‘เศรษฐา’กลับลำ/อ้างมือใหม่
ปัด‘แม้ว’นั่งกุนซือ
พร้อมปรึกษาทุกอดีตนายกฯ
‘ชัยธวัช’ผงาดหน.ก้าวไกล
‘พิธา’นั่งประธานที่ปรึกษา
จ่อเสนอพรบ.นิรโทษกรรม
“เศรษฐา” ออกโรงยันไม่เคยให้สัมภาษณ์จะตั้ง “ทักษิณ” นั่งที่ปรึกษานายกฯหลังพ้นโทษ แจงพร้อมขอคำปรึกษาอดีตนายกฯทุกคน เผยปรึกษา “บิ๊กตู่”คนแรก บอกเป็นมือใหม่หัดขับ ไม่ปรึกษาประเทศจะเสียหายด้านมติที่ประชุมใหญ่ก้าวไกลเลือกกก.บห.ชุดใหม่’ชัยธวัช’ นั่งหน.’อภิชาติ’เลขาฯ ‘ไอติม’โฆษกฯ’พิธา’นั่งปธ.ที่ปรึกษใหญ่ ขณะที่‘ชัยธวัช’แจงแค่ปรับทัพชั่วคราว พร้อมสละเก้าอี้คืนตำแหน่งเมื่อ‘พิธา’กลับเข้าสภา
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 23 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวถึงกรณีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าหากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นโทษจะตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีนั้น
โดยกล่าวว่าให้ไปแกะเทปสัมภาษณ์ได้เลย ไม่เคยพูด แต่สิ่งที่ถูกถามว่าจะปรึกษา นายทักษิณ หรือไม่ ตนจึงตอบว่าจะปรึกษาอดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่าน ซึ่งท่านแรกที่ได้ปรึกษา คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯและอดีตรมว.กลาโหม ตั้งแต่ได้รับตำแหน่งและนายอานันท์ ปันายารชุน อดีตนายกฯ ที่ได้ไปหาถึงบ้านรวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่ไปพบที่เชียงใหม่ ส่วนนายทักษิณ เป็นนายกฯที่ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนอย่างมากและเป็นคนที่มีความรู้
มือใหม่หัดขับปรึกษาทุกคน
“ผมคิดว่า ประเทศไทยคงเสียหาย ถ้าผมไม่ปรึกษาคนเหล่านี้เพราะผมเป็นมือใหม่หัดขับ ซึ่งไม่ใช่แค่นายกฯเท่านั้น อดีตรองนายกฯ ผู้แทนการค้าไทย รัฐมนตรี หรือปลัดกระทรวง ผมก็ปรึกษาหมด ไม่ได้กีดกันใครทั้งสิ้น ไม่ได้กีดกันเรื่องสีและความเชื่อทางการเมือง อะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติผมยินดี ไม่มีการพิจารณาที่จะไปตั้งท่านเป็นที่ปรึกษา ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี มาก่อนตั้งกี่ปี จะมารับเป็นที่ปรึกษา ท่านมีกฏ มีแนวทางมีหน้าที่รับผิดชอบในหน้าที่ของท่านที่อยากจะทำอยู่แล้ว”นายกรัฐมนตรีกล่าว
“อุ๊งอิ๊ง”ถกซอฟต์เพาเวอร์
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เผยเริ่มประชุดนัดแรกอย่างไม่เป็นทางการร่วมกับกรรมการส่วนของภาคเอกชนแล้ว เนื้อหาดังนี้ เมื่อวานนี้ กรรมการในส่วนภาคเอกชนของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติได้ประชุมกันนอกรอบเพื่อสรุปข้อเสนอซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆที่ TCDC ไปรษณีย์กลาง เป็นการเตรียมพร้อมก่อนการประชุมคณะกรรมการฯชุดใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาลกับท่านนายกฯในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ค่ะ การประชุมนี้ มีอาจารย์พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษา คุณหมอเลี้ยบ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการสภาพัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผู้อำนวยการ CEA ผู้ว่าการท่องเที่ยวฯ และเลขา รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมด้วยค่ะ
ตั้งเป้าพัฒนาไปสู่ระดับโลก
บรรยากาศการประชุมสนุกมากค่ะไอเดียข้อเสนอต่างๆมาแบบจัดเต็ม ในฐานะรองประธานกรรมการ อิ๊งค์ก็อดรู้สึกตื่นเต้นและมีความหวังไม่ได้ ถ้าเราร่วมกันอย่างเต็มที่ขนาดนี้ เป้าหมายของ OFOS - THACCAที่จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะระดับสูงให้กับพี่น้องประชาชน20ล้านคน ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆให้ไปไกลถึงระดับโลก น่าจะทำได้ไม่ยากด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่ายค่ะ อิ๊งค์จะอัปเดตความคืบหน้าของโครงการให้ทราบเป็นระยะนะคะ อิ๊งค์เชื่อว่า OFOS - THACCA เป็นนโยบายสำคัญมากที่จะเพิ่มศักยภาพด้านทักษะระดับสูงและความคิดสร้างสรรค์ของพี่น้องประชาชนได้ เหมือน TCDCที่ริเริ่มโดยรัฐบาลไทยรักไทยแล้วจุดประกายอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันค่ะ
‘เพื่อไทย’เชื่อเศรษฐกิจฟื้น
นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า นับตั้งแต่ที่รัฐบาลของประชาชน ที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศเต็มรูปแบบ ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว 2 ครั้งและได้มีมติครม.มุ่งเน้นไปที่การลดภาระค่าครองชีพประชาชน ตามที่ได้หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชน ทั้งการปรับลดค่าไฟฟ้าถึง 2 ครั้ง ค่าไฟจาก 4.45 บาทต่อหน่วย เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ปรับลดราคาน้ำมันดีเซล ต่ำกว่า 30 บาท ต่อลิตร กระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนและค่าซัคสถาน จนทำให้ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ปรับคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 77% และเที่ยวบินจีนเพิ่มขึ้น 44% ในเดือนตุลาคมนี้
อีกทั้งยังรวมไปถึงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่ 78 (UNGA78) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 18-24 กันยายน 2566 ซึ่งได้พบปะ หารือกับผู้นำระดับโลก และนักธุรกิจชั้นนำจากนานาประเทศ ถือเป็นการฟื้นคืนความเชื่อมั่นของประเทศไทยให้กับมายืนอย่างภาคภูมิในเวทีโลกอีกครั้ง เช่นเดียวกับรัฐบาลไทยรักไทย และรัฐบาลเพื่อไทยในอดีต ได้เคยมีนายกรัฐมนตรีที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้นำโลกและนักลงทุนต่างชาติมาแล้ว
ผลักดันไทย ‘เสือตัวที่5’อีกครั้ง
รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ส่วนข้อกังวลในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับนโยบาย และความต้องการของประชาชนที่อยากให้รัฐบาลของประชาชนเข้าไปช่วยเหลือ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมรับฟัง รวมถึงข้อเสนอแนะจากนักวิชาการ ฝ่ายค้านและประชาชนด้วย อีกทั้งยังยินดี หากมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันทำให้ทุกวันของประชาชนดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา รัฐบาลของประชาชนที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน พร้อมที่จะเดินหน้าทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อย่างที่นายกรัฐมนตรีเคยกล่าวเอาไว้
“ความรู้ ความสามารถ จะเป็นเครื่องพิสูจน์คุณค่าของคน เหนือกว่าความสัมพันธ์ ถ้าใครมีความรู้ มีประสบการณ์ คิดว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐาก็น่าจะเปิดกว้างบุคคลทุกกลุ่มเช่นเดียวกัน มาร่วมด้วยช่วยกันทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเสือตัวที่ห้าอีกครั้ง” นางสาวลิณธิภรณ์ กล่าว
‘ก้าวไกล’ตบเท้าประชุมใหญ่
เวลา 09.00 น. ที่ตึกไทยซัมมิท ทาวเวอร์) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)ชุดใหม่และหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ บรรยากาศช่วงเช้า บรรดาสส.พรรคก้าวไกลสมาชิกพรรคอาทินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อรักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกลที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ได้มีบรรดาแฟนคลับมารอบริเวณด้านล่างตึกไทยซัมมิทด้วย
เวลา10.24 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ และคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)ชุดใหม่ของพรรคก้าวไกล มีมติเห็นชอบให้นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนเห็นชอบ 330 คะแนน ไม่เห็นชอบ 5 คะแนน และงดออกเสียง 3
‘ชัยธวัช’นั่วหน้าหน้าคนใหม่
เวลา 12.40 น. ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกลว่า จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรันต์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้สมาชิกของพรรคก้าวไกลสามารถขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้ ตามที่รัฐธรรมนูนกำหนด ที่ประชุมได้มีมติเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ทั้งหมด 8 คน ดังนี้ 1.นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค 2.นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค 3.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค 4.นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค 5.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร 6.นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหาร 7.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร 8.นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร (สัดส่วนปีกแรงงาน)
‘พิธา’ประธานที่ปรึกษาหน.
นายพริษฐ์กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ได้มีมติแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลจำนวน 3 คน โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ส่วนนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค
นอกจากนี้ ยังแต่งตั้งรองหัวหน้าพรรคจํานวน 4 คน ได้แก่ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล และแต่งตั้งรองเลขาธิการพรรคก้าวไกลจํานวน 3 คน ได้แก่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิต่อท้าย รวมถึงมีมติปรับกองโฆษกพรรค
โดยแต่งตั้ง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นโฆษกพรรคฯคนใหม่ โดยมีรองโฆษกพรรคฯ 2 คน ได้แก่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และนางสาวภคมน หนุนอนันต์
พร้อมสละเก้าอี้หัวหน้าฯให้‘พิธา’
นายชัยธวัชกล่าวภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ในภาพรวมการปรับทัพครั้งนี้เป็นเพียงการปรับทัพชั่วคราว เนื่องจากเหตุจำเป็นทางกฎหมายที่ทำให้นายพิธาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้โดยตนและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยินดีที่จะลงจากตำแหน่ง เมื่อนายพิธาสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่สส.ในสภาได้อีกครั้ง
ปรับทัพทำงานคู่ขนานนอกสภา
นายชัยธวัช กล่าวว่าการปรับทัพชั่วคราวครั้งนี้พรรคได้ตัดสินใจดังนี้ 1.เน้นสลับบทบาทของแต่ละคนภายในกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมเป็นหลักโดยมีการขยับนายชัยธวัช ตุลาธน จากเดิมเป็นเลขาธิการพรรค มาเป็นหัวหน้าพรรคที่จะรับบท ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ในสภาฯ และขยับ นายอภิชาติ ศิริสุนทร จากเดิมที่เป็นกรรมการบริหารสัดส่วนอื่นมาเป็นเลขาธิการพรรค 2.แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อรับผิดชอบการทำงานเชิงรุกในการขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงและนโยบายร่วมกับประชาชนนอกสภาฯ นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะประธานที่ปรึกษา
“การปรับทัพชั่วคราวครั้งนี้ ในสภาผมจะรับเป็นภารกิจหลัก คู่ขนานไปกับการทำงานนอกสภาที่นำโดยนายพิธา”หัวหน้าพรรคก้าวไกล คนใหม่ กล่าว
ปมรองฯอ๋องจะสรุปสัปดาห์หน้า
นายชัยธวัชกล่าวว่าสำหรับอนาคตของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่1และ สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล พรรคเข้าใจดีถึงข้อจำกัดจากรัฐธรรมนูญที่ทำให้พรรคไม่สามารถมีสมาชิกที่ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภาฯในเวลาเดียวกันได้เมื่อพรรคตัดสินใจเลือกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านซึ่งมีความสำคัญต่อการกำหนดทิศทางของฝ่ายค้านในการเมืองระบบรัฐสภา ทางกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จึงจะต้องเร่งหารือกับนายปดิพัทธ์ว่าจะตัดสินใจอย่างไรคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า
กก.บห.ชุดใหม่-ขอลุยนอกสภา
ด้านนายพิธากล่าวว่าขอแสดงความยินดี กับหัวหน้าพรรคคนใหม่ เลขาธิการพรรคคนใหม่และโฆษกพรรคคนใหม่ ในการทำงาน ของแกนนำพรรคชุดใหม่อย่างเต็มที่ แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงชั่วคราวแต่บริบทสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ก็มีความสำคัญ ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนตัวจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน โดยจะใช้ช่วงเวลานี้ลงพื้นที่นอกสภาให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทั่วประเทศไทย หรือ การพบปะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในต่างประเทศหลายๆที่ รอเวลาที่จะกลับเข้ามาในสภาและปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้แทนราษฎรของพี่น้องประชาชนต่อไป
อ้อนปชช.มั่นใจเดินไปด้วยกัน
“ขอให้คนไทยที่เคยเชื่อมั่นในตนเองและเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล ได้เชื่อมั่นในพรรคก้าวไกลเหมือนเดิม เพราะเชื่อว่าเรายังทำงานกันเป็นทีม แม้จะเปลี่ยนตำแหน่งเปลี่ยนเก้าอี้กันอย่างไรก็ตาม แต่ความเข้มข้นของเนื้อหาในการทำงานก็ยังมีเหมือนเดิม ขอให้มั่นใจและเดินไปกับพวกเรา”นายพิธา กล่าว
จากนั้น นายพิธาได้โอบกอดนายชัยธวัช เพื่อเป็นสัญลักษณ์การส่งมอบตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยนายพิธาเลี่ยงที่จะทำมือประกบหัวใจกับนายชัยธวัช เพื่อไม่ซ้ำรอยกับที่ทำมือหัวใจกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
วางยุทธศาสตร์‘ฝ่ายค้านเชิงรุก’
นายอภิชาติ กล่าวว่าในฐานะที่ตนได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมสมาชิกพรรควันนี้ รู้สึกว่าต้องเร่งตัวเองให้มากขึ้นเพราะเลขาธิการพรรคคนก่อนตอนนี้เป็นหัวหน้าพรรค แม้ว่าจะเป็นการปรับทัพชั่วคราว แต่ว่าทุกเวลา ทุกวัน พี่น้องประชาชนรอคอยการทำงานของพรรคก้าวไกลอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน เราก็มีความจำเป็นต้องจัดทัพให้เกิดความเข้มแข็ง วางยุทธศาสตร์ในการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทำงานให้ประชาชนได้อย่างสมบูรณ์แบบซึ่งตอนนี้ทางพรรคก็ได้วางยุทธศาสตร์การเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกไว้บนพื้นฐานข้อมูลที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ถูกต้องบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของสมาชิกและผู้แทนราษฎร
“ผู้แทนราษฎรของพรรคทุกคน ก็รับผิดชอบประเด็น รับผิดชอบกระทรวง ติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยนี่น่าจะเป็นการทำงานของฝ่ายค้านที่เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนทุกคน แล้วผมจะทำงานให้ดีที่สุด”นายอภิชาติ ย้ำ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเศรษฐาทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่าหากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พ้นโทษจะตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกฯว่า ตนทราบจากข่าวเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ว่านายเศรษฐาไม่ได้พูด และตนเข้าใจว่านายเศรษฐาต้องการปรึกษากับอดีตนายกฯที่ผ่านมาในเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ศีลธรรม และจริยธรรม ซึ่งไม่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอะไร
ชงกม.นิรโทษกรรมเข้าสภา
เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณอาจได้รับการปฏิบัติสองมาตรฐาน พรรคก้าวไกลจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไรนายพิธาตอบว่าตนยังไม่ได้ตามเรื่อง แต่เท่าที่ทราบทางพรรค ได้มีการพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)นิรโทษกรรมเพื่อที่จะทำให้เกิดความทัดเทียมและเป็นบรรทัดฐาน ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าสมาชิกพรรคและผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมกฏหมายในเรื่องดังกล่าว เพื่อยื่นเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี