ไม่ใช่นักร้องอาชีพ!‘สนธิญา’ไม่หวั่นซ้ำรอย‘ศรีสุวรรณ’ ยันเป็นนักการเมือง ไร้พฤติกรรมเรียกรับสินบน โวมีสมบัติพ่อแม่ยกให้-ธุรกิจส่วนตัวนับ 100 ล้าน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งหากมีเลือกซ่อม
29 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ถูกดำเนินคดีข้อหารีดไถเงินอธิบดีกรมการข้าว กังวลหรือไม่ว่าจะถูกดำเนินการแบบนายศรีสุวรรณ ว่า ตนเคยออกรายการกับนายศรีสุวรรณ ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และจนถึงวันนี้ก็ไม่เคยคุยกับนายศรีสุวรรณแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งในรายการถามนายศรีสุวรรณว่าเป็นนักร้องอาชีพใช่หรือไม่ นายศรีสุวรรณตอบว่า ใช่ แต่เมื่อถามตน ตนบอกว่าไม่ใช่ เพราะตนเป็นนักการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่เมื่อไม่ได้รับการเลือกตั้งตนก็ทำงานนอกรัฐสภา ฉะนั้น ในเรื่องของกระบวนการทำงานของตน ตนต้องไม่กระทำผิดกฎหมาย สิ่งที่ตนร้องมาหลายเรื่องที่ผ่านมา สิ่งที่ได้รับไม่ใช่เป็นเงิน แต่ได้รับเป็นการแจ้งความเกือบ 10 คดี แต่ตนได้รับความเมตตาจากศาล ในกรณีหมิ่นประมาทและรอลงอาญาประมาณ 7 คดี
“ถามว่าผมเคยได้รับเงินหรือไม่ ที่ผ่านมาผมไม่เคยร้องส่วนราชการไม่ว่าอธิบดีหรือไม่อะไรก็ตาม เพราะผมเคยทำงานเป็นเลขานุการผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ผมเข้าใจว่าราชการถ้าโดยร้องเรียน สอบสวน หรือโดนอะไรก็ตามเขาจะมีชนักติดหลังเขาไปตลอด แต่ถ้าเรื่องหนึ่งเรื่องใดก็ตามที่ชัดเจนผมก็ร้อง แต่หากถามว่าตั้งแต่ผมทำงานการเมือง หรือร้องทุกข์กล่าวโทษกับหน่วยงานต่างๆตั้งแต่ปี 50 ถึงตอนนี้ผ่านมา 10 กว่าปี ผมไม่เคยร้องหน่วยงานราชการหรืออธิบดีแม้แต่คนเดียว” นายสนธิญา กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคิดจะร้องนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ซึ่งอยู่ฝั่งรัฐบาลบ้างหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า นายยศวริศ ไม่ได้อยู่ฝั่งรัฐบาล เขาอยู่ นปช. ซึ่งตนรู้จักนายยศวริศ แต่ไม่สนิท และไม่ใช่แนวทางเดียวกับตน
เมื่อถามย้ำว่า จะมีการร้องนักการเมืองฝั่งพรรคลุงทั้งพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า จะมีการร้องเรียนในหลายคนถ้ามีเอกสารชัดเจนตนก็ร้อง และไม่เฉพาะฝ่ายค้านเท่านั้น ตัวอย่างเช่น มีเรื่องอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คือการที่สส.ทำให้สภาล้มเมื่อปี 62-66 จำนวนกว่า 27 ครั้งนั้น ก็ร้องทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แม้กระทั่งรัฐมนตรีบางคนที่ไม่เข้าประชุมก็โดนป.ป.ช.สอบอยู่ขณะนี้
“ผมมีสมบัติบางส่วนที่พ่อแม่ยกให้ทางภาคใต้ มีสวนปาล์ม และอื่นๆเล็กน้อย และส่วนตัวทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับต่อไม้ชะลอคลื่น มีทีมงานเป็นชาวประมง และ 6-7 ปีที่ผ่านมาถ้าไปดูในบัญชี ผมมีเงินสะพัดอยู่ประมาณเกือบ 100 ล้านบาท และขณะนี้ก็ยังรับงานทั่วไปที่สามารถทำได้ เพราะมีห้างหุ้นส่วนอยู่ในขณะนี้ 2 ห้างหุ้นส่วน แต่ตอนนี้หยุดชั่วคราว เพราะมีปัญหาเรื่องพรรคพวกที่ทำธุรกิจด้วยกันแล้วเบี้ยวเงินผมไปประมาณเกือบ 5 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังฟ้องร้องกันอยู่ที่ศาลล้มละลายและจะบังคับคดีเนื่องจากจะครบคดีในปี 68” นายสนธิญา กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่านายสนธิญาไม่เคยมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนใช่หรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า สิ่งที่ตนร้องอย่างพรรคก้าวไกล ตนจะไปเรียกรับผลประโยชน์จากเขาได้หรือไม่ หรือไปร้องบางหน่วยงาน ตนจะไปเรียกผลประโยชน์เขาได้อย่างไร แต่ที่ผ่านมาเป็นเรื่องประชาชนเดือดร้อนเรื่องที่ดิน ตนทำก็ไม่ได้เงิน บางคนมีปัญหาพ่อข่มขืนลูก ตนทำเรื่องนี้ก็ไม่ได้เงิน เพราะสิ่งที่ตนทำไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์แต่ทำในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดเกี่ยวกับกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรณีรูปคดีของนายศรีสุวรรณแล้ว เป็นเช่นไร นายสนธิญา กล่าวว่า ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่การติดตามข่าว เรื่องนี้เหมือนการเจรจาขายที่ดิน เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 66 และตำรวจบอกว่าติดตามเรื่องนี้มา 4 เดือน ตนก็ยังแปลกใจว่าทั้ง 2 ฝ่าย คุยกันอย่างไร เพราะมีการจ่ายเงิน โทรศัพท์พูดคุยต่อรอง อยากถามว่าแต่ละฝ่ายเกรงกลัว หรือเคารกฎหมายหรือไม่ เพราะถ้าเป็นบุคคลทั่วไปที่มีสามัญสำนึก การพูดคุยต่อรองผ่านโทรศัพท์แบบนี้ กล้าทำหรือไม่ เพราะสมัยนี้สามารถอัดเสียงได้หมด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไปกระทรวงไหน บ้านใครก็มีวงจรปิด
“ดังนั้นการกระทำไม่สามารถปิดสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แม้กระทั่งตัวตน ถ้าผมทำไม่ดี ก็จะมีคนร้อง และแจ้งความอยู่ดี แต่สิ่งที่ผมถูกแจ้งความเป็นประเด็นกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องถูกฉ้อโกง ซึ่งผมพร้อมให้ตรวจสอบตลอด และพร้อมที่จะทำงานทางการเมืองต่อไป เพราะหากมีการเลือกตั้งซ่อมในบางเขต ผมก็พร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสส.อีกครั้ง” นายสนธิญา กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี