‘ผู้เชี่ยวชาญ’เบิกเนตร‘พิธา’ วาทกรรม‘ธนาคารน้ำ-เหยี่ยวไฟ’ดับไฟป่า การ์ตูนไปนิด
18 มีนาคม 2567 นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี” เรื่อง “ดับไฟป่าด้วยมือและสติปัญญา” ระบุว่า...
ดับไฟป่าด้วยมือและสติปัญญา
ตอนนี้บังเอิญผมอยู่เชียงใหม่ ต้องออกมาในที่โล่งทั้งกลางวันและกลางคืน เช้าพอทนไหว ตกกลางคืนแสบตาคงเพราะ PM2.5อย่างแน่นอน พอตื่นขึ้นมาอีกวัน อ่านนสพ. คราวนี้ต้องแสบตาเพราะคำแนะนำเรื่องไฟป่าของ คุณพิธา ต่อนายกรัฐมนตรี
ผมน่ะเชี่ยวชาญเรื่องไฟป่ากว่าคุณพิธาแน่นอน คุณพิธาพูดเรื่อง Timeline ของการเกิดไฟป่าในประเทศไทย พูดเรื่องการหาน้ำ หาคนมาดับไฟป่า ทั้งหมดถูกต้อง รวมถึงคุณพิธาให้ความสำคัญกับ logistics นับว่า เป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง แต่ขอติงเรื่องวาทะกรรมสักนิดคือ การพูดเรื่องธนาคารน้ำและเหยี่ยวไฟ ผมว่า มันการ์ตูนไปนิดหนึ่ง แต่ผมเข้าใจว่า คุณพิธาพูดเรื่องอะไร
ผมจะเล่าให้ฟังว่า เมื่อเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ในปี2541 ผมทำอะไรเกี่ยวกับไฟป่าบ้าง
1.จัดตั้งสำนักควบคุมไฟป่า (วันนี้มีคนบ้ามายกเลิกไปแล้ว)
2.จัดตั้งหน่วยพิเศษเคลื่อนที่เร็ว สามารถโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ได้ด้วยมีชื่อว่า เสือไฟ (ดูเหมือนคุณพิธาจะเอามาแปลงชื่อเป็น เหยี่ยวไฟ)
3.จัดตั้งสถานีดับไฟป่าทุกจุดที่ล่อแหลม จำได้ว่า เกือบร้อยจุดทั่วประเทศ โดยมีลูกมือผู้ช่วยคือชาวบ้านในละแวกนั้น
4.จัดทำฐานจอดเฮลิคอปเตอร์บนสันเขาพร้อมกับจัดเตรียมถังน้ำที่ดัดแปลงมาจากถังน้ำมัน ไปวางไว้เพื่อเติมน้ำให้กับพนักงานดับไฟป่า (คุณพิธาเรียกว่า ธนาคารน้ำ)
5.จัดอุปกรณ์เช่น ไม้ตบไฟ ถังฉีดน้ำ (ไม่ได้มีไว้ดับไฟโดยตรง แต่ใช้ดับไฟที่ยังคุอยู่ตามต้นไม้)
6.จัดหารถยนต์กระบะสูงสีแดงให้ 200 คัน
เหล่านี้เป็นต้น
สุดท้ายก็คือคำสั่งว่า ในช่วงฤดูไฟป่า จนท.ทุกคนตั้งแต่นายยันลูกน้อง ทำหน้าที่ดับไฟอย่างเดียวไม่ต้องทำอย่างอื่น และคาดโทษว่า ไฟไหม้ที่ไหนเกิน 3 วัน ย้ายลูกเดียว! เชื่อไหมครับ ไฟป่าลดลงไปนับเป็น 100เท่าตัวเทียบกับปีก่อนที่ผมมาอยู่
เรื่องTimeline คุณพิธาพูดถูก เดือนที่ผ่านมาเป็นเรื่องของกรุงเทพฯและภาคกลาง ช่วงนั้นมีควันแต่ไม่มีไฟ เพราะPM2.5 เกือบ80%มาจากเขมรและการเผาไร่อ้อยและซังข้าว แถมด้วยไอเกลือ (Aerosol)จากทะเลที่มาช่วยยึดเหนี่ยวควันไม่ให้ไปไหน สำหรับTimeline วันนี้คือ ภาคเหนือ คราวนี้ต้องสู้กับทั้งไฟป่าและหมอกควันที่มาจากพม่า
สำหรับภาคเหนือช่วงไหนจะมีควันและPM2.5มากน้อยก็จะขึ้นอยู่กับลมบนระดับสูงมาก ซึ่งมาจากจีน จะเป็นลมเย็นที่ค่อนข้างหนัก เป็นตัวสร้างฝาชีครอบหุบเขา ไม่ให้มีการถ่ายเทอากาศ ส่วนลมชั้นกลางและชั้นล่างก็จะนำทั้งความร้อนและความชื้นขึ้นมาจากทางตอนใต้ มาอัดอยู่ในฝาชี ฝนตก ฝาชีแตกเมื่อไหร่ ควันก็จะหายไปทีหนึ่ง
ส่วนฝ่ายปกครอง การส่งเสียงตามสายตอนเช้าแค่นั้น ไฟไม่ดับหรอกครับ เท่าๆกับบรรดาผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย เพียงแค่ประกาศว่า จะสู้ไฟสู้ควันได้ ก็แก้ปัญหาไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ต้องลงพื้นที่และอยู่หน้าหน้างานเท่านั้นครับ ที่พูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้ตำหนิใคร เพียงอยากแนะนำหรือจะตีความว่า สอนก็ได้ เพราะผมเป็นคนที่รู้เรื่องนี้มากที่สุดแน่นอน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี