เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดบัญชีทรัพย์สิน นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หรือ "กำนันป้อ" กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.เมื่อวันที่ 23 ก.ค.62 โดย นายวีรศักดิ์ แจ้งว่า ตนเองและ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 574,263,202 บาท มีหนี้สินรวม 2,653,428,984 บาท
โดยเป็นทรัพย์สินของนายวีรศักดิ์ 248,761,239 บาท แบ่งเป็นเงินสด 320,000 บาท เงินฝาก 1,025,239 บาท เงินให้กู้ยืม 226,300,200 บาท ที่ดิน 18,001,800 บาท ยานพาหนะ 1.15 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 1,964,000 บาท อาทิ อาวุธปืน 25 กระบอก สร้อยคอทองคำพร้อมจี้พระน้ำหนักรวม 26 บาท รวม 3 เส้น นาฬิกาข้อมือ Rolex จำนวน 1 เรือน และมีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 2,385 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นการกู้ธนาคาร 4 แห่ง เพื่อค้ำประกันสินเชื่อ
ทั้งนี้ นายวีรศักดิ์ แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 163,400,200 บาท เป็นเงินเดือนจากบริษัท 1.1 ล้านบาท ขายหุ้นแต่ยังไม่ได้เงิน 162,300,200 บาท และมีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าอุปโภคบริโภค 960,000 บาท
ส่วนนางยลดา ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มีทรัพย์สินรวม 32,551,962 บาท แบ่งเป็นเงินสด 350,000 บาทเงินฝาก 4,923,403 บาท เงินให้กู้ยืม 286,504,944 บาท ที่ดิน 9,883,615 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 9.12 ล้านบาท เป็นบ้านพักใน จ.นครราชสีมา และห้องชุดเขตราชเทวี กรุงเทพฯ ยานพาหนะ 4.7 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 1 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 9,020,000 บาท อาทิ ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ 2 กระบอก สร้อยเพชรทับทิม/ไพลิน/บุษราคัม รวม 3 เส้น สร้อยเพชรพร้อมข้อมือแหวนต่างหูรวม 2 ชุด กระเป๋าสะพาย Chanel Hermes รวม 3 ใบ นาฬิกา Patek Philips ในการ Rolex รวม 2 เรือน
โดยมีหนี้สินรวม 268,428,984 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 5,947,759 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 147,423,624 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 115,057,600 บาท
และนางยลดา แจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 130,831,600 บาท จากเงินเดือนบริษัท 540,000 บาท ที่เหลือได้จากการขายหุ้นแต่ยังไม่ได้รับเงิน มีรายจ่ายต่อปีค่าอุปโภคบริโภคประมาณ 480,000 บาท
ทั้งนี้ เงินให้กู้ยืมของบุคคลทั้งสองรวม 512,805,144 บาทนั้น ระบุว่าเป็นการให้ น.ส.สุดาวรรณ บุตรสาวคนโต กู้เมื่อ 17 ก.ค.62 รวม 117 ล้านบาท และ น.ส.วีรียา บุตรสาวคนเล็ก กู้เมื่อวันที่ 1 และ 8 ก.ค.62 รวม 84 ล้านบาท โดยยอดหนี้คงเหลือเต็มจำนวน รวมทั้ง น.ส.สุดาวรรณ ยังเป็นลูกหนี้สัญญาซื้อขายหุ้น 126,525,000 บาท และนางสาววีรียา เป็นลูกหนี้สัญญาซื้อขายหุ้นมูลค่า 204,084,100 บาท นายชาคริต ตรีกุล ลูกหนี้สัญญาซื้อขายหุ้นรวม 25,982,700 บาท และนายจำเนียร แกล้วกล้า 20, 213,344 บาท โดยมียอดหนี้คงเหลือ 19,213,344 บาท
ก่อนหน้านี้นายวีรศักดิ์ และคู่สมรส เคยแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.คมนาคม เมื่อวันที่ 18 ม.ค.66 ว่ามีทรัพย์สินรวม 452,479,174 บาท และมีหนี้สิน 36,585,979 บาท โดยวีรศักดิ์เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรมจำกัด จ.นครราชสีมา เป็นอดีตแกนนำพรรคภูมิใจไทย และรมช.คมนาคม รมช.พานิชย์ ก่อนได้ลาออกจากตำแหน่ง รมช.คมนาคม และทุกตำแหน่งในพรรคภูมิใจไทย โดยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล บุตรสาว ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี