ธรรมนัสส่งกุนซือ

ยื่นร้องรองผบช.ก.

ฟันข้าราชการสปก.

ออกเอกสารทับป่า

นายกฯลั่นปมพิพาทที่ดินทับซ้อนส.ป.ก.ต้องยึดกฎหมายด้านปลัดทรัพยากรธรรมชาติฯ ย้ำหาก “สปก.” ทับพื้นที่อุทยาน-ป่าอนุรักษ์ต้องยกเลิกทั้งหมด ปัดโยงการเมืองเป็นเรื่อง เจ้าหน้าที่ไม่รอบคอบ ลั่นการออกเอกสาร ส.ป.ก.นับจากนี้ ต้องมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการที่ดูแลที่ดินของรัฐร่วมสำรวจพร้อมกันทุกครั้ง ขณะที่‘ธรรมนัส’มอบที่ปรึกษาฯ‘ธนดล’แจ้งความบช.ก.ดำเนินคดีข้าราชการ สปก.โคราช เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ขณะที่สปก.เตรียมทำข้อตกลงกับกรมอุทยานฯ-กรมป่าไม้ ออกแนวทางให้สปก.รอยต่อที่ทับซ้อนเขตปฎิรูป–ป่าสงวน-ป่าไม้ถาวรและจะไม่จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเข้าทำกินพื้นที่รอยต่อ

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาข้อพิพาทที่ดินทับซ้อนส.ป.ก.ในจ.นครราชสีมาว่า คุยและแถลงข่าวไปแล้ววันที่ 21 กุมภาพันธ์ ก็เป็นไปตามที่พูดไว้ ส่วนที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุพื้นที่ที่มีปัญหาไม่ได้มีแค่เป็นหลักพันแต่มีถึง 1.5 แสนไร่นั้น จะเป็นเท่าไหร่ก็ต้องถูกต้องตามกฎหมาย เป็นไปตามไกด์ไลน์ที่คุยกันเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์

ทส.ปัดโยงการเมือง-จนท.ไม่รอบคอบ

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายชัยวัฒน์ระบุเพิ่มเติมนอกจากพื้นที่ปักหมุดส.ป.ก.ที่อุทยานเขาใหญ่ยังพบบุกรุกพื้นที่อุทยานฯอีกกว่า 100 ไร่ว่า สั่งให้ตรวจสอบแล้ว โดยกรมอุทยานฯและสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.)จะหารือร่วมกันและไปสำรวจพื้นที่ทั้งหมดที่ออกเอกสารไปแล้ว ตอนนี้ให้หยุดออกเอกสารสิทธิส.ป.ก.ก่อนและต้องยกเลิกพื้นที่ส.ป.ก.ที่ไปทับพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ ขณะที่พื้นที่แนวกันชนจะส่งมอบให้กระทรวงทรัพยากรฯ ไปทำเป็นป่าชุมชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน หรือเป็นเรื่องการเมืองใช่หรือไม่ ปลัดทส.กล่าวว่า เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ออกเอกสารไม่รอบคอบ ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง การแก้ปัญหาต้องยึดมาตรการมาตรฐานที่แต่ละหน่วยงานต้องร่วมทำแผนปฎิบัติการให้ชัดเจน ทั้งนี้ ถ้านายชัยวัฒน์จะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ยังทำได้ เพราะกรมอุทยานฯจะร่วมตรวจสอบทั้งหมด ยืนยันการออกเอกสาร ส.ป.ก.จากนี้ ต้องมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวกับการดูแลที่ดินของรัฐไปร่วมสำรวจพร้อมกันทุกครั้ง

ธรรมนัสส่งกุนซือฟ้องสอบสวนกลาง

ขณะที่นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เผยความคืบหน้ากรณีมีข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า ล่าสุดร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ให้เตรียมจัดทำข้อตกลงร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติฯและกรมป่าไม้ เพื่อกำหนดแนวทางออกเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่ที่แนวเขตตามแผนที่ทับซ้อนระหว่างเขตปฏิรูปที่ดินกับป่าสงวน และป่าไม้ถาวร จากนี้จะไม่จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเข้าทำกินในพื้นที่รอยต่อ รวมถึงพื้นที่ที่ยังมีสภาพป่าเพื่อสงวนรักษาทรัพยากรป่าไม้

นายวิณะโรจน์กล่าวอีกว่า วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) รมว.เกษตรฯมอบหมายให้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯเข้าแจ้งความต่อ พล.ต.ต.จรูญเกรียติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้ดำเนินคดีกับข้าราชการ ส.ป.ก.นครราชสีมา ที่เกี่ยวข้องกับการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือ ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่ทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนส.ป.ก.อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้นจะไปสู่การตั้งคณะกรรมการสวนสวนทางวินัยขั้นตอนต่อไป

ยกเครื่องออกส.ป.ก.ใหม่ทั่วปท.

สำหรับกรณีบ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสีนั้น เลขาฯส.ป.ก.ได้เพิกถอนส.ป.ก. 4-01 ที่ออกไปแล้วทั้ง 5 ฉบับ ส่วนที่รังวัดและขึ้นรูปแปลงไว้ ให้ระงับทั้งหมด แม้ผลตรวจสอบแนวเขตโดยกรมแผนที่ทหารจะออกมาว่าเป็นเขตปฏิรูปที่ดินก็จะไม่จัดสรรให้เกษตรกรเข้าทำกิน เพราะรมว.เกษตรฯ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมกังวลว่ามีความล่อแหลมที่เกษตรกรจะรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าอีก

“ส.ป.ก.จะใช้กรณีบ้านเหวปลากั้งเป็นบรรทัดฐานตรวจสอบการออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 บริเวณรอยต่อกับป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ เพื่อ set zero การออกส.ป.ก. โดยมิชอบ หากพบในพื้นที่ใดจะเพิกถอน แล้วพิจารณาว่าเกิดจากความคลาดเคลื่อนของแผนที่ ซึ่งแต่ละหน่วยงานถือหรือจากเจตนาทุจริต หากทุจริตจะถูกดำเนินการเด็ดขาดทั้งทางอาญาและวินัย สำหรับผู้ครอบครองที่เป็นเกษตรกร หากถูกเพิกถอนส.ป.ก. 4-01 จะจัดสรรที่ดินให้ใหม่ แต่ถ้าไม่ใช่เกษตรกรต้องสิ้นสิทธิ์และอาจถูกดำเนินคดี” นายวิณะโรจน์ กล่าว

ขยายผลสอบส.ป.ก.ทับป่ากลางดง

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดมีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯพบข้อมูลว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก 4-01 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพญาเย็น สวนป่าปางอโศก ต.กลางดง ปากช่อง อีกจำนวนมาก โดยพบปักหมุด ส.ป.ก. ในพื้นที่ดังกล่าวที่เพิ่งปักหมุด คาดว่าน่าจะเป็นชุดเดียวกับหมุดที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่เป็นปัญหาขณะนี้ ซึ่งปัญหาที่พบหมุด ส.ป.ก. ในเขตป่าสงวนดังกล่าว จากการสอบถามนายวิณะโรจน์ได้คำตอบสั้นๆว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่และจะสรุปอีกครั้ง

ชี้พิรุธจนท.จัดสรรที่ดินเร็วผิดปกติ

เวลา 13.00 น.วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อยื่นเรื่องร้องให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ส.ป.ก. หลังเกิดข้อพิพาทกรณีออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จังหวัดนครราชสีมาโดยมิชอบ โดยนายธนดลเผยว่า มายื่นเรื่องกับพล.ต.ต.จรูญเกียรติใน 2 ประเด็นคือ เรื่องชี้แนวเขต ซึ่งต้องรอแผนที่จากทหารที่รางวัดตรวจสอบรายละเอียดที่ดิน ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 อาทิตย์ ประเด็นที่สองได้รับมอบหมายจากร.อ.ธรรมนัส ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร พบความผิดปกติในการปฏิบัติหน้าที่จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรมีความรวดเร็ว เนื่องจากใช้เวลาตรวจสอบเพียง 3-4 เดือน ก่อนออกเอกสารครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ให้ประชาชน

ก.เกษตรฯขอโทษกรมอุทยานฯ

“ด้วยการจัดสรรที่ดินตามที่เห็นในข่าว ชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ดินดังกล่าวว่าเป็นป่า ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปี 2564 ประกอบระเบียบ 2566 ที่เป็นลักษณะห้วย หนอง และ บึง จะไม่สามารถจัดให้เป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ได้ วันนี้มายื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจ บก.ปปป.ให้ตรวจสอบข้าราชการ ส.ป.ก. ที่มีพฤติกรรมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พบข้อพิรุธในการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ในส่วนกระทรวงเกษตรฯ ขอแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน ที่มีจนท.ปฏิบัติโดยมิชอบ ออกเอกสารส.ป.ก.ในพื้นที่ป่าก่อนที่จะได้รับการตรวจสอบได้อย่างไร รวมไปถึงขอโทษกรมอุทยานฯ ที่มีเอกสารแอบอ้างสิทธิ์ในการออกเอกสาร” นายธนดลกล่าว

ยันผู้ได้ที่ดินเป็นเกษตรกรทั้งหมด

และว่า ส่วนกรณีที่มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ต้องรอให้ตำรวจตรวจสอบข้าราชการ ส.ป.ก. ส่วนผู้ที่ได้รับการจัดสรรทั้ง 12 แปลงจาก 59 แปลง เป็นเกษตรกรที่ได้รับเรื่องจัดสรรที่ดินถูกกฎหมาย โดยได้ตรวจสอบบัตรประชาชนผู้ยื่นคำร้อง ซึ่งบัตรประชาชนมีลิงค์ไปถึงข้อมูลส่วนตัว ผ่านระบบประกันสังคม สุดปลายทางที่กรมที่ดิน แล้วตรวจคุณสมบัติว่า มีสิทธิ์ได้รับจัดสรรที่ดินหรือไม่

นายธนดลกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมีผู้หญิงอายุ 25 ปี ได้รับจัดสรรที่ดิน สปก. 4-01นั้น บุคคลดังกล่าว มีคุณสมบัติได้รับการจัดสรรจริง ซึ่งคุณสมบัติขอพื้นที่ใช้ประโยชน์ ต้องเป็นเกษตรกรเท่านั้น และมีค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน รวมไปถึงต้องมีสำเนาอยู่ในพื้นที่ หากย้ายออกไปอยู่นอกพื้นที่ แต่มีภูมิลำเนา ถิ่นฐานตามครอบครัวอยู่ในที่ดังกล่าว ก็มีคุณสมบัติการขอพื้นที่ดินส.ป.ก.จัดสรรได้ตามปกติ กรณีผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินส.ป.ก.สวมสิทธิ์เป็นนอมินีให้นักธุรกิจหรือไม่นั้น ยืนยันว่าทั้งหมดผู้ที่รับจัดสรรพื้นที่ดิน ส.ป.ก.เป็นเกษตรกรทั้งหมด แต่ก็ต้องรอตำรวจตรวจรายละเอียดอีกครั้ง

ด้านพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้รับการประสานจากรมว.เกษตรฯให้เร่งตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.เข้าข่ายพบพฤติกรรมทุจริต ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะเรียกเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำ ยืนยันทุกอย่างจะทำตามขั้นตอนกฎหมาย