แกนนำ"ศปปส.-นักรบเลือดสีน้ำเงิน"เล่าวินาทีปะทะที่พารากอน ย้ำไล่รัฐบาลไม่ว่า อย่าจาบจ้วงสถาบันฯ
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำ ศปปส.กล่าวในรายการ “แนวหน้า Talk” ในประเด็นที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เตรียมจะเปิดชื่อบุคคลที่สนับสนุนกลุ่มที่ไปก่อเหตุป่วนขบวนเสด็จฯ ว่า จริงๆ เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้กันนานแล้ว ไม่ว่ากลุ่มทะลุวังหรือกลุ่มอื่นๆ พอไปทำกิจกรรม จัดม็อบอะไรต่างๆ ที่มีพฤติการณ์เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อโดนคดีตวามก็จะมีนักการเมืองของบางพรรคไปวิ่งเต้นประกันตัวบ้าง ไปอยู่ในที่ชุมนุมแล้วชูสามนิ้วบ้าง แต่ข้อมูลเชิงลึกตนไม่รู้ แต่นายชาดาอาจรู้ก็ได้
ทั้งนี้ ภารกิจของกลุ่ม ศปปส. คือการเฝ้าระวังและตอบโต้กลุ่มที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่ม ศปปส. นำไปสู่ความรุนแรง อย่างล่าสุดกับเหตุการณ์ที่สยามพารากอน ตนเห็นว่า บางครั้งเราต้องยอมทำผิดบ้าง ส่วนจุดเริ่มต้นของกลุ่ม ศปปส. มาจากช่วงปี 2563 ที่กลุ่มราษฎรจัดชุมนุม ซึ่งตอนแรกเป็นการขับไล่นายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาบอกว่าจะทะลุเพดาน กลายเป็นการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนที่เป็นอดีตการ์ดของกลุ่ม กปปส. จึงได้รวบรวมอดีตการ์ดด้วยกันตั้งกลุ่มขึ้นมา
โดยในช่วงแรกมีสมาชิกเพียง 4-5 คน เป็นอดีตการ์ด กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะด้วยกัน พูดคุยกันแล้วว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบโต้กลุ่มราษฎร เบื้องต้นได้เปิดเพจเฟซบุ๊กและตั้งชื่อกลุ่มว่า ศปปส. มีตนเป็นแกนนำ เมื่อเริ่มเป็นกลุ่มก็มีสมาชิกประมาณ 100-200 คน นอกจากอดีตการ์ดแล้วยังมีอดีตผู้ชุมนุม กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ หรือบางคนก็เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่วนคำถามเรื่องการเคลื่อนไหวเอาแหล่งทุนมาจากไหน โดยส่วนตัวแล้ว ตนมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาตกแต่งภายใน ปัจจุบันก็ยังทำงานอยู่
ซึ่งรูปแบบการเคลื่อนไหวของ ศปปส. จะคอยติดตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น กลุ่มราษฎรรวมตัวจะทำกิจกรรมอะไร หากเข้าข่ายว่าสำคัญก็จะระดมคนไปบ้าง ซึ่งแม้จะถูกมองว่า ศปปส. ทำให้เกิดภาพความรุนแรง หรือบอกว่าการเคลื่อนไหวของ ศปปส. ต่างหากที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนก็อยากย้อนถามกลับว่า ระหว่างการกระทำของ ศปปส. ที่ออกมาปกป้องสถาบันฯ กลับอีกฝ่ายหนึ่งที่ทั้งเหยียดหยาม ข่มขู่อาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ กลุ่มใดทำให้เสียมากกว่ากัน พวกตนพร้อมตอบโต้ แรงมาก็พร้อมแรงกลับ ได้ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น
สำหรับเหตุการณ์ที่สยามพารากอน พอเห็นข่าวว่าอีกฝ่ายจะทำกิจกรรม ตนก็ถามคนในกลุ่มว่าจะมีใครไปบ้าง แต่ไม่ได้ตั้งใจสร้างความรุนแรง เพราะพวกนี้ตนเจอบ่อย ตามกิจกรรมที่ฝ่ายนั้นทำบ้าง ที่ศาลบ้าง และเรื่องการป่วนขบวนเสด็จฯ พวกนี้พยายามทำมาตลอด อย่างแถวๆ ร้านค้าแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พวกนี้จะไปดักรอขบวนเสด็จฯ ตำรวจจะทำอะไรก็ไมได้ เพราะเจอย้อนว่ารังแกประชาชนบ้าง เป็นประชาชนจะมานั่งแถวนี้ไม่ได้หรือบ้าง หรือสุดท้ายเมื่อตำรวจจับจริงๆ ก็ไปอดข้าวอดน้ำบ้าง พอเป็นแบบนี้พวกตนเลยชิงลงมือด้วยการเข้าไปยึดพื้นที่ก่อน
นายอานนท์ เล่าต่อไปว่า มีครั้งหนึ่งในปี 2566 ที่ในหลวง ร.10 เสด็จฯ วัดพระแก้ว กลุ่มตนโพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนกันไปรับเสด็จ แต่อีกฝ่ายได้แชร์โพสต์ของตนไปแล้วชวนคนของฝ่ายนั้นให้ไปบ้าง เมื่อถึงวันที่ในหลวงเสด็จฯ ตนก็เห็นว่าพวกนั้นมาจริงๆ นำโดยคนชื่อสายน้ำ พอพวกตนเห็นก็เดินสวนกับประชาชนคนอื่นๆ ที่มารับเสด็จ จะเข้าไปกันไม่ให้พวกนั้นเข้ามา จึงเกิดมีปากเสียงและมีเรื่องชกต่อยกัน ศาลก็ตัดสินว่าตนผิดและต้องชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณี แต่ตนก็ยังไม่มีเงินไปจ่าย
“สมมติเวลามันจัดกิจกรรม เราก็ไปด้วย พอมันไป เราไป เราจะไปปราศรัยอยู่ใกล้ๆ กัน เราก็เตือนว่าถ้าคุณไล่รัฐบาลก็ไล่ไป ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา-นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ก็ไล่ไป จะทำอย่างไรทำไปเลย เราไม่ยุ่งไม่เกี่ยว แต่เมื่อใดที่คุณไปยุ่งกับสถาบันพระมหากษัตริย์ หมายถึงว่า ด่า จาบจ้าง ใช้ถ้อยคำหยาบคายแล้วสุดท้ายก็บอกว่ามาวิจารณ์ เช้าขึ้นมาอีกวันผมก็จะไปรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความ ผมเป็นคนแจ้งความดำเนินดคดีมาตรา 112 น่าจะเยอะที่สุด” นายอานนท์ กล่าว
นายวสัน ทองมณโฑ กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินปกป้องราชบัลลังก์ เล่าถึงเหตุการณ์ที่สยามพารากอน ว่า เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการทำกิจกรรมของอีกฝ่ายตนก็ไปรอดู ทราบว่าจะมีการทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ โดย น.ส.ทานตะวัน ซึ่งตำรวจก็พยายามกันกลุ่มทะลุวังไว้ฝั่งหนึ่ง กันกลุ่มตนไว้อีกฝั่งหนึ่ง ตนกับนายอานนท์ ก็รีบเดินออกไปก่อนที่แนวกั้นจะปิดสนิท เดินเข้าไปถามกลุ่มทะลุวังว่าจะยุ่งอะไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ กับขบวนเสด็จนักหนา ถามเพียงเท่านั้นก็เห็นหนึ่งในการ์ดของกลุ่มทะลุวังหยิบอาวุธดิ้วออกมา ตนเห็นว่าจะตีนายอานนท์แน่ๆ จึงเข้าไปชาร์จ แล้วตำรวจก็เข้ามาบล็อก ซึ่งก็เป็นไปตามที่ปรากฏในคลิปวีดีโอ
โดยตนประเมินแล้วการ์ดฝ่ายนั้นมี 5-6 คน คิดว่าถ้าไม่มีอาวุธตนก็พอวัดได้ ส่วนพวกตนไปนั้นไม่มีอาวุธ มือเปล่าล้วนๆ มีแต่หัวใจที่ปกป้อง และตอนที่อีกฝ่ายล้วงกระเป๋าตนก็ไมได้คิดว่าจะมีอาวุธ อีกทั้งจากที่เจอกับกลุ่มนี้มาหลายครั้งก็ไม่เคยเห็นว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธ อาศัยการเดินดันผลักกันไป-มา อย่างครั้งล่าสุดที่พารากอน ตนคุยกับนายอานนท์ก็เพียงจะไปดันเด็กกลุ่มนี้ออกไป ให้ตำรวจพาออกไป ให้พวกนี้กลับบ้าน ส่วนคำถามว่าตนเอาทุนมาจากไหนเพื่อมาเคลื่อนไหวในนามกลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงิน ก็ต้องบอกว่ามาจากกระเป๋าภรรยาหรือไม่ก็เงินตนเอง
“ตอนแรกโดนแขนก่อน แล้วตอนตำรวจดึงมันก็ฟาดเข้าหัว โดนหัวครั้งเดียวแล้วก็โดนต่อยอีก 3 ที อาการตอนแรกไม่เป็นไรหรอก พอไปที่โรงพักมันมึนๆ แล้วมันอ้วกออกมา กินน้ำไปเยอะ ตอนเช้าไม่ได้กินข้าว มีอาเจียนเลย ต้องไปโรงพยาบาล ไปเอ็กซ์เรย์” นายวสัน กล่าว
ชมคลิปเต็มได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=tI1S80IANFA
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี