‘เศรษฐา’ลั่นเลิกทาสหนี้นอกระบบ
ปลดปล่อยปชช.
สั่ง‘สตช.-มท.-คลัง’เร่งแก้ไข
คุมดอกเบี้ยห้ามเกิน 15% ต่อปี
ส่งนอภ./ผกก.ช่วยไกล่เกลี่ย
ขู่ฟันไม่เลี้ยงแก๊งปล่อยกู้โหด
นายกฯแถลงวาระแห่งชาติ “แก้หนี้นอกระบบ” กว่า 5 หมื่นล้าน ซัดกัดกร่อนสังคมไทย เป็นการค้าทาสยุคใหม่ ประกาศปลดปล่อยปชช.พ้นทาสหนี้นอกระบบ สั่ง “ตำรวจ-มท.-คลัง” ยกเครื่องแก้หนี้ทั้งระบบ มอบนายอำเภอ-ผกก.ตัวกลางเรียกเจ้าหนี้-ลูกหนี้ ไกล่เกลี่ย คุมดอกห้ามเกินร้อยละ 15 มท.1ฮึ่มเจ้าหนี้โหดไม่ยอมเข้ากระบวนการ ใช้กม.จัดการเด็ดขาด พร้อมเปิดรับลูกหนี้ลงทะเบียนผ่านศูนย์รับเรื่องแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ตั้งขึ้นทุกจังหวัด
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และพล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าววาระแห่งชาติ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
ชูแก้หนี้นอกระบบวาระแห่งชาติ
โดยนายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลเห็นปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหากัดกร่อนสังคมไทยมานาน เป็นเรื่องใหญ่ของคนไทยจำนวนมาก รัฐบาลจะเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบยกเป็นวาระแห่งชาติ ฟื้นฟูความเป็นอยู่ คืนศักดิ์ศรีความหวังและสร้างความมั่นคงให้ประชาชน โดยความร่วมมือจากฝ่ายปกครอง ตำรวจที่บังคับใช้กฎหมาย มาทำงานแก้ไขทั้งเรื่องหนี้ เรื่องความสัมพันธ์ระดับชุมชน นอกจากแก้หนี้แล้ว รัฐบาลจะฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งระดับครัวเรือนจนถึงมหภาค ยกระดับความเป็นอยู่ ไม่ให้กลับไปมีหนี้ล้นพ้นตัวอีก
คาดมูลค่าหนี้เกิน5หมื่นล้าน
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสังคมอีกหลายประการ รัฐบาลประเมินจำนวนครัวเรือนที่มีปัญหาหนี้นอกระบบ คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนคิดว่าเลขนี้น่าจะประเมินไว้ค่อนข้างต่ำ ปัญหาจริงน่าจะมีมากกว่านั้น หนี้นอกระบบเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อทุกคนที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นรากฐานสำคัญของประเทศ ต้องเจอกับความเปราะบางที่เกิดจากหนี้สิน ใช้เท่าไหร่ไม่มีวันหมด ปิดโอกาสการต่อยอดไปหลายอย่าง ไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่งผลกระทบเป็นโดมิโนไปทุกภาคส่วน
ชี้เป็นการค้าทาสยุคใหม่
“สำหรับผม หนี้นอกระบบถือว่าเป็น Modern World Slavery เป็นการค้าทาสในยุคใหม่ที่ได้พรากอิสรภาพ ความฝัน ไปจากผู้คนในยุคสมัยนี้”นาเศรษฐากล่าว และว่า ปัญหานี้เรื้อรัง และใหญ่ เกินกว่าที่จะแก้ปัญหาได้โดยไม่มีภาครัฐเป็นตัวกลาง รัฐบาลจึงต้องบูรณาการทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการคลัง ไม่ให้ประชาชนกลับไปอยู่ในวงจรหนี้สินนอกระบบอีก โดยภาครัฐรับบทเป็นตัวกลางสำคัญในการไกล่เกลี่ยพร้อมกันทั้งหมด ดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการปิดหนี้ การทำสัญญาไม่เป็นไปตามกฏหมาย มีดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม และกระบวนการทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรง ต้องจัดให้ทำสัญญาที่เป็นธรรมและเป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้น การแก้หนี้นอกระบบ ภาครัฐต้องทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ทำให้ลูกหนี้มีโอกาสหายใจ มีกำลังใจดำเนินชีวิต หาเงินมาปิดหนี้ให้ได้
ย้ำตร.-มท.ทำงานให้ดีกว่าอดีต
นายกฯกล่าวอีกว่า ตนสั่งการไปช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนให้ตำรวจและมหาดไทยไปทำการบ้านเพื่อทำงานร่วมกันให้ดีกว่าในอดีตที่แยกกันทำ ไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน มีขอบเขตการทำหน้าที่รับผิดชอบร่วมกัน ที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ หมายความว่า การแก้หนี้นอกระบบต้องทำด้วยกันแบบ End-to-end ต้องมีมาตรการต่อเนื่อง ไม่ให้ประชาชนกลับเข้าไปอยู่ในวงจรอีก โดยต้องทำฐานข้อมูลกลาง นำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างความโปร่งใสตั้งแต่ต้นจนจบ ให้เลขตรวจสอบ (Tracking ID) ที่ประชาชนนำไปใช้ติดตามผลได้ มีวิธีการเข้าสู่กระบวนการหลายรูปแบบ เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน ต้องสื่อสารกับประชาชนถึงความคืบหน้าแบบตรงไปตรงมา ต้องมีกระบวนการถ่วงดุลระหว่างหน่วยงาน เพราะบางกรณีเจ้าหนี้หรือลูกหนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขอให้ทุกส่วนทำงานตรงไปตรงมา เข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยให้ถูกต้อง ขอฝากให้ทั้งสองหน่วยงานทำงานมีเป้าหมาย มี เป้าประสงค์ (KPI) ร่วมกัน กรอบเวลาชัดเจน ตนจะติดตามผลใกล้ชิด
ประกาศปลดปล่อยปชช.พ้นทาสหนี้
ทั้งนี้ หลังขั้นตอนไกล่เกลี่ยแล้ว รัฐบาลจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ โดยกระทรวงการคลังจะเข้ามาช่วยในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ทั้งปรับระยะเวลา เงื่อนไข ให้ประชาชนใช้หนี้ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่เบียดบังการใช้ชีวิตจนทำให้ท้อถอย โดยรัฐบาลจะระมัดระวังไม่สร้างภาวะอันตรายทางศีลธรรม ในมาตรการการช่วยเหลือทั้งหมด การแก้หนี้วันนี้คงไม่ใช่ยาปาฏิหาริย์ ที่จะทำให้หนี้นอกระบบไม่เกิดขึ้นอีก แต่ตนมั่นใจว่า ด้วยเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะทำให้ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น จนไม่จำเป็นต้องก่อหนี้อีกในอนาคต และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนรายเล็ก รายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้มากขึ้น
นายกฯกล่าวด้วยว่า นอกจากหนี้นอกระบบแล้ววันที่ 12 ธันวาคมจะแถลงเรื่องภาพรวมหนี้แบบครบวงจร ซึ่งครอบคลุมทั้งหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบอีกครั้ง ตนจะทำให้โครงการนี้ช่วยปลดปล่อยประชาชนจากการเป็นทาสหนี้นอกระบบ ลืมชีวิตที่เคยลำบาก มีกำลัง มีแรงใจทำตามความฝัน
ห้ามคิดดอกเกินร้อยละ15/ปี
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบมีหลักเกณฑ์เรื่องดอกเบี้ยอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ห้ามคิดเกินร้อยละ 15 ต่อปี และต้องดูว่าตั้งแต่เป็นหนี้ไปแล้วจ่ายเงินไปแล้วเท่าไหร่ หากจ่ายเกินไปแล้วก็ต้องยกเลิกต่อกัน
นายเศรษฐาย้ำว่า การแก้หนี้ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ที่ผ่านมาไม่ได้ทำแบบบูรณาการ ครั้งนี้ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายมั่นคง จะให้เจ้าหนี้มาเจรจา และกระทรวงการคลังเข้ามาช่วยเหลือ อีกทั้ง จะแก้หนี้ในระบบด้วย ตรงนี้จะเป็นอีกส่วนที่จะทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ วันที่ 12 ธันวาคมจะแถลงภาพรวมทั้งระบบ เพราะรัฐบาลจะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและในระบบมาประสานกัน ทำให้ประชาชนกลับมาเป็นหนี้ยากขึ้น จะไม่ให้เป็นหนี้เลยคงลำบาก แต่เราจะทำให้เป็นธรรมตามที่กฎหมายกำหนด
8ธค.เรียกนอภ.-ผกก.ขันน๊อต
ถามถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศ นายเศรษฐากล่าวว่า ยืนยันเรื่องนี้เราให้ความสำคัญ การยกระดับเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสำคัญ นโยบายรัฐบาลมีอีกหลายเรื่องที่จะทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น ต้องเริ่มจากลดค่าใช้จ่ายก่อน ซึ่งตนทำแล้ว ทั้งลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน พักหนี้เกษตรกร แต่เรื่องหนี้นอกระบบเราต้องแก้จริงจัง วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี วันที่ 8 ธันวาคมจะประชุมนายอำเภอและผู้กำกับทั่วประเทศ ให้นโยบาย มอบ KPI ติดตามผลงานต่อเนื่อง จะไม่เหมือนที่เคยทำกันมา ส่วนคนที่ปล่อยกู้นอกระบบส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพล หากไม่ยอมเข้ากระบวนการการไกล่เกลี่ย นโยบายรัฐบาลไม่ยอมรับผู้มีอิทธิพลนอกระบบ หรือเป็นมาเฟีย ตรงนี้ต้องจัดการไป บ้านเมืองมีกฎหมาย อัตราดอกเบี้ยต้องชัดเจน เราจะเรียกทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้มาคุย
สตช.รับลูกจัดการทวงหนี้โหด
ด้านพล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า สตช.รับผิดชอบบังคับใช้กฎหมาย เราเห็นความเดือดร้อนการทวงโดยใช้ความรุนแรง โดยมีสายด่วน 1559 รับแจ้งปัญหา มอบหมายให้ตำรวจตรวจตราพื้นที่อย่าเข้มข้น เพื่อสำรวจข้อมูลผู้ประกอบการหนี้นอกระบบทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึงปัจจุบันจับกุมผู้ทำผิดได้ 134 ราย ยึดของกลางมูลค่า 8 ล้านบาท ทั้งนี้ ผบ.ตร.พร้อมทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการติดตามผลอย่างโปร่งใส
ดึง“ออมสิน-ธกส.”ปลดหนี้/ที่ดิน
ขณะที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลังกล่าวว่า นายกฯสั่งกระทรวงการคลังดูแลลูกหนี้นอกระบบ หลังปรับโครงสร้างหรือไกลเกลี่ยกันเรียบร้อยแล้ว โดยมีธนาคารของรัฐดูแล อย่างธนาคารออมสิน และเรามีโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอยู่แล้ว ซึ่งให้กู้รายหนึ่งไม่เกิน 50,000 บาท ในระยะเวลา 5 ปี และอีกส่วนเป็นเรื่องโครงการสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระรายย่อยเพื่อส่งเสริมอาชีพ ให้กู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ระยะเวลาสูงสุด 8 ปี อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามความสามารถของลูกหนี้แต่ละราย นอกจากนี้ ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็มีโครงการรองรับ หากใครจะนำที่ดินมาฝากขาย หรือติดจำนองที่เกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ธ.ก.ส. จะมีวงเงินให้เกษตรกรต่อราย 2.5 ล้านบาทช่วยแก้เรื่องที่ดินทำกิน
“สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจดำเนินการให้ถูกกฎหมาย เรามีช่องทางให้ขออนุญาตเรื่อง pico finance ซึ่งมีผู้มาขออนุญาตแล้วมากกว่าพันรายทั่วประเทศ เรามีทุนจดทะเบียนให้ผู้ประกอบการแต่ละราย 5 ล้านบาท”นายกฤษฎา กล่าว
1ธค.เปิดรับลงทะเบียนแก้หนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์หลังแถลงนโยบายแก้หนี้นอกระบบร่วมกับนายกฯว่า นายอำเภอและผู้กำกับจะเป็นคนช่วยไกล่เกลี่ย ซึ่งจะรับทราบปัญหาชาวบ้านเป็นอย่างไร ถ้ามีการข่มเหงรังแก เป็นการใช้อิทธิพล ก็เข้ามาตรการปราบอิทธิพล จัดระเบียบสังคม โดยเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จนั้น หลังปลัดกระทรวงมหาดไทยได้รับแนวทางของนายกฯตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยตั้งศูนย์ให้ประชาชนที่เป็นลูกหนี้นอกระบบมาขึ้นทะเบียนได้ที่ศาลากลางจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมประจำอำเภอหรือจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯไปลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขตทุกเขต จะเริ่มเปิดระบบให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป เพื่อให้กระทรวงฯมีข้อมูลผู้เป็นหนี้นอกระบบ รวบรวมปัญหานำไปแก้ไขนอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยสั่งผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ลงพื้นที่ ไปสำรวจ มีใครตกหล่น คนที่จะแก้ไข เบื้องต้นต้องเป็นนายอำเภอ และผู้กำกับฯ ซึ่งอยู่ใกล้ชิดอยู่ในพื้นที่ เราพยายามแก้ปัญหาให้มากที่สุด
ฮึ่มใช้กม.จัดการเจ้าหนี้ดอกโหด
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มปล่อยกู้ดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด จะอยู่ในบัญชีผู้มีอิทธิพลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเจ้าหนี้ไปข่มเหงรังแกมีอาวุธ ก็เข้าลักษณะผู้มีอิทธิพล เรากำลังจัดระเบียบสังคม ให้เป็นนิติรัฐให้มากที่สุด กฎหมายต้องดูแลประชาชน เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ ต้องลงมาดูแลทำงานร่วมกัน เรื่องแบบนี้ ทำมาตลอด แต่เมื่อก่อนเราแค่ไกล่เกลี่ยไง แต่ครั้งนี้ กระทรวงการคลังก็มาแล้ว ถ้าคุณไปเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อวัน ผิดกฎหมาย เมื่อผิดกฎหมายมีหลายหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน ทั้งกระทรวงการคลัง ทั้งสรรพากร ต้องใช้กฎหมายจัดการ ที่นายกฯแถลงข่าวยังย้ำว่า ให้ไปหาแหล่งเงินมาด้วย ให้คุยกันก่อน ทำให้หนี้นอกระบบรีไฟแนนซ์ มาเป็นหนี้ในระบบ ให้ได้รับความเป็นธรรม ถูกกฎหมาย แต่ไม่ได้ยกหนี้ จากนี้ต้องประชาสัมพันธ์เรื่องการลงทะเบียนออนไลน์ ให้ลูกหนี้แจ้งเรื่องเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งต้องมีการไกล่เกลี่ย เพราะตอนกู้สองฝ่ายยินยอม แต่ต้องไม่ให้ฝ่ายใดถูกรังแก
“อะไรที่มันข่มเหง ทำผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ เราใช้กฎหมายดำเนินคดี เรื่องแก้หนี้ ทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ สมยอม ต้องฟังทั้งสองฝ่าย อย่างนายอำเภออาจถามว่ากู้มาเท่าไร หมึ่นนึง ร้อยละ 5 ต่อวัน กู้มา 3 ปี เขาอาจจะจ่ายไป 5 หมื่นแล้ว ต้องปล่อยแล้ว ต้องจบแล้ว มันต้องหยุดการข่มเหงรังแก ประชาชน ถ้าพบข้าราชการปล่อยกู้ ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย” นายอนุทินกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี