เพจแฉก้าวไกล

จี้สอบจริยธรรม

‘จิรัฏฐ์’หนีทหาร

เจ้าตัวปัดพัลวัน

“แทนคุณ”ร้องกรรมการจริยธรรมสภาฯ สอบ “จิรัฏฐ์” สส.ก้าวไกล หนีทหาร-ปลอมเอกสารใบ สด.43 หรือไม่ เล็งชงป.ป.ช.ถอดถอน ด้านเจ้าตัวปัดหนีเกณฑ์ทหาร รับไม่ได้รายงานตัว เพราะติดธุระ แต่ไปวันรุ่งขึ้น ยันจับใบดำ-ใบแดง-จ่ายค่าปรับถูกกฎหมาย อ้างทำตามกระบวนการขั้นตอนของหน่วยทหารบอก แจงเปลี่ยนชื่อทำทั้งครอบครัว ไม่เกี่ยวกัน โยนหน่วยราชการสอบเองปมเอกสารปลอมหรือไม่ และทำไมถึงไม่มีรายนิ้วมือ อ้างเป็นกระบวนการดิสเครดิต เบี่ยงเบนกระแส ไม่คิดฟ้องกลับ

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวร่วมเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร”นำโดย นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายทันกวินท์รัฐวัฒก์อังกูร หรืออ.ทัน เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถึงประธานคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กรณีไม่ได้รับการตรวจเลือก คัดเลือกทหารหรือหนีทหารหรือไม่ มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นผู้รับหนังสือ

นายทันกวินท์กล่าวว่า ตนมาในนามประชาชน ขอให้ภาครัฐตรวจสอบนายจิรัฏฐ์ว่าหนีทหารจริงหรือไม่ เพราะตามคำให้การของนายจิรัฏฐ์มีความขัดแย้งกัน ข้อกฎหมาย ซึ่งกำหนดไว้ว่าถ้าไม่เข้าไปตรวจเลือกทหารต้องได้รับโทษจำคุก และเมื่อรับโทษจำคุกแล้วต้องเข้ารับราชการทหารเลย ดังนั้น สิ่งที่นายจิรัฏฐ์ให้ข้อเท็จจริงว่า เมื่อไม่ได้เข้าไปรับการตรวจเลือกแล้วสามารถเสียค่าปรับ และเข้าไปจับฉลากได้ ถือเป็นการพูดเรื่องข้อกฎหมายอันเป็นเท็จ

“นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา นายจิรัฏฐ์นำใบสด.43 ที่มีชื่อของนายจิรัฏฐ์ โดยกำหนดข้อความว่าสามารถจับใบดำใบแดงได้ ทั้งที่ตามข้อกฎหมายระบุว่าเมื่อคุณได้รับคำพิพากษาของศาลและได้รับโทษจำคุกแล้ว จะไม่มีการจับใบดำใบแดง ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ ซึ่งผมกำลังประสานกับกองทัพเพื่อดำเนินคดีอาญากับนายจิรัฏฐ์ต่อไป”นายทันกวินท์กล่าว

ขณะที่นายแทนคุณกล่าวว่า เรื่องนี้หากเป็นข้าราชการเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 หรือไม่ เมื่อเป็นสส.กระบวนการจริยธรรมคือ ถอดถอน และถ้าผิดจริงในการโกหก ปลอมแปลงเอกสาร หลอกลวงประชาชน เราจะส่งเรื่องไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เพื่อยื่นถอดถอนและยื่นคดีอาญา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่เราทำหน้าที่เปิดโปงส.ส.ของพรรคก้าวไกลหลายคน จึงเป็นเหตุผลหรือไม่ที่พรรคก้าวไกลพยายามโจมตีกองทัพ เพราะตัวเองมีบาดแผลหลายอย่าง

วันเดียวกัน นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกลชี้แจงกรณีเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ ออกมาเปิดเผยข้อมูลหนีทหารว่า ตนต้องนำเอกสารตัวจริงไปยื่นอยู่แล้ว ส่วนการตรวจสอบว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ถ้าอยากรู้ขนาดนั้นเป็นหน้าที่ราชการ เป็นเอกสารตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นตนเป็นเด็กเพิ่งเรียนจบ แล้วไม่ได้ไปรายงานตัว จำได้ว่าวันนั้นติดเรียนหรือติดธุระสักอย่าง จึงไปรายงานตัววันรุ่งขึ้น ซึ่งหน่วยงานราชการเรียกไปทำอะไร เราก็ทำตามหมด

“ให้จ่ายค่าปรับก็จ่าย ให้จับใบดำใบแดงก็จับ ให้เอกสารอะไรมาก็ทำตามกระบวนการที่เขาให้ทำทุกอย่าง ไปจ่ายค่าปรับที่ศาลรึเปล่า น่าจะใช่ ผมก็ทำตามเขา นั่งรถกับเขา แล้วเขาก็พากลับมาที่อำเภอ ทุกอย่างก็จบแค่นั้น ยืนยันไม่มีการปลอมเอกสารแน่นอน แต่ที่ออกมาพูดช้า ยอมรับเลยว่า หาเอกสารไม่เจอ สุดท้ายไปรื้อเจอที่บ้านคุณแม่” นายจิรัฏฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีข้อสงสัยว่า ในใบสด.ที่เอามาแสดงไม่มีรอยนิ้วมือ นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า ตนก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงไม่มี เขาไม่ได้ให้ปั๊ม แต่เช็คกับหลายคนก็ไม่มี ส่วนจะทำตามกระบวนการถูกต้องหรือไม่นั้น เราเป็นคนธรรมดา เข้าไปในหน่วยงานราชการ ก็ทำตามกระบวนการอยู่แล้ว จะมีอำนาจอะไรไปสั่งการ

ถามต่อถึงกรณีตั้งข้อสังเกตว่า ปกติแล้วถ้าศาลมีคำสั่งว่าหนีทหาร ต้องไปเกณฑ์ทหารทันที ไม่ใช่ไปจับใบดำใบแดงแบบนี้ นายจิรัฏฐ์กล่าวย้ำว่า เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมของศาล ตนก็ต้องทำตามที่เขาให้ทำ ส่วนรู้สึกแปลกหรือไม่ ตอนตรงๆคือ รู้สึกโชคดี ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ตนคงไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารแล้ว เกณฑ์ทหารไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ชีวิตเสียหายไป 2 ปี แทบจะเอาชีวิตไปทิ้ง ถ้าออกมาเป็นอย่างนั้น ตนก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดี ตนไม่รู้หรอกว่ากระบวนการเป็นยังไง แล้วแต่หน่วยงานราชการบอกให้ทำก็ทำ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีข้อสงสัยว่าเป็นการเปลี่ยนชื่อ เพื่อหนีทหารหรือไม่ นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า ตนเปลี่ยนตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ปีหนึ่ง เปลี่ยนทั้งบ้าน เพราะคุณแม่ไปดูดวงมา เรื่องการเกณฑ์ทหารเป็นเรื่องหลังเรียนจบ ตนเปลี่ยนชื่อก่อนหลายปีมาก ไม่เกี่ยวกัน แต่ในเอกสารราชการจะเปลี่ยนชื่อหรือไม่ ตนไม่ทราบ

ส่วนที่มาร้องเรียนกับคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การทหารนั้น ตนทราบว่ารับเรื่องมาแล้ว เมื่อถึงเวลาลงมติ ตนคงไม่ออกความเห็น ให้กมธ.ฯคนอื่นพิจารณาจะนำเรื่องนี้เข้ามาพูดคุยหรือไม่ เพราะกมธ.ฯมีหน้าที่ศึกษาพิจารณา แก้ไข สืบสวน ข้อพิพาท ที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับกิจการทหาร ทั้งนี้ ประชาชนที่มาร้องเรียนต้องเป็นผู้เสียหาย ที่มาเรียกร้องความยุติธรรม ความเป็นธรรม แต่เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เสียหาย และเขาเดือดร้อนอะไร จากสิ่งที่เกิดขึ้น ตนยังไม่เข้าใจเหมือนกัน

”ผมไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะการถูกทำลาย เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรื่องที่ผมพูด และสิ่งที่กำลังทำ เป็นเรื่องที่ถูกทางแล้ว เป็นประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้พูดเพื่อตัวเอง ถ้าทำแล้วสำเร็จ ก็เป็นประโยชน์ของคนทั้งประเทศ แต่เรื่องที่เขาทำเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมไม่อยากให้สังคมเปลี่ยนประเด็น จากความผิดปกติในหน่วยงานทหารมาเป็นเรื่องนี้แทน เพราะเป็นการความพยายามบิดเบือนกระแสสังคมมากกว่า”นายจิรัฏฐ์กล่าว และว่า ตนคงไม่เสียเวลาไปดำเนินคดีต่อผู้ร้องเรียน มองว่าเป็นกระบวนการดิสเครดิต มั่นใจว่าความพยายามทำลายไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ตนพูดเกี่ยวกับทหารได้