เร่งแก้หนี้ในระบบ-นอกระบบ
‘เศรษฐา’สั่งลุย
แถลงใหญ่28พ.ย./12ธ.ค.
‘อนุทิน’เด้งรับลูกนายกฯ
สั่งนายอำเภอ-ผกก.ทั่วปท.
ขึ้นทะเบียนหนี้นอกระบบ
“เศรษฐา”เตรียมแถลงแก้หนี้นอกระบบ 28 พฤศจิกายนนี้แถลงแก้หนี้ในระบบ 12 ธันวาคม ด้าน“อนุทิน”เผยสั่งนายอำเภอ-ผกก.ทั่วไทย สำรวจ-ขึ้นทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ อุบแก้ปัญหาอย่างไรให้เป็นรูปธรรม ขอรอฟังนายกฯแถลงใหญ่ พร้อมชู’แก้จน’เป็นวาระแห่งชาติ ลั่นต้องทำให้ได้ แจงไม่ใช่ทำให้ทุกคนรวย แต่คือปชช.พ้นทุกข์ พร้อมใช้สายสัมพันธ์‘ธรรมนัส’ของบ-แลกโครงการ อุ้มไปถึง‘เกษตรกร’ด้านกลุ่มอ้างตัวเป็นสมาชิก’ก้าวไกล’บุกมอบส้มช้ำใกล้เน่า-ยื่นร้องเรียนจัดการปลาเน่าในพรรค ย้ำศรัทธายังไม่หมด แต่อยากให้แก้ไขสิ่งที่เสียให้ดี ขู่ถ้ามารอบหน้าลาออกแน่ ยันไม่ได้มาโจมตี-ดิสเครดิตพรรค
เมื่อเวลา 13.30น.วันที่ 20พ.ย.2566 ที่กระทรวงการคลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รมว.คลัง ด้วยรถเบนซ์กันกระสุน รุ่น S600 ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งนายกฯ ทะเบียน4กค29กรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึง นายเศรษฐา ปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียด กรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าพบ โดยกล่าวว่า มีหลายเรื่องซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องของความมั่นคง แต่ขออนุญาตไม่แถลง
นายเศรษฐา ระบุว่า การประชุมวันที่ 20พ.ย.ที่กระทรวงการคลัง มีวาระหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เคยแถลงไปแล้วว่า ปลายเดือนพ.ย.นี้ จะมีการแถลงข่าวเรื่องแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งวันนี้จะต้องมาปรึกษาว่า มีกลุ่มไหนบ้างที่ขาดการดูแล ส่วนเรื่องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้มอบหมาย นายอนุทิน ชาญชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ไปแล้ว ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่า จะมีการแถลงข่าวพร้อมกันกับประเด็นการบริหารหนี้ทั้งหมด หรือจะแยกรายละเอียดกัน
นายกฯแถลงแก้หนี้นอกระบบ28พ.ย.
เวลา 16.00น.นายเศรษฐา เปิดเผยหลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เรื่องใหญ่ที่มาคุยวันนี้คือการแก้ไขปัญหาหนี้สินโดยรวมทั้งหมด โดยเราแบ่งออกเป็น 2ส่วน คือ หนี้นอกระบบ และหนี้ในระบบ ซึ่งเรื่องของหนี้นอกระบบตนจะแถลงในวันที่ 28พฤศจิกายน ซึ่งเป็นการแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการ สำหรับหนี้ในระบบซึ่งถือเป็นหนี้ใหญ่ จะแถลงอีกวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 14.00น.ซึ่งจะแถลงครบทั้งแพ็คเกจในการแก้ไขหนี้ในระบบ นอกจากนี้ยังได้ให้การบ้านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปทำด้วย
สั่งนอภ.ขึ้นทะเบียนหนี้นอกระบบ
ด้าน นายอนุทินชาญ วีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมแถลงแผนแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล 28พ.ย.ว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้ทำตามคำสั่งนายกฯโดยให้นายอำเภอ ผู้กำกับการ แต่ละโรงพัก ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเป็นผู้ประสานงานในการแก้ไข ปัญหาหนี้ ซึ่งจะไม่ใช้คำว่าหนี้นอกระบบ แต่เป็นหนี้ที่เอารัดเอาเปรียบ พี่น้องประชาชน และการชาร์จดอกเบี้ย ที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด ในบางครั้งประชาชนต้องจ่ายเงินต้นไม่รู้กี่รอบ แต่หนี้ก็ยังอยู่ เพราะติดอยู่ในอัตราดอกเบี้ยที่สูง เราจึงต้องเร่งแก้ไขตรงนี้ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ ประชาชนมีปากเสียงมากไม่ได้ เพราะเกรงกลัวอิทธิพล ทั้งของความเป็นเจ้าหนี้และผู้ที่มีกำลังเหนือกว่าตนเอง ซึ่งรัฐบาลต้องเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเราเชื่อว่าถ้านายอำเภอและผู้กำกับโรงพัก เข้ามาดูแล การเอารัดเอาเปรียบและข่มเหงพี่น้องประชาชนก็จะลดลงไป ซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์และกุสโลบายของนายกฯ
แนะลงพื้นที่พบผู้เดือดร้อนโดยตรง
นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยถือเป็นหน้าที่ โดยให้นายอำเภอ เรียกลูกหนี้ ทั้งหลายมาแสดงตนขึ้นทะเบียน เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งเราก็เข้าใจว่า บางทีก็ ไม่มีใครกล้ามา ดังนั้นนายอำเภอ ปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงมีหน้าที่ออกไปสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหนี้นอกระบบ เพื่อที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหา ส่วนจะเร่งรัดให้เห็นผลเป็นรูปธรรม อย่างไรนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ขอให้รอฟังนายกฯรีแถลงให้พี่น้องประชาชนรับทราบ ในวันที่ 28พ.ย.นี้
ยกแก้ปัญหายากจนเป็นวาระแห่งชาติ
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องวาระแห่งชาติ นโยบายแกก้จนของประเทศ ในงานสัมมนาเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน วิถีความสำเร็จและความเป็นอยู่ที่ดี จัดโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำวุฒิสภา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตอนหนึ่งว่า นโยบายแก้จน ต้องเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า ที่ผ่านมาในการหาเสียงไม่มีรัฐบาลใดไม่คิดแก้ปัญหาความยากจน ดังนั้นเมื่อประกาศเป็นวาระแห่งชาติแล้วต้องแก้ไขให้ได้ ไม่ใช่ให้เป็นวาระที่ต้องทำแบบถาวร เมื่อตนมีโอกาสทำงานที่กระทรวงมหาดไทย ต้องทำทุกอย่างเพื่อกำจัดความยากจน และเป็นภารกิจและวาระแรกของตนที่ตั้งใจจะทำ
“ถ้าตั้งใจแก้ปัญหา โดยให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำปัญหาปากท้องให้ดีขึ้นเยอะๆ เมื่อมีคนพูดว่ามาแก้ความจน ผมก็ท้อ เพราะต้องแก้ทุกอย่างจะแก้ได้อย่างไร มีแค่พูดกันไป โยนกันมา แต่ผมมองว่าการแก้ปัญหาความยากจน ไม่ใช่ให้ทุกคนรวย เพราะความรวยมีหลายระดับ แต่ต้องทำให้ประชาชนพ้นทุกข์ขั้นพื้นฐาน มีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น พ้นความลำบาก ซึ่งนโยบายแก้จนของประเทศไทยต้องเป็นวาระแห่งชาติ โดยสนับสนุนสวัสดิการด้านต่างๆ ยกระดับการศึกษา เพิ่มรายได้ด้วยนวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย ผมเชื่อว่าจะสามารถลดความเหลื่อล้ำ ความยากจน และพัฒนาให้เติบโตที่ยั่งยืนได้” นายอนุทิน กล่าว
พัฒนาการศึกษา-ลดรายจ่าย-หาแหล่งน้ำ
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า กระทรวงมหาดไทยพร้อมสนับสนุนภารกิจต่างๆ รวมถึงนโยบายที่จะแก้ปัญหาตามอำนาจและหน้าที่ โดยตนขอให้สัญญาประชาคม และยืนยันความพร้อมทำเรื่องดังกล่าวให้สำเร็จ ทั้งนี้แผนการทำงานนอกจากต้องสนับสนุนเรื่องปัจจัย 4 ให้ประชาชนแล้ว ยังต้องเติมเต็มปัจจัยที่ 5 คือการศึกษาของเยาวชนที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันต้องหาทางลดรายจ่ายของประชาชน เช่น สนับสนุนให้น้ำประปาดื่มได้ เพื่อประชาชนไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อน้ำบริโภค นอกจากนั้นแล้วตนยังมองในประเด็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการอพยพย้ายถิ่นที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเปิดกว้างให้ประชากรคุณภาพจากต่างชาติเข้ามาในประเทศ สำนักสถิติระบุว่าประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมีมากที่สุดและเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยที่สุด ดังนั้นการแก้ปัญหา คือ การหาที่ดินทำกินและพัฒนาแหล่งน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรม โดยตนฐานรองนายกฯ ที่ดูแลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมจะใช้นวัตกรรมเพื่อใช้การบริหารจัดการน้ำ อีกทั้งต้องทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
จับมือ’ธรรมนัส’ร่วมกันเร่งแก้ปัญหา
“ผมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ถือเป็นเพื่อร่วมรุ่นกันที่มีสายสัมพันธ์ ได้พูดคุยกกันและมีแนวคิดแนวทางเดียวกัน ซึ่งจะใช้เวลาเท่ากับอายุของรัฐบาลนี้ ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด ผมอาจจะขอเยอะ อาจจำเป็นต้องแลกกัน ทั้งงบประมาณที่ใช้ หรือโครงการที่ใช้ ผมจะใช้ความสัมพันธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและบ้านเมือง” นายอนุทิน กล่าว
‘พิชิต’’ชี้หลังปีใหม่‘ทักษิณ’เรื่องร้อน
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “วิกฤติการเมือง” ระบุว่า การเมืองจะเข้มข้นอีกครั้งหลัง ทักษิณ ชินวัตร พ้นโทษ หรือ ได้รับการพักโทษ เมื่อนั้นการปรับ ครม.น่าจะเกิดขึ้นและอุ๊งอิ๊งจะขยับเข้ามาเป็น รองนายกฯ โจทย์ใหญ่ของ เศรษฐา 2 คือ ทำอย่างไรให้ ยิ่งลักษณ์ กลับประเทศแบบไม่ติดคุก ถึงตอนนั้น พรบ.ปรองดอง จะถูกโยนลงมาให้ประชาชนถกเถียงกันภายใต้ สโลแกน เดินหน้าประเทศไทย เดินหน้าประเทศไทยที่ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์มีแต่ได้ การเมืองหลัง ทักษิณ พ้นโทษ (ไม่ได้นอนเรือนจำ) จึงเป็นชนวนระเบิดใหม่ ที่ถูกความปรองดองปิดไว้ แต่ชนวนระเบิดมันไม่ดับ มีแต่เผาไหม้ไปเรื่อยๆ จับตาการเมืองหลังปีใหม่ อาจจะร้อนแรงกว่านี้”
“ก้าวไกล”พร้อมรับฟังเสียงท้วงติง ตั้งเป้าปีนี้สมาชิก 1 แสนคน หวังใช้การกระทำฟื้นฟูศรัทธา
‘ก้าวไกล’พร้อมรับฟังทุกปัญหาพรรค
ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายพริษฐ์วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมาชิกพรรคก้าวไกลประมาณ 10คน จะมายื่นหนังสือลาออกเนื่องจากไม่พอใจในพฤติกรรมของ สส.ก้าวไกลบางส่วน จะกระทบต่อชื่อเสียงของพรรค และการหาสมาชิกพรรคเพิ่มหรือไม่ ว่า ในภาพรวมพรรคก้าวไกลเราตั้งเป้าหมายไว้อยู่แล้วว่า เราต้องการเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน และสมาชิกอย่างแท้จริง หากมีสมาชิกพรรคที่อาจจะมีความกังวล หรือมีข้อท้วงติงมา เราก็ยินดีรับฟังทุกเสียง
หวัง’กก.บห.’ชุดใหม่ฟื้นภาพลักษณ์
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า การประชุมสามัญประจำปีของพรรคก้าวไกล ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย.ถึง พ.ค.2567 ผู้บริหารพรรคได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เมื่อกรรมการบริหารพรรคชุดนี้จะหมดวาระลง ก็จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยจะเปิดให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการหาตัวแทนประจำอำเภอที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงนี้ เข้ามามีส่วนร่วม
เมื่อถามว่า แกนนำและหัวหน้าพรรคมีแนวทางในการฟื้นฟูศรัทธาของพรรคอย่างไรบ้าง นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าการฟื้นฟูที่ดีที่สุดคือ การฟื้นฟูด้วยการกระทำ ดังนั้น หากมีข้อท้วงติงอะไรมาว่า ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่สามารถป้องกัน หรือรับมือกับปัญหาใดๆ ได้ดีเท่าที่ควร เราสามารถประกาศมาตรการที่เราจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สิ่งที่น่าจะเป็นบทพิสูจน์ในการเรียกความเชื่อมั่นได้ดีที่สุดคือ การพิสูจน์ด้วยการกระทำ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราจะเดินหน้าต่อ เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มองว่าเป็นกระบวนการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากมีการโพสต์และทวิตข้อความซ้ำๆ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าที่มาและความเห็นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อมีความเห็นเข้ามาว่า อาจจะมีประชาชนคนใดคนหนึ่งไม่พอใจ หรือต้องการวิพากษ์วิจารณ์ ท้วงติงพรรค ไม่ว่าเจตนาจะเป็นอย่างไร ตนยินดีรับฟัง ถ้าพรรคการเมืองจะเข้าไปบริหารประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกเสียงก็มีความหมาย ตนขอไม่ให้ความเห็นว่า เจตนาของแต่ละข้อเสนอแนะ หรือข้อวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างไร สิ่งที่ตนให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ตัวเนื้อหาสาระของคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น และหากคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริง เราก็พร้อมที่จะรับฟัง และปรับปรุงแก้ไข
บุกมอบ‘ส้มช้ำ’จัดการปลาเน่าในพรรค
เวลา 11.00น. ที่พรรคก้าวไกล กลุ่มที่อ้างว่าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล นำโดย นายสะอาด คงอิ่ม ในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกล พร้อมกับกลุ่มบุคคลอีกประมาณ 10 คน เดินทางมาที่ทำการพรรค พร้อมนำส้มช้ำใกล้เน่าและเอกสารมามอบให้เจ้าหน้าที่พรรค เรียกร้องให้พรรคก้าวไกล จัดการกับสมาชิกและสส.ที่มีพฤติกรรมทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสื่อมเสีย เช่น มีพฤติกรรมเมาแล้วขับ พฤติกรรมคุกคามทางเพศและมีพฤติกรรมส่อทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ โดย นายสะอาด กล่าวว่า ปัญหาการคุกคามทางเพศ เป็นปัญหาการแทรกแซงเรื่องการแปรอักษรของโรงเรียนมัธยมชื่อดัง ทำให้ตนรู้สึกอึดอัดใจต่อข่าวที่ออกมา ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเสียหาย จนเป็นสาเหตุในการออกมาแสดงจุดยืนในวันนี้
ไม่ได้ดิสเครดิต-หวังทำให้พรรคดีขึ้น
ทั้งนี้ นายสะอาด ยืนยันว่า การทำกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ได้มาโจมตีพรรคก้าวไกล แต่ต้องการให้พรรครักษาความดีและคุณภาพของความเป็นก้าวไกล ซึ่งพรรคยังไม่ได้ตั้งรัฐบาล แต่กลับมีปัญหาด่างพล้อย จึงขอผู้บริหารพรรคตรวจสอบไม่ให้มีข่าวไม่ดีอีก พร้อมยอมรับว่า มีความพอใจในระดับหนึ่งสำหรับบทลงโทษต่อ ส.ส.ผู้ที่กระทำผิดข้อบังคับพรรค
ถ้ายังไม่ปรับปรุงยื่นลาออกสมาชิกแน่
“ถ้าจะมาถามถึงว่าเป็นสมาชิก ผมไม่ได้เป็นสมาชิกก็ได้ แต่ผมเลือกพรรคก้าวไกล เลือกตั้งแต่อนาคตใหม่มาโดยตลอด อย่างนี้เรียกว่าผมไม่ได้เป็นสมาชิกเหรอครับ ผมเป็นอะไร พี่ถามผมว่ามีบัตรสมาชิกหรือไม่ ผมถามกลับว่า ผมเลือกตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกลมาโดยตลอด” นายสะอาด กล่าว จากนั้นทำให้เกิดการถกเถียงกันระหว่างนายสะอาดและผู้สื่อข่าว โดยผู้สื่อข่าวพยายามอธิบายว่า ในแง่ของกฎหมายต้องมีชื่อเป็นสมาชิกพรรค หากเป็นผู้เลือกตั้งจะเป็นแค่ผู้สนับสนุน ซึ่งกลุ่มที่มาทำกิจกรรมยืนยันว่า มีหลักฐานเอกสารการเป็นสมาชิก ครั้งหน้าจะนำมาด้วยเพื่อไขข้อข้องใจและวันนี้ยังไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค แต่เป็นมาตรการขั้นแรก หากพรรคไม่ทำตามข้อเรียกร้อง หรือเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ก็จะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี