ศาลอาญากรุงเทพใต้ยกฟ้อง‘ชวน หลีกภัย’หมิ่น‘ทักษิณ’ปี55 ศาลชี้ในฐานะนักการเมืองวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ‘ชวน’ชี้ถ้า‘ทักษิณ’เชื่อ‘อดีตรองแม่ทัพภาค 4’ ภาคใต้คงไม่เกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ ฉะนโยบายผิดพลาดเกิดเหตุการณ์ปล้นปืน แถมด่า‘โจรกระจอก’อีก
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 26 มีนาคม 2567 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทหมายเลขดำ อ.1590/2565 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภา เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 , 328
อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดสรุป ว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2555 เวลากลางวัน จำเลยหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างการบรรยายในงานเปิดงานโรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมรามาดาพลาซ่า แม่น้ำริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร
โดยมีข้อความเป็นการใส่ความผู้เสียหายทำนองว่า “รูปแบบการปกครองทุกอย่างต้องพัฒนาไปข้างหน้า แต่ต้องยอมรับว่ารูปแบบการปกครอง ของประเทศไทยให้โอกาสมาก บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่เราต้องทำ คนไทยมีศักยภาพ แต่เรามีจุดอ่อนที่นักการเมืองโกง ซึ่งมาจากธุรกิจการเมืองและอุปสรรคของประชาธิปไตย คือ การยึดอำนาจระบอบประชาธิปไตย อำนาจประชาธิปไตยจะใช้ผ่านองค์กร สถาบันทั้งนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ โดยมีการคานอำนาจซึ่งกันและกัน แต่เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาจึงเกิด องค์กรอิสระขึ้นมา เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แต่เมื่อระบบทักษิณเกิดขึ้นก็ใช้วิธีการนอกกฎหมาย”
“สำหรับปัญหาใน3จังหวัดชายแดนใต้ปัจจุบันเป็นเพราะนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาใน3จังหวัด ชายแดนใต้ให้หมดภายใน3เดือนนั้นทั้งที่ขณะนั้นไฟใต้มอดแล้วในสมัยที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีกลับใช้คำว่า “โจรกระจอก” และมียกเลิกศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) หันมาใช้นโยบาย “ฆ่าหมดก็จบตรงนี้คือที่มาของการนองเลือดในปัจจุบันนี้…”
คำพูดต่างๆของนายชวน จำเลย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียด ชัง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษ จำเลยตามความผิดด้วย โดยนายชวน ให้การปฏิเสธ และต่อสู้คดี
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์-จำเลยที่นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า จำเลยเป็นนักการเมือง และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ย่อมมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้โดยสุจริต พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังฟังคำพิพากษานายชวน กล่าวว่า คดีนี้สืบพยานกันมา 7 วันต่อเนื่องกัน และศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาวันนี้ โดยก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษา ตนได้ขออนุญาตแถลงการณ์ เพื่อสรุปข้อเท็จจริงจากการที่สืบพยานกันมา ในที่สุดศาลพิพากษายกฟ้องด้วยเหตุผลว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะที่ตนเป็นนักการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี และมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ในเหตุการณ์ที่ได้ประสบมา เนื่องจากในสำนวนได้มีการสืบพยานที่มาของคำพูด เช่น การฆ่าตัดตอน การฆ่าทิ้ง ฯลฯ โดยมีอดีตรองแม่ทัพภาค 4 มาเบิกความเป็นพยานให้
นายชวน ระบุว่า อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นคนเดียวในวันประชุมวันที่ 8 เมษายน 2544 ระหว่างที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีและไปประชุม อันเกิดจากวันที่ 7 เมษายน ที่มีระเบิดที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา และวันที่ 8 เมษายน คือวันที่ให้นโยบายว่าคนร้ายมีไม่เกิน 17-18 คนที่เป็นหัวโจก จัดการเดือนละ 10 คน 2 เดือนก็หมด รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มายืนยันความหมาย หลังจากนั้นปัญหาในภาคใต้ก็เกิดขึ้นจากนโยบายดังกล่าว ในที่สุดก็ต้องส่งตำรวจเข้าไป เพราะเชื่อว่าตำรวจทำได้ ซึ่งรองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้บันทึกถ้อยคำไว้ โดยในวันที่ได้มาเบิกความนั้นเป็นคนหนึ่งที่กล้ามาเบิกความ และเป็นคนเดียวในวันนั้นที่กล้าตินโยบายในทำนองไม่เห็นด้วย
“หากเชื่ออดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 ภาคใต้จะไม่นองเลือดอย่างทุกวันนี้ ผลจากวันนั้นคือที่มาของเหตุการณ์ 4 มกราคม 2547 คือ วันที่มีการปล้นปืนได้ไป 400 กว่ากระบอก นี่คือที่มาของเหตุร้าย ที่ผ่านมามีประชาชนเสียชีวิตไปกว่า 5,700 คน อันเกิดผลจากความผิดพลาดของนโยบาย ซึ่งนายทักษิณก็เคยยอมรับว่าผิดพลาดจริงๆ ศาลจึงเห็นว่าผมในฐานะเป็นนักการเมืองมีประสบการณ์เรื่องนี้ และในสำนวนระบุว่าผมได้ไปเห็นด้วยตัวเองในเรื่องนี้ที่ จ.ปัตตานี ซึ่งได้มีการนัดสืบพยานทั้งหมด ศาลจึงเห็นว่าผมมีสิทธิ์ที่จะให้ความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ได้” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่อยากให้คดีขาดอายุความ เพราะคดีมีขึ้นแล้วก็ให้สืบพยานให้จบว่าจะลงเอยอย่างไร จะได้จบยุติ โดยศาลเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจ
เมื่อถามถึงประเด็นไฟใต้ นายชวน กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวจะต้องรอดู ความผิดพลาดจากนโยบาย 8 เมษายน 2544 เป็นที่มาของความสูญเสียถึงชีวิต แต่รัฐบาลชุดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะไปไกลขนาดไหนจะต้องดูว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 40 ครั้งก็คงไม่ธรรมดา ///////-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี