้ราคาข้าวดีขึ้นแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงหนึ่งระหว่างเดินในตลาด มีคุณลุงได้เดินมาท้านายกฯว่า“นายกฯต้องทำให้ประเทศนี้เป็นรัฐสวัสดิการให้ได้ แล้วผมจะยอมรับ”ซึ่งนายกฯตอบกลับไปทันทีว่า “พูดแบบนี้ คนอาจจะไม่เข้าใจ รัฐสวัสดิการคือ รัฐดูแลประชาชน ย้ำว่า รัฐดูแลประชาชน”
จากนั้นเวลา 09.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมคณะได้เดินทางด้วย รถไฟดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ชั้นที่ 2 ขบวนพิเศษ โบกี้ 2516จากสถานีรถไฟอุดรธานีไปยังสถานีรถไฟหนองคาย กับนักธุรกิจภาคเอกชน เพื่อพูดคุยประเด็นการขนส่งสินค้าสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน
ถกเอกชนเร่งพัฒนารถไฟรางคู่เฟส 2
ระหว่างนั่งรถไฟนายกฯ และคณะได้พูดคุยกับนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน นายวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ถึงเส้นทางรถไฟรางคู่ ขณะนี้ระยะ 1 ถึงแค่ จ.ขอนแก่น เท่านั้น ส่วนระยะที่ 2 จะมีการเชื่อมต่อจาก จ.ขอนแก่น มายัง จ.หนองคาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและการขนส่ง ให้สามารถเชื่อมต่อจากไทยไปลาวและจีนได้
ขณะที่ หอการค้าไทย-จีน และสภาอุตสาหกรรมจ.อุดรธานี ต้องการให้รัฐบาลเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ให้เสร็จก่อนปี 2569 เนื่องจากจ.อุดรธานี จะเป็นเจ้าภาพ จัดงาน มหกรรมพืชสวนโลก จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งเรื่องการค้าและการท่องเที่ยว
มุ่งเพิ่มศักยภาพขนส่งสินค้าไปลาว
จากนั้นขบวนรถไฟได้หยุดแวะพักที่สถานีรถไฟนาทา จ.หนองคายซึ่งจะเป็นจุดที่ก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกฯได้ขอรายละเอียดการพัฒนาพื้นที่นาทา ที่มีแนวคิดต้องการให้เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าแบบ One stop service ที่มีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกลับการเปลี่ยนถ่ายสินค้าจุดเดียวไม่ว่า ศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ขณะที่ปลัดกระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่าการดำเนินการที่ผ่านมาแผนจะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่นายกฯต้องการ ซึ่งจะต้องมีการประสานกับจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าประเทศเพื่อนบ้านสำหรับพื้นที่นาทาอาจจะต้องมีการเวนคืนที่ดินบริเวณโดยรอบ 193 ไร่ และอาจจะต้องใช้เงินลงทุน 5,400 ล้านบาท โดยจะต้องใช้แนวทางให้เอกชนร่วมลงทุน พร้อมทั้งมีการรายงานต่อนายกฯว่าการขนถ่ายสินค้าระหว่างไทยกับลาว ยังมีความล่าช้าเนื่องจาก เส้นทางรถไฟจุดสะพานมิตรภาพไทยลาวรับน้ำหนัก ได้น้อยจึงมีแปนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรับน้ำหนัก เพื่อทำให้การขนถ่ายสินค้าคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น
ชาวหนองคายแห่ต้อนรับคึกคัก
จากนั้นเวลา10.50 น.ขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหนองคาย มีประชาชนจำนวนมากรอต้อนรับอยู่ โดยได้มอบดอกกุหลาบ ผูกผ้าขาวม้า และขอถ่ายรูปกับนายกฯด้วยความคึกคัก พร้อมตะโกนด้วยว่า “นายกเศรษฐา ชาวนาจะเป็นเศรษฐี” ขณะเดียวกัน ได้มีสภาเกษตรกรจังหวัดสภาเกษตรกรหนองคายได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายกฯเพื่อขอให้แก้ไขปัญหาสิทธิทำกินและปัญหาแหล่งน้ำ.
‘เศรษฐา’หารือภาคธุรกิจหนองคาย
ต่อมา เวลา 11.15 น.ที่จุดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง พร้อมด้วยคณะ ได้ร่วมหารือกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมตัวแทนภาคธุรกิจและเอกชนในจังหวัดหนองคาย
โดยทางตัวแทนภาคเอกชนจังหวัดหนองคาย โดยประธานสภาหอการค้าจังหวัดหนองคายขอให้รัฐบาลเร่งรัดสร้างสะพานรถไฟให้เสร็จภายในปี 2572 พร้อมขอให้ทำศูนย์ Business Center สำหรับการค้าและการส่งออก รวมทั้ง ขอให้ยกฐานะมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย ให้เป็น มหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีการเปิดการเรียนการสอนสาขาวิชาที่เกี่ยวกับวิศวกรรมรถไฟฟ้าความเร็วสูง เพื่อส่งเสริมและยกระดับแรงงานรวมทั้งให้ช่วยผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย เพื่อรองรับเศรษฐกิจในอนาคต
เปิดการค้าชายแดน เพิ่มมูลค่าศก.
นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นเกียรติที่ได้มาจังหวัดหนองคาย เพื่อรับฟังข้อมูลประกอบการจัดทำนโยบายรัฐบาลของประชาชน แม้จ.หนองคายจะเป็นจังหวัดเล็ก แต่ก็สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นอันดับที่สี่ของภาคอีสาน และเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการค้าบริเวณชายแดน ส่วนข้อเสนอเรื่องการยกฐานะของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคายและพัฒนาหลักสูตร เพื่อมารองรับงานและการพัฒนาอุตสาหกรรมทั่วประเทศในอนาคตนั้น เห็นด้วยอย่างยิ่ง จะรับเรื่องนี้ไว้พิจารณา ส่วนการทำสะพานรถไฟในโครงการเร่งด่วนนั้น ทาง รมว.คมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคมได้รับทราบอยู่แล้ว จะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเปิดประเทศ
ครม.นัดแรกดันวีซ่าฟรีให้นทท.จีน
“ยืนยันว่ารัฐบาลของประชาชนให้ความสำคัญการค้า ซึ่งในเดือนหน้า รัฐบาลและนักธุรกิจจะเดินทางไปประเทศจีน เพื่อหารือเรื่อง one stop service เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน”นายกฯและว่ารัฐบาลของประชาชน ยังให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสำคัญ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก จะพิจารณาเรื่องวีซ่าฟรี ให้กับนักท่องเที่ยวจีนด้วย
การมาจังหวัดหนองคายในวันนี้ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รมว.วัฒนธรรมได้มาด้วย ซึ่งมีความรู้เข้าใจวัฒนธรรมภาคอีสานดี จึงไม่อยากให้หนองคาย เป็นเพียงเมืองผ่านเหมือนในอดีตเท่านั้นจึงต้องทำให้มีนักท่องเที่ยวมาที่หนองคายให้มากขึ้นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจพื้นที่และความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งรัฐบาลของประชาชนพร้อมให้การสนับสนุนส่งเสริม
เล็งครม.สัญจรแรกที่หนองบัวลำภู
เวลา 12.00 น.ที่ด่านพรมแดนหนองคาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลังกล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัญจร จังหวัดแรกจะไปที่ไหนและเมื่อไรเพราะเคยระบุว่าจ.หนองบัวลำภู เป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวน้อยที่สุดในประเทศจะเป็นจังหวัดแรกที่ไปหรือไม่ว่า การที่ตนมาภาคอีสาน เป็นการทำให้ทราบปัญหาจริงๆไม่อยากใช้คำว่าอิน แต่ดูจากแววตาเห็นว่า ประชาชนเดือดร้อนจริงๆมาจังหวัดที่เจริญที่สุดในภาคอีสานแล้วแต่ก็ยังเห็นว่ามีความยากลำบาก
ตนก็มีคำถามว่าเรื่องครม. นอกสถานที่ ซึ่งได้คุยกับรองนายกฯและเลขาธิการนายกฯแล้วว่าหากเรามี ครม.สัญจรก็จะบอกอีกครั้งว่าเมื่อไรแต่หวังว่าจะไม่เกินเดือนพ.ย.ซึ่งคิดว่าจังหวัดแรกที่น่าจะไปคือจ.หนองบัวลำภู
ย้ำรมต.ต้องช่วยกันแถลงนโยบาย
นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่อีสานรอบนี้ แตกต่างจากการลงตอนหาเสียงเลือกตั้งเพราะการลงพื้นที่ครั้งนี้ รู้สึกได้ถึงความเป็นธรรมชาติมากกว่า มีความอบอุ่นในแววตาของคนที่ได้พบเห็น หากตนมีเรื่องหนักใจก็อยากเดินทางมาอีสานเพราะเหมือนเป็นการฮีลใจ
เมื่อถามถึงความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 11-12 ก.ย.นายกฯกล่าวว่า พร้อมครับซึ่งมีการมอบหมายและได้พูดคุยกันแล้วว่า รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็ต้องช่วยกัน
สักการะหลวงพ่อพระใส-พร้อมรับพร
เวลา13.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง พร้อมคณะเดินทางไปที่วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เพื่อเข้าสักการะหลวงพ่อพระใสวัดโพธิ์ชัย หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อบ้านหลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นอารามหลวง ทันทีที่นายเศรษฐา ได้เดินมาถึงอุโบสถ ได้มีชาวบ้านเข้ามาขอถ่ายรูป พร้อมนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอว และกล่าวว่า “ต้องผูกแน่นๆ จะได้อยู่นานๆ พวกเรารอมานานแล้ว นายกฯ ต้องอยู่นานๆ”
จากนั้นนายกฯได้เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหนองคาย และนมัสการ พระเทพวชิรคุณ(รศ.ดร.พิศิษฐ์ สุวีโร) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย พร้อมทั้งรับพรจากเจ้าอาวาสว่า“ได้ติดตามพวกท่านทั้งหมด รู้จักชื่อ รัฐมนตรีทุกคน ขอให้ช่วยกันบริหารประเทศให้ดี”ต่อจากนั้นนายกฯได้ก้มกราบรับน้ำมนต์จากเจ้าอาวาสโดยเจ้าอาวาส ได้ใช้ตอกพรมน้ำมนต์ แตะไปที่ศีรษะของนายกฯ
เวลา15.00 น.นายกฯและคณะเดินทางมายังตลาดผ้าบ้านนาข่า อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานีเป็นการรวมกลุ่มทอผ้าของชาวบ้าน จนมีการบริหารในรูปแบบธุรกิจโดยเฉพาะการขายผ้าไหมลายขิดและผ้าฝ้ายย้อมคราม รวมถึงการประยุกต์ตัดเย็บตามเอกลักษณ์ของผ้าชาวอีสานด้วยงานแฮนด์เมดทั้งสิ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพ่อค่าแม่ขายในพื้นที่ เข้ามาขอถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก
ยันครม.นัดแรก ยันลดค่าไฟ-ดีเซล
โดยนายเศรษฐากล่าวว่าอยากได้ผ้าไทย เป็นชุด สำหรับใส่ไปประชุมคณะรัฐมนตรีแต่เดินจนสุดซอยแล้วยังไม่ได้สิ่งที่ถูกใจ แต่เห็นผ้าสีเหลืองซึ่งเป็นผ้ายกดอกสุรินทร์จึงได้อุดหนุนแม่ค้า1 ผืน ในราคา 8,500 บาท เพื่อเอาไปฝากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ทั้งนี้นายกฯได้ถ่ายรูปที่จุดถ่ายรูปที่ระลึกของตลาดผ้าบ้านนาข่าพร้อมกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับสินค้าOTOPแต่เข้าใจว่า ตอนนี้มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูง“ขอยืนยันว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมัน เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์เบื้องต้น ส่วนปัญหาหนี้สิน ก็จะดูแลด้วย”
จากนั้น นายกฯพร้อมคณะได้เดินทางไปยังสนามบินนานาชาติ จ.อุดรธานีเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
‘ชลน่าน’ถกสธ.เตรียมแจงนโยบาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ได้เดินทางมายังห้องประชุมศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นประธานการประชุมเตรียมข้อมูลสำหรับการชี้แจงในการแถลงนโยบายของรัฐบาลด้านสาธารณสุข โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุม
นพ.ชลน่านเผยว่า เป็นการหารือกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการจะชี้แจงในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตนจะแถลงนโยบายขับเคลื่อนภารกิจงานกระทรวงสาธารณสุขและระบบสุขภาพของประเทศไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังวันที่ 13 ก.ย. นี้
ดีเดย์เข้าสธ.เป็นทางการ11ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายด้วยว่านพ.ชลน่าน และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข มีกำหนดการเดินทางเข้ากระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 11 ก.ย.นี้ เวลา 07.00 น.เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ดังนี้ พระพุทธนิรามัย ณ หอพระพุทธนิรามัย ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ ลานต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระพรหม ณ ศาลพระพรหม พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อยู่บนแท่นฐานเดียวกัน พระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระพุทธมหานวนาคปฏิมากร ณ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคาร 3 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงฯ จากนั้น นพ.ชลน่าน และนายสันติ จะเดินทางไปอาคารรัฐสภา เข้าร่วมประชุมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา
‘วราวุธ’ลั่นทุ่มเทงานพม.ดูแลทุกระดับ
วันเดียวกันเวลา 09.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา สาขาสุพรรณบุรีให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่งรมว.พม.โดยมีนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ประชาชนร่วมแสดงความยินดีจำนวนมากด้วย
โดยนายวราวุธได้ขอบคุณประชาชนชาวสุพรรณบุรีที่แสดงความยินดีซึ่งการจะเดินทางมาถึงในจุดนี้ได้ ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับพรรคจนสามารถทำให้เรามีโอกาสมาทำงานรับใช้ประชาชนในทุกระดับ เพราะกระทรวง พม.ดูแลตั้งแต่เด็กแรกเกิดแก่ เจ็บ และเสียชีวิต เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการและกลุ่มคนที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงกลุ่มชาติพันธ์ กลุ่มความหลากหลายทางเพศ แม้วันนี้ยังไม่สามารถพูดเรื่องงานได้อย่างเต็มที่เพราะในวันที่ 11 ก.ย.นี้ นายกฯจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อแถลงเสร็จแล้ว เราจะสามารถพูดเรื่องงานได้อย่างเต็มที่ ขอให้คำมั่นว่า เมื่อได้มาดูแลกระทรวง พม.เราจะทุ่มเททุกๆสรรพกำลังในการดูแลพี่น้องประชาชนทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล เราจะเป็นกำแพงให้กับประชาชนเอาไว้พักพิงยามเหนื่อยล้า ยามท้อแท้ จะเป็นเกราะกำบัง ป้องกันอันตราย ให้กับประชาชนยามเกิดปัญหา เราจะคืนลูกหลานให้กับครอบครัว จะคืนครอบครัวให้กับสังคม เราจะคืนสังคมให้กับประเทศชาติ เพราะประเทศชาติจะแข็งแรงได้จะต้องมาจากรากฐานหน่วยที่เล็กที่สุด คือสถาบันครอบครัว ดังนั้นวันนี้พวกเราจะทำงานอย่างเต็มที่
ลั่นจะดันพม.เป็นกระทรวงเกรดเอ
รมว.พม.กล่าวว่าวันนี้เป็นโอกาสที่พวกเราชาวชาติไทยพัฒนา ชาวสุพรรณบุรีนั้นจะได้แสดงให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่าการที่มีคนสุพรรณบุรี เป็นหัวเรือของกระทรวงฯที่ดูแลปากท้องของประชาชนนั้น เราจะทำให้กระทรวงนี้มีความแตกต่างอย่างไร บางคนบอกว่าจากกระทรวงทรัพยากรฯมากระทรวงพม.เป็นการลดระดับ ตนว่าไม่ใช่แต่เป็นการเพิ่มระดับ เพราะจะทำให้กระทรวง พม.ขึ้นมาเป็นกระทรงเกรดเอ และจะทำให้ไม่เฉพาะแค่คนไทย แต่จะทำให้ต่างประเทศได้รู้จักว่ากระทรวง พม. นั้น คือหัวใจของคนไทยอย่างไร กระทรวงจะใหญ่จะเล็ก ขึ้นอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการ และจะทำให้คนไทยทุกคนและคนสุพรรณบุรี ได้อย่างละเอียดถึงเนื้อถึงตัว
ชงครม.เร่งแก้เงินช่วยเด็กแรกเกิด
นายวราวุธ กล่าวว่า กรณีปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมาที่มีปัญหาเรื่องเงินสนับสนุนเด็กแรกเกิด 600 บาท ที่ไม่สามารถนำเงินโอนเข้าบัญชีของแต่ละครอบครัวได้นั้นต้องกราบขออภัย แต่เท่าที่ได้ทราบข้อมูลจากทางกระทรวง พม. ในวันที่ 13 ก.ย.นี้ซึ่งจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทางกระทรวงจะส่งเรื่องเข้าสู่การประชุมครม.และไม่เกิน 18 ก.ย. 66 เงินจำนวนดังกล่าวจะสามารถโอนเข้าบัญชีกรณีเงินสนับสนุนเด็กแรกเกิดได้ทุกๆครอบครัว
‘จตุพร’ปูดข่าว3รมต.ส่อถูกเชือด
ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “มองทะลุ”เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมาระบุว่าภายในเดือนกันยายนนี้ จะมีรัฐมนตรีอย่างน้อย 3 คน อาจถูกคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยื่นคำร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากมีข้อกล่าวหาอันน่าสงสัยในการกระทำผิดกฎหมายจากกรรมเก่าและเกิดร่องรอยการประพฤติมั่วหมองขึ้นใหม่ผสมกันร้ายแรงชนิดคาดไม่ถึง
“รัฐมนตรีไม่น้อยกว่า 3 คน มีข่าวแว่วมาว่า คงได้เข้ากระทรวงทำงานอย่างน้อย 15วัน หลังจากนั้นเมื่อกระบวนการทางกฎหมายเดินหน้าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คาดในเดือนกันยายนนี้จะเป็นผลขึ้น ซึ่งเจ้าตัวคงรู้ตัวดีอยู่แล้ว โดยข้อกล่าวหาบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่คนจะคาดไม่ถึง”นายจตุพร กล่าว
โดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในก.ย.นี้
นายจตุพร กล่าวอ้างว่า ข่าวที่ตนนำมาบอกกล่าวนั้น ขณะนี้มีสถานะเป็นเพียงข่าวแว่วมาเท่านั้น โดยระบุถึงช่วงเวลาว่าในอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะมีรัฐมนตรีในชุดรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างน้อย 3 คนจะถูกเรื่องราวในสิ่งสำคัญ เพราะมีเรื่องราวงที่เป็นร่องรอยเดิมและใหม่เข้ามาผสมอีกอย่างที่คาดไม่ถึง และหลังจากนั้น ไม่กี่วันจะถูกยื่นให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมขอเตือนว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้เดินไปอย่างรวดเร็วมากดังนั้นอะไรที่รัฐบาลควรทำทันทีก็ต้องรีบทำ อีกอย่าง รัฐมนตรีอย่าเพิ่งแต่งห้องให้มาก โดยรัฐมนตรีบางคนก็รู้ เพียงแต่คิดว่าจะรอดหรือไม่ แต่บ้านเมืองนี้อะไรก็เกิดขึ้นมาได้ ขอให้โชคดี หากมีการวิ่งเต้นอาจรอดก็ได้ ดังนั้น ข่าวแว่วที่ได้ยินมาคงคลาดเคลื่อนไปอีก แต่นำมาให้ประชาชนเฝ้าจับตาไว้ก่อน
“ขอให้ประชาชน มีมาตรฐานไตร่ตรอง เมื่อนักการเมืองโสโครกแล้วประชาชนก็ไม่ควรโสโครกตาม มาตรฐานที่เคยจัดการบ้านเมืองนี้อย่างไร เราก็ควรเดินตามอย่างนั้น”นายจตุพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี