นายกฯแจงปมย้าย

ไม่ได้ลงโทษ2บิ๊กตร.

ทนายตั้มแฉเงินส่วย

พัวพันตร.หลายนาย

นายกฯ ย้ำในวง ก.ตร.เหตุย้าย “บิ๊กต่อ-รองฯ โจ๊ก”ไม่ใช่ลงโทษ แค่ทำให้ถูกกฎหมาย ด้าน “บิ๊กต่าย”ไม่ยุ่งปมขัดแย้ง 2 บิ๊กตำรวจ ให้เป็นไปตามกระบวนการสอบสวน ขณะที่ “ทนายตั้ม” แฉเส้นทางส่วย 3 หน่วยงาน พัวพันบิ๊กตำรวจ เดือนละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จ่อเข้าแจ้งความ “บิ๊กเต่า” ที่ บช.ก. 28 มีนาคมนี้

เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 2/2567 โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐพันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.พร้อมคณะ ร่วมประชุม โดยก่อนการประชุมครั้งนี้ นายกฯ กล่าวถึงกรณีที่มีคำสั่งย้ายพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าเพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่ายปราศจากข้อความกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่การลงโทษเพราะถือว่าทั้งสองยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนผลการดำเนินการจะนำไปสู่ขั้นตอนทางกฎหมายทางวินัยหรือปกครองหรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

นายกฯ กล่าวย้ำว่า หาก ก.ตร.มีข้อเสนอแนะใดที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยินดีรับข้อเสนอด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจ อาทิ รายงานผลการดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,การเสนอพิจารณาการเลื่อนเงินเดือนประจำปี2566 ครั้งที่ 2 ครึ่งปีหลัง (1 ตุลาคม 2566) ในโควตาผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด แก่ข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือนระดับ ส.6 ขึ้นไป,ร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือส่วนราชการใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสำรองราชการในส่วนราชการใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ... และร่างข้อบังคับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยวิธีการดำเนินการในระหว่างข้าราชการตำรวจสำรองราชการ, ร่างระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านสัตวแพทย์และสัตวบาล พ.ศ. ... การขออนุมัติกำหนดเหตุพิเศษตามที่ ก.ตร.กำหนดตามมาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 กรณีแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งสังกัดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงการดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ในท้องที่ สน.เตาปูน ว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนที่ถูกตั้งขึ้นมาแล้ว ตนจะไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย หากพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าต้องส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ก็ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ทุกอย่างถูกกำหนดด้วยกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว ตนขอไปทำงานเพื่อองค์กรตำรวจในช่วงที่รักษาราชการแทนผบ.ตร.ดีกว่า ส่วนเรื่องหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ซึ่งไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่กับกรณีที่เกิดขึ้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ไม่มีอะไรหนักใจ ตนมีหน้าที่ทำงาน และหากตำรวจไม่ทำตามนโยบายก็จะมีบทลงโทษอย่างจริงจังแน่นอน ไม่ได้ทำเพื่อขู่ใคร แต่ทำเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร และหากตำรวจนายใดฝ่าฝืนและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายหรือผิดนโยบาย รับรองว่าไม่ได้ทำหน้าที่ต่อไปแน่นอน จะต้องถูกพิจารณาข้อบกพร่องในทางปกครอง และจะมีผลไปถึงการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งหน้าแน่นอน

วันเดียวกัน ที่สำนักงานทนายความ ษิทราลอว์เฟิร์ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ แถลงข่าวเปิดโปงขบวนการเรียกรับส่วย ที่มีการเชื่อมโยงถึงบิ๊กตำรวจระดับนายพล พร้อมเปิดหลักฐานเส้นทางการเงิน ภาพจากกล้องวงจรปิด สลิปการโอนเงิน และแชตข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยมีการแถลงเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงมีเนื้อหาโดยสรุปกล่าวถึงการรับส่วยจาก 3 หน่วยงานที่บิ๊กตำรวจ กำกับดูแล จาก 18 ธุรกิจสีเทา เป็นเงินเดือนละนับร้อยล้านบาท ซึ่งนายษิทรา ยืนยันว่าไม่ได้รับงานใครมา ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่นำข้อมูลมาเปิดเผยเพราะเป็นประโยชน์ต่อสังคมทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว นายษิทรา ยังระบุว่าจะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมด เข้าแจ้งความต่อพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ เวลา 11.00 น.