‘โรม’ข้องใจ ‘ครม.เศรษฐา’ ออกกฎเหล็กห้ามปล่อยอินไซต์วงในที่ประชุมโทษถึงขั้นฟันวินัยร้ายแรง กลัวมีทุจริต-บริหารงานผิดหรือไม่ เชื่อยังมีขรก.น้ำดีพร้อมชน

21ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ออกกฎเหล็กห้ามรัฐมนตรี หรือข้าราชการให้ข่าวกับสื่อมวลชนที่เกี่ยวกับความลับของทางราชการในการประชุมครม. หากฝ่าฝืนจะมีโทษถึงขั้นวินัยร้ายแรง ไล่ออก หรือปลดออกว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบว่ามีความแตกต่างมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ตนสัมผัสกับข้าราชการน้ำดีที่มีความหวังดีต่อประเทศ หลายคนรู้ว่าการนำข้อมูลมาบอกฝ่ายค้านมีความเสี่ยงอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ตรวจสอบมีผลขนาดไหน แน่นอนว่ามีผลกับหน้าที่การงานแน่นอน เชื่อว่าข้าราชการน้ำดีอยากเห็นประเทศดีกว่านี้ มีอุดมการณ์ หรือทนไม่ได้กับการทุจริต จึงเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถมาห้ามการทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีได้

“การที่ครม.ให้ความสำคัญกับการออกกฎเหล็กนี้น่าคิดว่าตัวเองกลัวอะไรหรือไม่ กลัวว่ามีการทุจริต กลัวการบริหารงานที่ไม่ถูกต้อง หรืออาจสร้างความเสียหายให้ประเทศ ก็พยายามเขียนเสือให้วัวกลัว ออกกฎเกณฑ์ให้ข้าราชการเกรงกลัวแล้วไม่นำข้อมูลต่างๆมาบอกฝ่ายค้าน หากเป็นแบบนี้ผมเป็นห่วงว่าการบริหารงานของรัฐบาลรอบนี้ จะเป็นการวริหารงานที่โปร่งใส ไม่มีการทุจริตหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลกำลังปิดปากหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงปิดไม่ได้ ตนยังเชื่อในอุดมการณ์ของข้าราชการน้ำดี เชื่อว่าข้าราชการหลายคนพร้อมสู้เพื่อความถูกต้อง หรือนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาบอกพรรคก้าวไกลเพื่อให้เราทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังเป็นประธาน เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการรักษาความลับของทางราชการที่เกี่ยวข้องกับการประชุม ครม. และการให้ข่าวสารแก่สื่อมวลชน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยมีสาระสำคัญคือสั่งห้าม รมต-ขรก.ให้ข่าวลับครม.กับสื่อมวลชนฝ่าฝืน โทษหนัก ฟันวินัย-ปลด-ไล่ออก 

ขณะเดียวกันมีรายงานคำชี้แจงว่าฝ่ายรัฐบาลว่า เรื่องดังกล่าว เป็น ‘มติ ครม รับทราบแนวทางปฏิบัติ’ ในการรักษาความลับของราชการที่เกี่ยวข้องกับการประชุม ครม และการให้ข่าวสารแก่สื่อมวลชน ซึ่งกระทำต่อเนื่องกันมา ย้อนหลังกว่า 20 ปี และเป็นปกติ ในการแจ้งผู้เข้าร่วมประชุม ครม.ถึงแนวทางปฏิบัติ โดยมีสาระสำคัญคือไม่เผยแพร่ข้อมูลใดๆ ในที่ประชุม ครม.โดยเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณา อาจมีความอ่อนไหว และมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และ/หรือผลประโยชน์แห่งชาติ แต่หากเรื่องที่เป็นมติเห็นชอบ/อนุมัติแล้ว สามารถเผยแพร่สื่อสารได้ตามเหมาะสม

เรื่องใดมีผลกระทบอ่อนไหว ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรง เป็นผู้ชี้แจงหลัก และให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่และอำนาจให้ข่าวสารการประชุม-มติ-การดำเนินงาน ครม และชี้แจงต่อสาธารณชนหากมีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง