‘เศรษฐา’ลงพื้นที่อุดรธานี
มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ
หนองวัวซอโมเดลให้ปชช.
ใช้ประโยชน์ทำมาหากิน
นายกฯฟิตจัดไม่พัก ลุยต่ออุดรธานี ตรวจเยี่ยมค่ายประจักษ์ศิลปาคม ดูความเป็นอยู่กำลังพล ก่อนดูความพร้อมโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วย 30 บาทรักษาทุกที่ เตรียมยกระดับความเป็นอยู่-แก้หนี้ทหาร ลั่นไม่ตัดกำลังพลทหาร‘หมอ-พยาบาล-เทคนิคการแพทย์-เภสัช’เตรียมหารือ‘หมอชลน่าน’เหตุรายได้สาธารณสุข-ทหารไม่เท่าเทียมกัน มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุโครงการ’หนองวัวซอโมเดล’ให้ชาวอุดรฯ ย้ำรัฐบาล-กองทัพเห็นความเดือดร้อนปชช.พร้อมเดินหน้าต่อในพื้นที่อื่น
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจวันที่สามในการลงพื้นที่ภาคอีสานเหนือของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ว่า นายเศรษฐา พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ติดตามตรวจเยี่ยม และดูความเป็นอยู่ของกำลังพล โดยนายกฯสอบถามถึงอายุอาคารที่อยู่อาศัยของกำลังพลที่ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้ และเก่าทรุดโทรม ซึ่งอาจต้องมีการก่อสร้างอาคารใหม่ เป็นที่พักสำหรับทหารชั้นประทวน ซึ่งนายกฯแนะนำว่าหากกองทัพมีพื้นที่เพียงพอควรก่อสร้างลักษณะแฟลตชั้นเดียว หรือสองชั้น มากกว่าอาคารตึกสูง เพราะค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างถูกกว่า การมาเยี่ยมที่อยู่อาศัยค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคม เพราะตั้งใจจะช่วยปรับปรุงสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของทหารให้ดีขึ้น เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
ทั้งนี้ บ้านพักหลายจุดก่อสร้างตั้งแต่ปี2495 สภาพเก่า ชำรุดทรุดโทรมมากและจำนวนไม่เพียงพอ ซึ่งเราก็ควรจะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นอย่างเท่าเทียม การมาดูครั้งนี้รัฐบาลตั้งใจจะทดลองปรับปรุงที่พักอาศัยใหม่ ให้สอดคล้องกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันมากขึ้น โดยจะทดลองปรับปรุงในพื้นที่ค่ายทหารต่างจังหวัดที่มีพื้นที่เยอะก่อน จากนั้นนายกฯเดินทางต่อไปที่โรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม ติดตามการบริหารจัดการและการให้บริการรักษาทั้งกำลังพลและประชาชนทั่วไป ซึ่งกำลังพัฒนาโรงพยาบาลทหารให้สามารถรองรับผู้ป่วยและนโยบาย 30บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ป่วยในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข โดยมีผู้ป่วยที่มารอรับบริการรวมถึงญาติผู้ป่วยเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึกจำนวนมาก
นายกฯกล่าวว่า โรงพยาบาลทหารในค่ายประจักษ์ศิลปาคมและที่อื่นๆ สามารถพัฒนาให้รองรับกับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้ ซึ่งโรงพยาบาลทหารที่นี่ ดูแลประชาชนที่เป็นผู้ป่วยนอก คิดเป็นสัดส่วน77% ต่อปี อัตราการรักษา แพทย์1คนต่อคนไข้14,000คนต่อปีและยังมีรถ mobile ออกพื้นที่ตรวจรักษาประชาชนในอุดรฯ จังหวัดใกล้เคียง และตามแนวชายแดนหนองคาย แต่ยังประสบปัญหาขาดบุคลากร ขาดอุปกรณ์ ขาดระบบไอที ขาดรถพยาบาลเคลื่อนที่ไม่พอ ขณะเดียวกัน บุคลากรทางการแพทย์สังกัดกระทรวงกลาโหมก็ลาออกกันเยอะ เพราะไม่มีโอกาสเติบโต ไม่มีโอกาสบรรจุ อัตราเงินเดือนน้อยกว่าเงินสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทั้งหมดนี้ตนตั้งใจจะช่วยแก้ปัญหาให้โดยเร็วที่สุด และพัฒนาเป็นโมเดลโรงพยาบาลทหารนำร่องที่อุดรธานีและนำร่องไปในที่อื่นๆ ต่อไป
ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการเดินทางไปเยี่ยมค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคมและโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม ว่า ได้เดินทางไปร่วมกับ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อไปตรวจเยี่ยมค่าย และดูบ้านพักทหารที่สร้างมา 100กว่าปี บางแห่งก็กว่า 80ปีและได้เดินทางต่อไปดูที่โรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคมที่มี 200เตียง ซึ่งมีประชาชนหนาแน่น การเดินทางไปตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ ก็เป็นไปตามแผนทั้งหมดที่เราได้วางไว้ โดยได้พูดคุยกับ ผบ.ทบ.หลายเรื่อง ทั้งเรื่องบ้านพัก เรื่องโรงพยาบาล เรื่องหนี้ทหาร รวมทั้งเรื่องกำลังพลที่มีการพูดกันว่า จะมีการลดจำนวนกำลังพล แต่อย่าไปพูดถึงการลดกำลังในส่วนของแพทย์และพยาบาลและเทคนิคการแพทย์ เพราะบางเรื่องที่เป็นเรื่องเฉพาะทาง เช่น แพทย์พยาบาล หรือเทคนิคการแพทย์ ไม่ควรจะลดกำลังพล เพราะโรงพยาบาลทหารทั่วประเทศทุกโรงพยาบาลบริการประชาชนประมาณ70%-80%และแพทย์ มีไม่เพียงพอ อย่างที่โรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม มีหมอเพียง 19คน มีจำนวนเตียงผู้ป่วย 200เตียง ทำให้ไม่เพียงพอจะเห็นได้ว่า มีประชาชนจำนวนมากเข้าไปรับบริการ ทั้งนี้เมื่อได้ถามประชาชนที่เข้าไปรับการรักษาว่า พอใจหรือไม่ ซึ่งประชาชนทุกคนยืนยันว่า มีความสุขมาก และการไปครั้งนี้ตนไม่ได้กำหนดไว้ในแผน ทุกคนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังไปดูเรื่องอุปกรณ์ว่า เพียงพอหรือไม่ รวมทั้งบุคลากรและรายได้ของเภสัชกรที่ยังขาดแคลนอยู่ โดยเฉพาะเภสัชกรที่ทำงานในโรงพยาบาลทหาร มีรายได้น้อยกว่าเภสัชกรที่ทำงานของสาธารณสุข เป็นข้าราชการเหมือนกัน แต่มีรายได้แตกต่าง ซึ่งตนสงสัยว่า ทำไมถึงต้องมีข้อแตกต่างแบบนี้ โดยผบ.ทบ.ได้นั่งรถมาด้วยกันได้พูดคุยกันหลายเรื่องที่เราสามารถที่จะทำได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น เมื่อถามถึงเรื่อง 30บาทรักษาทุกที่จะเริ่มได้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีส่วนและประชาชนก็ใช้อยู่แล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายมากมายไปหมด ซึ่งเดี๋ยวจะมีการพูดคุยกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข
เวลา 10.30น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการหนองวัวซอโมเดลและเยี่ยมชมนิทรรศการวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ และจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและวิสาหกิจชุมชน ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอ ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี โดยมีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบกร่วมงาน
โดย นายเศรษฐา กล่าวเปิดงานมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ หนองวัวซอโมเดลว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาแจกสิทธิทำกินให้ท่านในวันนี้ ตนในฐานะนายกฯได้มีการพูดคุยและศึกษาข้อมูลในเชิงลึกจากทุกๆท่านว่าความมั่นคงกองทัพเองมีความจำเป็นที่จะใช้พื้นที่ในการดูแลให้ความสมดุลทางด้านความมั่นคง รักษาความปลอดภัย รักษาเอกราชให้กับประเทศไทย มีการพูดคุยกันว่าบางอย่างจะให้ที่ดินทำกินกับพี่น้องประชาชน หากทางกองทัพมีพื้นที่เหลือและไม่ได้ใช้ในแง่ของการดูแลด้านความมั่นคง เรื่องนี้เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งและภายในเวลาแค่ 4-5เดือน เรามองย้อนกลับไปว่าทางกองทัพเองกับกระทรวงการคลัง ทำกันได้รวดเร็วแค่ไหน พื้นที่กว่า 9,000ไร่ มีคนจะได้รับประโยชน์ 500 ครอบครัว ทั้งเป็นที่อยู่อาศัยและทำมาหากินภายใน 4-5เดือนที่ผ่านนี้ เรามายืนตรงนี้ในวันนี้โดยการทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชนกับกองทัพไทยและจะไม่หยุดยั้งในการที่จะทำงานต่อไป และก็ได้เห็นอยู่แล้วว่าต่อไปที่ จ.นครพนม สมุทรปราการ กาญจนบุรี ทุกๆจังหวัดที่มีกองทัพ ไม่ใช่กองทัพบกอย่างเดียว ยังมีกองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็มีส่วนร่วมในการที่จะแบ่งปันพื้นที่มาให้พี่น้องประชาชน
นายเศรษฐา กล่าวว่า และเหนือสิ่งอื่นใดจะขยายตัวไปในทุกพื้นที่ ด้วยพื้นที่เหล่านี้ทางกองทัพไม่ได้ส่งมอบให้เป็นที่ดินอย่างเดียว ทางกองทัพตระหนักดีที่ดินเหล่านี้ไปทำมาหากินทำพื้นที่เกษตรเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว นอกจากนั้น รมช.คลัง บอกว่า สิทธิเหล่านี้สามารถนำไปกู้ใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญในการหาแหล่งเงินทุนมาเป็นต้นทุนในการที่เราจะทำอะไรหลายอย่างต่อไปในอนาคต วันนี้มีหลายครอบครัวซึ่งยังไม่เป็นที่สิ้นสุด จะยังคงมีการแจกต่ออีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี