‘เครือข่ายกัญชา’ออกแถลงการณ์จวก‘หมอชลน่าน’ไม่รักษาคำพูด แอบลงนามร่าง พ.ร.บ.กัญชาเสนอครม. ทั้งที่บอกจะเปิดเวทีฟังความเห็นประชาชน ขู่หาก‘สธ.’ยังทำทุกอย่างภายใต้การเมือง เครือข่ายฯเคลื่อนไหวแน่นอน ‘หมอเดชา’ซัด 2 มาตรฐาน ส่งเสริมเหล้า-ลอยแพกัญชา จำกัดสิทธิ์เข้าถึงการรักษาของประชาชน
8 มกราคม 2567 นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เฟซบุ๊กแถลงการณ์ของเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โดยระบุว่า ตามที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับปากเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยเมื่อครั้งหารือร่วมกันว่า ก่อนการนำร่างเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีจะเปิดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนเพื่อทำให้มาตรการต่าง ๆ ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง แต่ปรากฏตามสื่อมวลชนหลายฉบับรายงานข่าวว่าเมื่อวานคือวันที่ 6 มกราคม 2567 รัฐมนตรีชลน่านได้ลงนามร่าง พ.ร.บ.กัญชาส่งไปยังคณะรัฐมนตรีแล้ว
“ท่านรัฐมนตรีชลน่าน ศรีแก้ว เหตุใดจึงไม่รักษาคำพูด ท่านเป็นแบบนี้บ่อยครั้งมากจนเราคิดว่านี่อุปนิสัยของท่าน การรับฟังนั้นจะต้องทำก่อนการนำส่งร่าง มิใช่ว่านำส่งร่างไปแล้วมารับฟังทีหลัง กฎหมายของท่านเรายังไม่เห็นว่ากำหนดมาตรการทั้งหมดว่าอย่างไร แต่จากการให้สัมภาษณ์ของท่านเราคิดว่าหลายมาตรการมีปัญหา ไม่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
แถลงการณ์ ยังได้ระบุถึงคำให้สัมภาษณ์ของ นพ.ชลน่าที่ระบุว่า การสูบกัญชาในบ้านจะต้องมีหมออนุญาต คำถามคือ เมื่อดอกกัญชาไม่เป็นยาเสพติดเหตุใดต้องมีหมอวินิจฉัย สถานะของกัญชาตอนนี้คือเป็นพืชสมุนไพร หากท่านห้ามสูบสมุนไพรที่ชื่อกัญชา เช่นนั้นแล้วท่านต้องออกกฎหมายห้ามสูบดอกปีบ ใบชุมเห็ด ใบตอง ที่เป็นสมุนไพรให้หมดเช่นนั้นใช่หรือไม่ ขณะเดียวกันหลายคนใช้การสูบเพื่อรักษามะเร็ง ท้องอืด ไมเกรน และอีกหลายโรคที่หมอแผนปัจจุบันจ่ายยาแผนปัจจุบันแล้วไม่เคยหาย หากคนเหล่านี้ใช้กัญชาแล้วตำรวจมาจับ คำถามก็คือว่า ทำไมยาบ้า 5 เม็ดครอบครองได้ และมาตรการการปลูกที่ท่านตัดสิทธิการปลูกของครัวเรือนออกไปนั้น ท่านคิดว่ากระทำเช่นนี้เป็นการสมควรแล้วใช่หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีมาตรการอีกหลายอย่างที่พรรคเพื่อไทยอาจจะเขียนลงไปใน พ.ร.บ.ที่เป็นประโยชน์ต่อพวกพ้องและละเลยประชาชน เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขกลับมากำหนดมาตรการตามข้อเท็จจริงดังนี้ คือ รมว.สาธารณสุขต้องกลับมาใช้ข้อเท็จจริงมากำหนดมาตรการที่ท่านเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นอันตรายต่อประชาชน แต่ก่อนหน้านี้ท่านอนุญาตให้ครอบครองยาบ้า ซึ่งคือยาเสพติดที่ฆ่าชีวิตคน ทำลายครอบครัว และสังคม นอกจากนี้ยังอนุญาตการเปิดสถานบันเทิงตี 4 เพื่อให้คนกินเหล้า คำถามคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นก่อเกิดโรคมาแล้วกี่โรค การตายจากอุบัติเหตุจากสุรามีมากมายเท่าไหร่
“ฉะนั้นเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยขอให้กระทรวงสาธารณสุขทำข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่าง ยาบ้า กัญชา สุรา ว่าทั้งสามชนิดสิ่งใดมีคุณสมบัติรักษามนุษย์ สิ่งใดมีคุณสมบัติทำลายมนุษย์ แล้วใช้คุณสมบัติเหล่านั้นมากำหนดมาตรการ กัญชาเป็นยามานับหมื่นปีตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่ห้ามสูบ ยาบ้าทำลายชีวิตคนมามาก ครอบครองได้แบบถูกกฎหมาย ทั้งยังส่งเสริมการดื่มสุราด้วยการเปิดสถานบันเทิงตี 4 หากกระทรวงสาธารณสุขยังกำหนดทุกอย่างภายใต้การเมือง ไม่นำข้อเท็จจริงมากำหนด เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะกำหนดการเคลื่อนไหวต่อไป เพื่อให้ประเทศนี้กำหนดนโยบายจากข้อเท็จจริง” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
ด้านนายเดชา ศิริภัทร หรือ หมอเดชา ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา กล่าวว่า พ.ร.บ.กัญชาฯ ฉบับใหม่ ที่รัฐบาลชุดนี้ กำลังผลักดันให้ผ่านสภาฯอยู่ในตอนนี้ ไหนว่าจะเสนอให้นำกลับเข้าบัญชียาเสพติด โดย รมว.สาธารณสุข ไม่ใช่หรือพอมีตัวแทนประชาชนเข้าพบ แสดงความไม่เห็นด้วย ก็ไม่กล้า เปลี่ยนเป็นการควบคุมแทน โดยจะออกเป็น พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาฯ เหมือนที่มี พ.ร.บ.ควบคุมเหล้าและบุหรี่ อยู่ในขณะนี้ ตนอยากถามง่าย ๆ สัก 2 ข้อ เกี่ยวกับ มาตรฐานการควบคุมเหล้าและบุหรี่ ข้อแรก เหล้าและบุหรี่ มีโทษต่อประชาชนไทยหรือไม่ ตัวเลขในปี 2566 ที่ผ่านมา มีคนไทยเสียชีวิตจากเหล้า(แอลกอฮอล์) กว่า 4 หมื่นคน มีคนไทยเสียชีวิตจากบุหรี่ มากกว่า 1 แสนคน ใช่หรือไม่ ข้อสอง พ.ร.บ. ควบคุมเหล้าและบุหรี่นั้น อนุญาตให้ใช้เพื่อสันทนาการ ใช่หรือไม่ ต้องใช่อยู่แล้ว เพราะ เหล้าและบุหรี่ ไม่มีประโยชน์ในทางรักษาโรคเลย มีแต่สร้างโรค
หมอเดชา กล่าวต่อว่า เมื่อตอบคำถามเกี่ยวกับเหล้าและบุหรี่ สองข้อแล้ว ก็มีคำถามเดียวกันเกี่ยวกับกัญชา ข้อแรก มีคนไทยเสียชีวิตจากกัญชาในปี 2566 กี่คน... คำตอบคือ 0 คน ข้อสอง พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาฯ อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการหรือไม่ คำตอบคือไม่ คราวนี้ รัฐบาลต้องตอบคำถามของคนไทยให้ได้ว่า ทำไมจึงใช้ สองมาตรฐาน สิ่งที่ไม่มีโทษ เหมือน เหล้าและบุหรี่ ทำไมไม่ยอมให้ใช้สันทนาการ เหมือนเหล้าและบุหรี่
ยิ่งกว่านั้น การอนุญาตให้ใช้กัญชาสันทนาการได้ ยังมีผลดีทั้งด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ รัฐบาลอิสราเอล มีสวัสดิการให้ผู้สูงวัย ได้สูบกัญชาฟรี เพื่อสุขภาพที่ดี งานวิจัยทั่วโลกแสดงว่า ผู้สูบกัญชาอย่างเดียวเป็นประจำ เป็นมะเร็งน้อยกว่าคนไม่สูบ และทางเศรษฐกิจ เห็นได้ชัด จากนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสันทนาการกับกัญชาในเมืองไทยรัฐบาลมีเหตุผลอะไร จึงจะห้ามใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ แต่ให้เหล้าและบุหรี่ใช้ได้ ทั้ง ๆ ที่ตามข้อเท็จจริงแล้ว ควรห้ามเหล้าและบุหรี่ แต่ควรอนุญาตกัญชาแทน ถ้ารัฐบาลตอบคำถามนี้ไม่ได้ หรือตอบได้ไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักพอ และยังดึงดัน จะควบคุมกัญชา ไม่ให้ใช้สันทนาการ โดยไม่มีเหตุผลที่ดีพอ ระวังจะพบกับ พลังบริสุทธิ์ของคนไทย ที่จะไม่ยอมรับการกระทำที่ไม่โปร่งใสนี้
“คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่า เป้าหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาฯฉบับใหม่นี้ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ แต่เพื่อ ผลประโยชน์ของคนกลุ่มน้อยบางกลุ่ม ที่สูญเสียผลประโยชน์ จากกัญชา เช่น กลุ่มขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาบ้า ยาแก้ปวด ยานอนหลับ ฯลฯ และอีกมากมาย ที่มียอดขายลดลงมาก จากการใช้กัญชา ทางการแพทย์ และสันทนาการ จึงการผลักดันให้นำเข้าบัญชียาเสพติด แต่เมื่อเห็นว่าจะถูกต่อต้านหนัก จึงเปลี่ยนวิธีใหม่ โดยออกเป็น พ.ร.บ.เพื่อควบคุมไม่ให้ใช้สันทนาการ และด้านการแพทย์ ก็จะจำกัดลงอีก เห็นได้ชัดว่า กลุ่มต่างๆ ที่เสียผลประโยชน์จากกัญชา อยู่เบื้องหลังรัฐบาล ใน พรบ.นี้ ประชาชนที่รู้เท่าทัน ย่อมไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แม้รัฐบาลจะมองไม่เห็นศีรษะคนไทย ก็ขอให้รัฐบาล ทำตามใบสั่ง ให้เต็มที่เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจประชาชนตาดำๆเลย แล้วคอยดูเอาเองว่า ประชาชนคนไทยในปี 2567 นี้ จะงอมืองอเท้า อยู่เฉยหรือไม่ โดยเฉพาะคนไทย ที่ได้ปลูกและใช้กัญชาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน ในปีที่ผ่านมา รัฐบาล ช่วยรีบผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาฯ ออกมาเร็วๆนะครับประชาชนรออยู่” หมอเดชา กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี