วันนี้ 10 พ.ย. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงประกอบด้วย นายธนิต บุญญนสินีเกษม หรือเฮียแดง แกนนำกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย นายออด สุขตะโก นางถนอมศรี นามรัตน์ แกนนำกลุ่มแม่สรวยรัก ประชาธิปไตย นายอรรถกร กันทไชย เจ้าของวิทยุชุมชนคนเชียงรายรักประชาธิปไตย ชุมชนรั้วเหล็กเหนือ เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง นายธวัชชัย ทองนาค นายถวัลย์หรือวีระ ชมภูวิเศษ กลุ่มคนเจียงฮายรัก ประชาธิปไตย นางสุรีย์รัตน์ บุญบัวทอง จากกลุ่มแม่ลาวรักประชาธิปไตย ร.ต.ประพันธ์ แก้วมูล แกนนำกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ฯลฯ ได้นัดไปรวมตัวกันและใส่เสื้อแดงนั่งกินแมคโดนัล ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่าเชียงราย โดยไม่มีกิจกรรมทางการเมือง เพียงแต่ประชุมหารือและแสดงสัญลักษณ์ว่าพวกเขายังมีการรวมตัวกันต่อสู้อยู่

 

โดยเฉพาะการที่คนเสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และมีการจัดทำใบปลิวลักษณะต่างๆ ซึ่งมีเนื้อหาไม่ต้องการให้มีการนิรโทษกรรมคนที่ก่ออาชญากรรม ช่วงเหตุการณ์ชุมนุมที่เวทีแยกราชประสงค์เมื่อปี 2553 โดยกลุ่มที่ไปร่วมกันหารือครั้งนี้มีแนวทางขับเคลื่อนตามนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่จัดการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ในวันเดียวกัน

 

โดย นายธนิต กล่าวว่า การมารวมตัวกันในครั้งนี้เพราะต้องการแสดงสัญลักษณ์ และเตรียมความพร้อมที่จะแสดงว่าพวกเราไม่ต้องการพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และต้องการให้มีประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่เอาการไปเริ่มต้นใหม่หมดหรือ Set zero เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายที่กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และนิรโทษกรรมให้เฉพาะประชาชนระดับล่าง ที่ไม่มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรม โดยกระบวนการนี้ไม่ใช่ เฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้นที่ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่หมายทุกฝ่ายทั้งนักการเมือง กลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มคนเสื้อเหลือง ข้าราชการ ฯลฯ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะการจะ Set zero หากว่ากระทำเสียตั้งแต่ช่วงวันที่ 19 ก.ย. 2549 ที่มีการปฏิวัติก็คงไม่มีปัญหา แต่นี่ปล่อยให้ระยะเวลาผ่านไป จนเกิดการบาดเจ็บล้มตายไปด้วยกันทุกฝ่าย แล้วกลับจะมานิรโทษกรรม ซึ่งทำให้พวกเรารับไม่ได้

 

"พวกเรารู้สึกละอายแก่ใจ เพราะแม้แต่สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย คนหนึ่งกลับไปเป็นประธานคณะกรรมาธิการเพื่อผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นี้เสียเอง แล้ว ส.ส.เชียงราย ระบบเขต เลือกตั้งจำนวน 7 คน และบัญชีรายชื่ออีก 3 คนต่างไปยกมือเห็นชอบกับ พ.ร.บ.นี้เสียหมด" นายธนิต กล่าว

 

 

อย่างพวกตนและพวกรวม 5 คนประกอบด้วยตน นายอรรถกร นายทรงธรรม คิดอ่าน นายวิทยา ตันติภูวนาท และนางพิมพ์นารา หนองหารพิทักษ์ ซึ่งต้องคดีละเมิดพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อปี 2553 นั้น ทางศาลกำลังจะตัดสินคดีในวันที่ 11 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ และเมื่อตนโทรศัพท์ไปถาม ส.ส.เพื่อจะให้ช่วยประกันตัวก็ไม่มีใครรับสาย สอบถามไปยังแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ส่วนกลางก็บอกว่า ถ้าตัดสินให้ต้องจำคุกก็ให้ถูกจำคุกไปก่อน จากนั้นให้ทำเรื่องของย้ายไป เรือนจำหลักสี่แทน

 

นายธนิต กล่าวว่า ดังนั้นตนจะไม่ไปร่วมเวทีคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ และไม่ร่วมการจัดคาราวานรถพื้นที่ จ.เชียงราย ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ส่วนคนอื่นจะไปร่วมก็เป็นสิทธิส่วนตัว โดยพวกเราจะขับเคลื่อนไปตาม แนวทางที่ถูกต้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป และพวกเราไม่เห็นด้วยที่จะนำคนไปขับไล่หรือต่อต้านคนที่ชุมนุมแสดงความเห็นแตกต่างออกไป เพราะถ้าเรายึดมั่นในระบบประชาธิปไตยก็ต้องปล่อยให้ กลุ่มอื่นแสดงความเห็นได้ไม่ใช่พาคนไปขับไล่เขา