รัฐบาลเตรียมตัวไว้! "พิธา"แบ 3 ยุทธวิธีทำงาน"ก้าวไกล" พุ่งเป้า"บริหารล้มเหลว-คอร์รัปชั่น-ทำงานอืด" ลั่น เม.ย.นี้เห็นภาพชัด เผยคิดเตรียมแพลนไว้แล้ว ปมศาลฯชี้ชะตาคดี"แก้ ม.112" ไม่หวั่นโดนสกัดดาวรุ่ง
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงจุดยืนในภาพรวมการทำงานของฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล ว่า การจะเป็นสถาบันพรรคการเมือง หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ทุกองค์กรมีแผนการดำเนินงานประจำปีของตัวเองอยู่แล้ว แต่เราคงต้องเอามารวมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น เพื่อดูว่าจะสามารถทำงานอะไรร่วมกัน และแจกจ่ายงานในส่วนไหนให้กันได้บ้าง ส่วนภาพที่รัฐบาลจะต้องเจอภายหลังจากที่ตนกลับมานั้น ในทุกสัปดาห์ เราจะมีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) คอยเก็บข้อมูล และลงพื้นที่ไปรับฟังพี่น้องประชาชน มีทีมงานเบื้องหลังก็มีการเรียบเรียงข้อมูลให้เห็น ว่าภาพที่รัฐบาลทำมีอะไรบ้าง และมีอะไรบ้างที่รัฐบาลควรจะต้องปรับปรุง ตามกลไกของรัฐสภา ตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นไป น่าจะพอเห็นภาพ แต่ถ้ามีเหตุการณ์สำคัญ ที่เราคิดว่ารอไม่ได้ถึง เม.ย.ก็จะใช้กลไกสภา อาทิ การตั้งกระทู้ รวมไปถึงการทำงานกับสื่อมวลชนในการแถลงข่าว เพื่อให้ทิศทางการบริหารราชการแผ่นดินเป็นประโยชน์ และเป็นธรรมต่อประชาชน
เมื่อถามว่า ได้คิดฉากทัศน์ภายหลังศาลธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในคดีนโยบายหาเสียงมาตรา 112 ไว้แล้วใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีการคิดไว้แล้ว ถึงแม้จะเป็นฉากทัศน์ที่แย่ที่สุด พรรคก้าวไกลก็ยังบริหารจัดการได้ ไม่ได้ทำให้ภาพรวมใหญ่ทั้งปีต้องสะดุดลง ตนคิดว่าสามารถบริหารจัดการได้ แต่ยังลงรายละเอียดไม่ได้
เมื่อถามถึงการเตรียมหัวข้อในการอภิปราย นายพิธา กล่าวว่า เน้นไปที่ 3 หัวข้อใหญ่คือ 1.ความล้มเหลวในการบริหาร 2.การประพฤติมิชอบ คอร์รัปชั่น และ 3.การทำงานช้า น้อย หรือสายเกินไป ไม่ตรงกับความท้าทายของศักยภาพประเทศ ตอนนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้พูด แต่ทีมงานหลังบ้านกำลังทำข้อมูลเพิ่มขึ้นทุกอาทิตย์ ในส่วน กมธ.ก็สามารถเรียกข้อมูลเพิ่มเติมได้ ดังนั้นตนขอสัญญากับพี่น้องประชาชน ว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง
เมื่อถามว่า กลัวจะเป็นการสกัดดาวรุ่งของตัวเองหรือไม่ เนื่องจากได้เปิดเผยความต้องการในการทำงานไปแล้ว นายพิธา กล่าวว่า การทำงานของตน ไม่ได้มีแค่ตนและรัฐบาล แต่มีฝ่ายประชาชน ฝ่ายข้าราชการ เอ็นจีโอ องค์การระหว่างประเทศ ร่วมด้วย ถ้าตนไม่พูดว่าต้องการอะไร ก็จะสะเปะสะปะ ภาคส่วนอื่นก็ไม่รู้ว่าจะเข้าร่วมตรงไหน อย่างไร กับใคร และมองไม่เห็นการเมืองแห่งความเป็นไปได้ ต้องหาดุลภาพให้เจอ
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลจะไม่เหมือนกับฝ่ายค้านชุดที่ผ่านๆ มา ใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เราอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ การทำกฎหมายที่ก้าวหน้าเป็นหน้าที่ของเรา แน่นอนว่าต้องตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเต็มที่อยู่แล้ว แต่การตรวจสอบยังไม่พอ ต้องมีการแนะนำ ขณะเดียวกันต้องเรียนรู้ในกระบวนการ
"เมื่อเราเป็นรัฐบาลด้วยตัวเอง เราจะได้ไม่มีข้อติดขัดต่างๆ ทำงานได้เลย เป็นการเรียนรู้ไปในตัว" นายพิธา กล่าว
เมื่อถามถึงนโยบายที่มีตรงกันกับพรรคร่วมรัฐบาล มั่นใจแค่ไหน ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะผลักดันนโยบายให้ผ่าน นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ดูจากสถิติ มี 2 กฎหมายที่เราสามารถผ่านสภาได้ ทั้งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สมรสเท่าเทียม และ พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ว่าไปกันคนละทาง แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และมีกฎหมายที่ดีที่ตอบโจทย์กับพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าบางเรื่องก็มีทิศทางไปในทางเดียวกัน ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง อาทิ นโยบายเปลี่ยนโฉนดที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ก็เป็นนโยบายเดียวที่เหมือนกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในทางปฏิบัติ
นายพิธา กล่าวต่อว่า เมื่อฟังการแถลงข่าวแล้วก็ค่อนข้างที่จะชัดเจน ว่าในเมื่อมีทิศทางไปในทางเดียวกัน ก็ไม่เห็นข้อจำกัดคือข้ออ้างใดๆ ที่จะปัดตกตั้งแต่ชั้น กมธ.วาระแรก เพื่อให้ไปคุยกันในรายละเอียดวาระสอง และลงมติในวาระสาม ถ้าผ่านได้ก็คิดว่าเป็นผลงานของสภาร่วมกัน และพี่น้องประชาชนจะได้ประโยชน์
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี