เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาระบุโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเครื่องมือในการแก้วิกฤตประเทศว่า ในกรณีนี้มองได้ 2 มุม คือ ในส่วนที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายหลักของพรรคร่วมรัฐบาล จะต้องมีการผลักดันให้เกิดโครงการนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มองว่า ถ้ารัฐบาลประกาศไปแล้ว และดำเนินการได้ ก็ไม่ขัดข้อง เพราะถือเป็นนโยบายของพรรคการเมือง
แต่มีข้อเสนอแนะว่า ที่รัฐบาลระบุว่าเศรษฐกิจวิกฤตนั้น วิกฤตจริงหรือไม่ และจะต้องมีการฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ได้ให้ความเห็นในเรื่องข้อกฎหมาย แต่ส่วนที่จะต้องใช้ดุลยพินิจว่าเศรษฐกิจถึงขั้นวิกฤตจนต้องออกเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.กู้เงินหรือไม่ ส่วนนี้ยอมรับว่าไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกฤษฎีกา ดังนั้นการที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นถือเป็นสิ่งที่ดี เชื่อว่าความเห็นดังกล่าวยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศ
“ถ้ารัฐบาลตั้งธงเพียงอย่างเดียว ไม่รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ก็จะทำให้เป็นนโยบายที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศได้” นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ในกระบวนการตรวจสอบของสภา พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ว่าจะไปในทิศทางใด และต้องดูว่ารัฐบาลจะกำหนดแนวทางเดินหน้าไปในทิศทางใด เพราะทอดเวลามานานพอสมควร
---017
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี