"ทวี"ยันไม่ต้องถึงขั้นปรึกษา"ทักษิณ"ปมแก้ยาเสพติด บอก ตร.-ปปส.สมัยนั้นยังทำหน้าที่อยู่ ชี้เป็นหน้าที่รับผิดชอบผู้นำทุกระดับชั้น โวชาวบ้านพอใจผลงานปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดในขณะนี้ ว่า ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดยาเสพติดจำพวกยาบ้าเป็นหลัก มีการจับกุมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 กว่า 400 ล้านเม็ด จึงจำเป็นต้องมีการปรับวิธีการ ดำเนินการปราบปรามเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น โดยตนจะไปร่วมประชุมกับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง รวมถึงจีนและสหรัฐอเมริกาเพื่อสกัดกั้น ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพึงพอใจในการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการทบทวนการกำหนดผู้ครอบครองยาเสพติด 5 เม็ด เป็นผู้เสพหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ผู้ครอบครองยาเสพติดไม่ว่าจะมีจำนวนเท่าใด ถือว่าเป็นผู้มีความผิด หากดูกฎหมายตามมาตรา 107 ในกลุ่มผู้บำบัดรักษาที่ตัดสินใจไปหาแพทย์ ซึ่งอาจเป็นบทเฉพาะกาลในการช่วยเหลือแพทย์ว่าการครอบครองยาเสพติดมีความผิดเพื่อให้เป็นเกาะป้องกันตัวกับแพทย์ผู้รักษา แต่ในหมวดของการป้องกันและปราบปรามไม่ว่าจะมีกี่เม็ดก็ยังถูกดำเนินคดีทั้งหมดซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีกรอบให้กับแพทย์
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีผลงานด้านการปรามยาเสพติด มีแนวคิดที่จะเข้าไปหารือหรือขอความจากนายทักษิณ หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัจจุบันข้าราชการที่ปฏิบัติงานในสมัยนายทักษิณ ก็ยังคงทำหน้าที่อยู่ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ปปส.ซึ่งสิ่งหนึ่งถือเป็นพลวัตของการแก้ไขปัญหา และต้องยอมรับว่า ก่อนหน้าที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ก็มีความพยายามแก้ไขปัญหาอยู่แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันผสมผสานกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ หากสามารถนำผู้เสพทั้งหมดเข้ามาบำบัดฟื้นฟู โดยอดีตมักพบว่าผู้ที่เข้ามารับการบำบัดกลับไปเสพยาเสพติดอีกครั้ง จึงต้องนำบทเรียนครั้งดังกล่าว มาทำให้ชุมชนเข้มแข็งซึ่งยอมรับว่าไม่สามารถแก้ไขได้ภายในวันสองวัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องการให้กลับมาเป็นคนที่มีคุณภาพและคืนสู่สังคมสร้างชุมชน สร้างงาน
เมื่อถามย้ำว่า จะเข้าไปขอคำปรึกษาจากนายทักษิณ หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า คงไม่ต้องถึงขนาดเข้าไปขอคำปรึกษาจากนายทักษิณ ซึ่งท่านก็มีผลงานที่เห็นอยู่แล้ว เพียงแต่ปัญหาใหญ่คือความรับผิดชอบไม่ใช่เพียงแค่ผู้นำคนเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบของผู้นำในทุกระดับชั้น ถ้าผู้ที่มีหน้าที่ไม่รับผิดชอบก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ยาก ปัจจุบันก็มีความเข้มข้นมากขึ้น แม้แต่เมื่อวานนี้ก็มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดใน ปปส.เอง หากเรารับผิดชอบและเจ้าหน้าที่จริงจังมากกว่านี้ก็จะเห็นผลเร็วกว่านี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี