‘เศรษฐา’คุยสื่อนอก-ย้ำรบ.เร่งกระตุ้นศก.

ไม่กังวลรัฐประหาร

ยันเป็นสิ่งไม่สามารถควบคุมได้

‘เฉลิมชัย’สั่งลูกทีมปชป.จัดเต็ม

ลุยซักฟอกนายกฯ-คณะรัฐมนตรี

‘จักรภพ’ขอทำประโยชน์เพื่อชาติ

นายกฯ เศรษฐา ให้สัมภาษณ์สื่อฝรั่งเศส ย้ำรัฐบาลไทยเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ - เผยเคล็ดลับถอดบทเรียนความผิดพลาดในอดีต ไม่กังวลรัฐประหาร เดินหน้ายกระดับความเป็นอยู่คนไทย “เฉลิมชัย”การันตียี่ห้อประชาธิปัตย์ ซักฟอกเต็มที่ ไม่มีมวยล้ม ไฟเขียวลูกพรรคใส่เต็ม แย้มนอกจากนายกฯ ยังมีรมต.คนอื่นด้วย ฝ่ายเพื่อไทย เย้ยไม่จำเป็นต้องล็อบบี้สกัดน้ำลายฝ่ายค้าน เพราะรัฐบาลมีผลงานเพียบ ด้านนายกฯเศรษฐาลุยแก้หนี้แฟลตดินแดง

เมื่อวันที่ 31มีนาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึง ผลสรุปการสัมมนาสส.คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคปชป.ว่า ได้พูดคุยทิศทางของพรรคและเตรียมการอภิปรายทั่วไปแบบตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-4 เม.ย.อย่างที่ตนพูดว่าการอภิปรายเราทำเต็มที่100% ไม่ต้องเป็นห่วง และขอให้มั่นใจว่า ยี่ห้อพรรคประชาธิปัตย์ ยี่ห้อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคฯไม่มีมวยล้มอยู่แล้ว แต่ประเด็นที่จะอภิปรายต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้วก็พร้อมที่จะอภิปราย

ปชป.ส่ง”จุรินทร์”สับแหลก

เมื่อถามว่าจะมีประเด็นใหม่ที่นอกเหนือจากที่เป็นข่าวในสังคมตอนนี้หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขอให้รอฟังวันนั้นดีกว่าโดยนายจุรินทร์จะเป็นคนอภิปรายเปิดในภาพรวมและมีส.ส.ของพรรคอภิปรายในรายละเอียด ไม่ถึง 10คน ซึ่งจะเป็นคนรุ่นใหม่เกือบทั้งหมด เพราะต้องการเน้นคุณภาพ อภิปรายประมาณ2-3 ประเด็น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้เวลามา 3 ชั่วโมงก็ต้องทำ 3 ชั่วโมงนี้ให้มีค่ามากที่สุด เวลาส่วนใหญ่พรรคก้าวไกลได้ไป จึงต้องบริหารให้ดีที่สุด ดังนั้นต้องกำชับว่าต้องอภิปรายไม่เยิ่นเย้อและตรงประเด็น

ไฟเขียวลูกพรรคลุยเต็มที่

เมื่อถามย้ำว่า คนที่อภิปรายเป็นตัวตึงใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่ใช่ตัวตึงแต่เอาเป็นว่ามีข้อมูล โดยตนได้กำชับไปแล้วว่าให้อภิปรายในเนื้อหาสาระอย่างเดียว หากตรงไหนไม่ถูกต้อง ให้”ใส่”ไปเลย ไม่ต้องอารัมภบทมาก ส่วนข้อมูลที่มีอยู่จะทำให้รัฐบาลเซถึงขั้นปรับครม.หรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่าเรื่องการปรับครม.ขึ้นอยู่กับรัฐบาลและรัฐมนตรี หากข้อมูลดีแค่ไหนถ้านายกฯไม่ปรับ ก็คงไม่มีการปรับเพราะเป็นอำนาจของนายกฯ แต่ยอมรับว่าข้อมูลที่อภิปรายในครั้งนี้สามารถนำไปต่อยอดใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ได้ ดังนั้นขอให้รอฟัง ตนไม่ขอพูดไปก่อนเพราะเกรงว่าจะกร่อย

เมื่อถามว่าข้อมูลการอภิปรายครั้งนี้จะทำให้เกิดข้อถกเถียงในสังคมจนกดดันนำไปสู่การปรับครม.ได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเราก็ท้วงติง ไม่ใช่จะไป”ฆ่า”กัน แต่เป็นการท้วงติงในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และทำในสิ่งที่ทำให้ประชาชนและประเทศชาติเสียหาย เราก็ต้องพูดในฐานะที่เป็นฝ่ายค้าน ต้องช่วยฝ่ายบริหารดูว่าท่านทำอะไรไม่ถูกต้องบ้าง หรือมีอะไรที่ควรจะทำบ้าง ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่ ถ้าปล่อยไปอาจถึงขั้นทำให้ประเทศชาติเสียหายได้ ไม่เช่นนั้นพวกตนคงไม่พูดถามว่าหากนายกฯรับฟังแล้วต้องกลับมาคิดใช่หรือไม่ เราก็พูดให้นายกฟังอยู่แล้ว

เรื่อง”ทักษิณ”มีแน่นอน

เมื่อถามถึงเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนโดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคก้าวไกล ใครจะเป็นคนอภิปรายนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่าเรื่องนี้ก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่ขออย่าให้ลงในรายละเอียดตอนนี้ ยอมรับว่านอกจากนายนายกฯแล้วยังมีรัฐมนตรีคนอื่นที่เป็นเป้าด้วย ส่วนจะมีข้อมูลอภิปรายถึงกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะเคยเป็นอดีต รมว.เกษตรฯมาก่อน ขอให้ไปฟังดูดีกว่า เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยเป็นรัฐบาล ตนก็เคยเป็นรัฐมนตรี ถ้าเรามั่นใจว่าบริหารแบบสุจริต ก็ไม่ต้องไปกังวลอะไร ไม่มีใครทำอะไรเราได้ เหมือนที่ตนโดนอภิปราย ก็พร้อมตอบทุกข้อกล่าวหา

ไร้สัญญาณปรับครม.

ที่จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ใน ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีรวมถึงจะมีกระแสข่าวโยกย้ายกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า นี่คือรัฐบาลผสมที่เกิดจากหลายพรรคการเมืองมาสนับสนุนจนเกิดนายกรัฐมนตรี ดังนั้นรูปแบบการทำงานก็เป็นในแนวทางแบ่งความรับผิดชอบไปเรียบร้อย ถือเป็นมารยาทของรัฐบาลผสมอยู่แล้ว ดังนั้นสื่อมวลชนอย่าไปกังวลเรื่องนี้ถ้าจะปรับก็ต่างคนต่างปรับ คุณไม่ต้องกังวลหรอกปัญหาในแต่ละพรรคก็เยอะอยู่แล้วเวลาปรับครม. สร้างปัญหาข้ามพรรคเดี๋ยวครม.จะไม่เข้มแข็ง

“ขณะนี้ครม. เข้มแข็งอยู่แล้วเพราะมี 314 เสียง ถือว่ามั่นคง นายกรัฐมนตรีก็เข้มแข็งทุกวันมีความเป็นผู้นำที่ชัดเจนและร่วมมือทำงานกันอย่างเต็มที่จะ rock the boat (ทำให้เรือสั่นทำไม) และตอนนี้นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่มีการมาแจ้งปรับครม.แต่อย่างใด” นายอนุทิน กล่าว

ย้ำภูมิใจไทยทำงานได้ดี

เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคภูมิใจไทยพอใจในบทบาทที่คุมกระทรวงในขณะนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าถามว่าพรรคภูมิใจไทยอยากได้กระทรวงอะไรถ้าพูดออกไปเดี๋ยวจะตกใจกันหมด แต่ตอนนี้กระทรวงที่ภูมิใจไทยได้ ก็ทำงานตอบสนองนโยบายนายกรัฐมนตรีทุกเรื่องเปิดปุ๊บติดปั๊บ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) และกระทรวงศึกษาธิการ ก็สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆได้อย่างดี รวมถึงสอดรับและถือเป็นผลงานของรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรี 4 กระทรวงไปปฏิบัติตามและตอบสนองงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นการทำงานแบบมืออาชีพ

พร้อมแจงงานในเวลาอภิปราย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวัน 3-4 เม.ย.นี้ ฝ่ายค้านอาจมีการหยิบยกประเด็นการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทยมาอภิปรายว่า ก็ต้องชี้แจงตามข้อเท็จจริง ที่ผ่านมาเราทำตามภารกิจเรา ไม่ได้แย่งงานใครหรือทำให้ใครเดือดร้อน ตนพูดมาตลอดว่าถ้าแข่งกันทำประโยชน์ให้ประชาชน ก็ทำไปเถอะ ประชาชนได้ประโยชน์ คนที่เสียประโยชน์คือคนที่ไม่ได้ทำตามกฎหมาย อย่างน้อยสังคมก็ดีขึ้น เช่น การไปดูสถานบันเทิง เรามั่นใจได้ว่าคนที่ทำใบอนุญาตถูกต้องจะไม่ทำผิดกฎหมาย แต่คนไม่มีใบอนุญาตก็ต้องรีบทำให้คุ้มทุน ซึ่งมีรายได้พิเศษจากยาเสพติด รวมถึงการจับยาเสพติด เป็นต้นอย่างไรก็ตาม เราหวังใช้โอกาสชี้แจงและพูดว่า 6 เดือนทำอะไรไว้บ้าง ในการแก้ปัญหาต่างๆให้ประชาชน

เมื่อถามว่ารัฐมนตรีในพรรคพร้อมชี้แจงใช่ไหม นายอนุทิน กล่าวว่า ใครโดนพาดพิงก็ต้องชี้แจง สส.ฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว และตนขอชื่นชมสปิริตฝ่ายค้าน ที่ใช้เวทีอภิปราย ตามมาตรา 152 ใช้สภาตรวจสอบ เพราะการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ ก็จะไม่เป็นธรรมกับรัฐบาล เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบประมาณปี 2567

หนุนรบ.แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาท ประชาชนสอบถามกันมากว่าเมื่อไหร่จะได้ ซึ่งเงินหมื่นเราให้ประชากรเกือบทั้งประเทศ ดังนั้น คงไม่ได้วันสองวัน นายกฯ ก็ประชุมทุกวัน พยายามหาทางให้เงินออกมาได้ วันหนึ่งมันก็ต้องได้ เพราะเขาสัญญาไว้แล้ว เป็นนักการเมืองสัญญาอะไรกับประชาชนต้องทำให้สำเร็จ ไม่ต้องห่วงว่าพรรครัฐบาลจะไม่สนับสนุน แต่เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง สามารถอธิบายประชาชนได้ อธิบายผู้ตรวจสอบได้ อธิบายฝ่ายขายได้ และหาเงินให้ได้ ซึ่งเงินหาได้อยู่แล้ว แต่ต้องเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน“อยู่ดีๆ เพื่อนร่วมรัฐบาลจะเอาเงิน 1 หมื่นบาทให้ประชาชนใช้ ถามว่าใครจะกล้าขัด ดังนั้น ตรงนี้เราต้องช่วยกันสนับสนุน แต่ขอเวลาให้ทุกอย่างหาหนทางได้ และมีความถูกต้อง” นายอนุทิน กล่าว

เศรษฐาลุยเขตดินแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง หลังจากหยุดพักช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า ในเวลา16.00น.วันที่ 1เม.ย.นี้ นายกฯ มีกำหนดลงพื้นที่เขตดินแดง พบปะประชาชนในพื้นที่บริเวณลานกีฬาแฟลต51-53 ตลาดกลางดินแดง,ซ.ประชาสงเคราะห์11 ซ.ประชาสงเคราะห์ 9 ผ่านสำนักงานเคหะนครหลวง สาขาดินแดง 2 ซ.ประชาสงเคราะห์ 7,5,1 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ปลัดพม.รวมถึงผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ฯ ร่วมคณะลงพื้นที่ พูดคุยกับประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง ถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ปัญหาหนี้นอกระบบ รวมถึงเรื่องปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมอบแนวทางผู้เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ไม่จำเป็นต้องล็อบบี้ฝ่ายค้าน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรรฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายนนี้ ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อม และขอให้ทุกฝ่ายยกระดับการทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ มีวุฒิภาวะ ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ การทำงานการเมืองต้องตรงไปตรงมา พรรคเพื่อไทยไม่มีความจำเป็นต้องไปล็อบบี้ฝ่ายค้านให้อภิปรายหรือไม่อภิปรายในประเด็นใด ตนมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนพร้อมตอบทุกคำถาม ความจริงประชาชนที่ติดตามการประชุมสภาฯ แทบจะตอบคำถามแทนรัฐบาลได้ทุกข้ออยู่แล้ว บางประเด็นถามซ้ำไปซ้ำมา คอนเทนต์เก่าเอามาเวียนเทียนเปลี่ยนคนพูด ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ อยากเห็นพรรคฝ่ายค้านทำงานการเมืองแบบมืออาชีพ ที่ไม่ใช่แค่มาสร้างคอนเทนต์แล้วนำไปให้โซเชียลไอโอขยี้ต่อ เพราะปัจจุบันสังคมพร้อมเปิดรับข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วนรอบด้าน ขอให้พรรคฝ่ายค้านทำงานอย่างมีเอกภาพ ไม่หวาดระแวงกันเองว่าจะมีพรรคใดอภิปรายแบบพร้อมร่วมรัฐบาล เสียงของรัฐบาลมีมากพอที่จะผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ ขอให้ทุกฝ่ายเคารพและเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน

เชื่อมีขบวนการปลด”เศรษฐา”

วันเดียวกัน นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลเศรษฐาสั่นคลอนแน่นอน ถ้าไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะอยู่ไม่ได้ แต่ตนเชื่อว่าจะมีขบวนการปลดเศรษฐาก่อน เพราะนโยบายที่หาเสียงไว้ทำไม่ได้เลย อย่าง ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทก็ทำไม่ได้ เงินเดือน 25,000 บาทก็ทำไม่ได้ เงินดิจิทัล 10,000 บาทก็ทำไม่ได้ แต่กลับได้ยาบ้า 5 เม็ดมาแทน นี่คือสิ่งที่ประชาชนเขาบ่นกันทั่วประเทศ ล่าสุด ลูกเมายาบ้า ตัดศรีษะแม่เดินถือไปทั่ว นี่คือสิ่งที่ตนเคยพูดไปแล้วว่าจะเป็นปัญหา แต่นายเศรษฐาก็ไม่คิดจะแก้ไขจนเวลานี้ยาบ้าเต็มประเทศ

ร้องให้เปลี่ยนตัวนายกฯ

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้าที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่มีการลงญัตติ ตนอยากให้เพื่อน สส.อภิปรายอย่างแข็งขัน ตนขอฝากประเด็นอย่าง ยาบ้า 5 เม็ดชาวบ้านเขาไม่อยากได้ เงินที่เขาอยากได้กลับไม่ได้ ตนถึงบอกว่านายเศรษฐาไม่ควรจะเป็นนายกฯแม้แต่วันเดียว เพราะในตอนหาเสียงที่จะเอาเงินมาแจกประชาชน 10000 บาทนั้นบอกว่าไม่ต้องกู้ สามารถใช้งบประมาณดำเนินการได้ แสดงถึงภาวะความเป็นผู้นำ แต่สุดท้ายพอเข้ามาเป็นผูันำแล้ว ทำไม่ได้อย่างที่พูดสักเรื่อง นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้ ยังสร้างปัญหาด้วยการจะเอาคาสิโนเข้ามาอีก ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มีทางปราบการพนันผิดกฎหมายได้ เพราะที่ผ่านมาเราเคยเอาหวยใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน แต่หวยใต้ดินก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ฉะนั้นวันนี้ถ้าเอาบ่อนคาสิโนเข้ามาในประเทศไทย ต่างชาติเข้ามาลงทุน สุดท้ายก็เอาเงินออกนอกประเทศ นี่คือปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบและจะเกิดการมอมเมาประชาชน จนมีคนฆ่าตัวตายมากมาย ดังนั้นถึงเวลาที่พวกเราต้องเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนนายกฯได้แล้ว

“เศรษฐา”ไม่กลัวรัฐประหาร

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว FRANCE 24 ประเทศฝรั่งเศส โดยได้ย้ำถึงนโยบายเร่งด่วนและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยย้ำว่า ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลของตน ในระยะแรกสิ่งสำคัญที่สุดคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาก ในห้วง 9 ปีที่ผ่านมา ในมุมมองของตนนั้น เห็นว่า รัฐบาลชุดก่อน ยังละเลยปัญหาเศรษฐกิจไปบ้าง ดังนั้น รัฐบาลของตนจึงเน้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน รวมถึงการจัดทำแผนระยะยาวสำหรับประเด็นสำคัญ ๆ เช่น การส่งเสริมการลงทุน ทั้งจากสหรัฐอเมริกา และจีน เป็นต้น นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการนำกัญชาให้กลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติด โดยเห็นว่า ที่ผ่านมาการประกาศให้กัญชาถูกกฎหมาย สร้างความเสียหายให้กับคนไทยอย่างใหญ่หลวง มากกว่าจะมีผลทางเศรษฐกิจ

ส่วนความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยมักถูกรัฐประหารนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ตนเองไม่กังวลกับสิ่งที่ตนไม่สามารถควบคุมได้ แต่ตนจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตนสามารถควบคุมได้ และตนเองก็เรียนรู้จากความผิดพลาดของรัฐบาลชุดก่อน รวมถึงมีเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยดีขึ้น พร้อมมั่นใจว่า อนาคตของประเทศไทย จะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะมิเช่นนั้น ตนเองก็คงจะไม่ได้นั่งอยู่จุดนี้

นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาว่า หากมีผู้ต้องการขอความช่วยเหลือ รัฐบาลก็พร้อมช่วย แต่ขณะนี้ ก็มีผู้อพยพส่วนหนึ่งมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว แต่เมื่อคราวที่นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติจากสหรัฐอเมริกา และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจากจีน ได้มาประชุมอย่างไม่เป็นทางการที่กรุงเทพฯ พร้อมร้องขอให้ประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นคนกลาง ไม่ให้ปัญหาบานปลาย จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ดังนั้น ปัญหาผู้ลี้ภัยจึงไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่ควรเน้นไปที่บทบาทของประเทศไทย จะมีบทบาทได้อย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายจนกลายเป็นสงครามการเมือง