พท.ยันไม่เปลี่ยนตัวประธานสภา
ชู'วันนอร์'เป็นกลาง
‘พวงเพ็ชร’พ้อเสียกำลังใจ
มีชื่อหลุดโผครม.เศรษฐา2
ขอโอกาสทำงานโชว์ฝีมือ
‘อนุทิน’ย้ำไม่เปลี่ยน4รมต.
“วันนอร์” ยกรัฐธรรมนูญ-ข้อบังคับสภาฯคนละเรื่องโยงปรับครม.ลามเปลี่ยนประธานสภาฯลั่นตำแหน่งนี้มีเกียรติ เป็นเสาหลักประชาธิปไตย ทำหน้าที่ เป็นกลาง ย้ำไม่ติดยึดตำแหน่ง พร้อมไปหากทำไม่ได้“เศรษฐา” ชี้ถึงคิวพปชร.เจ้าภาพนัดกินข้าวพรรคร่วม แต่ยังไม่ได้นัดมา อย่าโยงเอี่ยวปมปรับ ครม. ยันไม่มีปัญหาพรรคร่วมฯ
ย้ำยึดผลงานวัดปรับครม.‘ภูมิธรรม’สยบข่าวเปลี่ยนประธานสภา ไม่ได้เป็นเจ้าของจะไปยึดคืนอะไร ยัน‘วันนอร์’ทำงานเป็นกลาง ไม่โน้มเอียง นายกฯอยากให้สภาเข้มแข็ง หมายถึงสส.เข้าประชุมพร้อมเพรียง ผลักดันกม.-สะท้อนปัญหาประชาชน‘พวงเพ็ชร’รับเสียกำลังใจ หลังชื่อหลุดโผ‘เศรษฐา2’ขอโอกาสทำงานสำคัญคั่งค้างให้สำเร็จ ใช้งบ67แสดงฝีมือ พร้อมเดินหน้าทำงานต่อ เป็นภูมิคุ้มกันตามคำนายกฯ
เมื่อวันที่ 19เมษายน2567 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีการเชื่อมโยงมาถึงการเปลี่ยนตำแหน่งประธานสภาฯ มีการส่งสัญญาณมาหรือไม่ ว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไร การปรับครม.กับตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นคนละเรื่องกัน การปรับครม.เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯต้องมีการเสนอชื่อเพื่อเลือกในที่ประชุมสภาฯ มีผู้รับรอง แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งประธานสภาฯเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้อบังคับการประชุมสภาฯ
‘วันนอร์’ลั่นไม่ยึดติดเก้าอี้ปธ.สภาฯ
“ในส่วนตัวของผม ไม่เคยติดยึดกับตำแหน่งใดๆ ถ้าทำได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน ผมก็ต้องทำเต็มที่ แต่ถ้าทำไม่ได้ หรือไม่สามารถทำได้ ผมไม่ติดยึด พร้อมที่จะไป แต่ขอเรียนว่า ตำแหน่งประธานสภาฯเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติเป็นเสาหลักประชาธิปไตย ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่สามารถมีใครมาแทรกแซงได้ นอกจากนี้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดชัดเจน ประธานและรองประธานสภาฯต้องไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใดๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผูกพัน หรือมีการแทรกแซงจากพรรคการเมือง ยืนยันอีกครั้งว่าการปรับครม.เป็นเรื่องของนายกฯ แต่ตำแหน่งประธานสภาฯเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับฯ ผมไม่มีอะไรส่วนตัว แต่เกียรติศักดิ์ศรีสภาฯ ผมในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องรักษาไว้” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
ประเพณีผ่านมาไม่เคยมีการเปลี่ยนตัว
เมื่อถามว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ เลือกมาจากที่ประชุมฯ จึงไม่มีเหตุใดที่จะต้องเปลี่ยนกลางคัน นายวันนอร์ กล่าวว่า ประเพณีที่เคยปฏิบัติมาไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องมีความเป็นกลาง ไม่ใช่เครื่องมือของพรรคการเมืองใด เมื่อถามว่า ยืนยันจะทำหน้าที่นี้ต่อไปหรือไม่ นายวันนอร์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ ถ้าตนละเลย เท่ากับว่า ตนไม่รักษาระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมอบให้ไว้ ยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีใครส่งสัญญาณมา ถึงส่งสัญญาณก็เป็นสัญญาณที่รับไม่ได้
“มันไม่มีเหตุใดๆที่จะต้องเปลี่ยนตำแหน่ง ถ้าปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ก็ต้องไปเอง ผมถือว่าต้องให้ประโยชน์ประชาชนเกียรติศักดิ์ศรีสภาฯ เดินไปให้ตรงแนวทาง จะมาบิดๆเบี้ยวๆเพื่ออย่างใดอย่างหนึ่งผมว่าไม่ถูก ถ้าถามว่าให้ประเมินว่าผมยังทำหน้าที่ได้หรือไม่ ผมประเมินเองไม่ได้ สื่อและประชาชนจะเป็นคนประเมิน”นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำ
นายกฯรอ’พปชร.’นัดวันดินเนอร์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารตามวงรอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพไปแล้ว ว่า การนัดครั้งต่อไปเข้าใจว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเจ้าภาพ แต่ยังไม่ทราบกำหนดการ ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าภาพที่จะนัดมา ผู้สื่อข่าวถามว่า น่าจะต้องมีการนัดหมายกันได้แล้วใช่หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวการปรับ ครม.เข้ามา อาจต้องพูดคุยถึงเรื่องการทำงาน นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าโยงเกี่ยวกัน 2 เรื่อง และในที่ประชุมครม.ก็ยังมีการพูดคุยกันดีอยู่ ไม่ได้มีปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เข้าใจว่า หนแรกพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ หน 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าภาพ หากดูตามจำนวนสส.ครั้งต่อไปพรรคพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพ เดี๋ยวคงต้องถามพรรคพลังประชารัฐดู เมื่อถามว่าโอกาสนี้จะได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ในเรื่องของการทำงาน นายเศรษฐา กล่าวว่า พูดคุยกันตลอดครับ เมื่อถามว่า ต้องมีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า แล้วแต่สถานการณ์ แล้วแต่เรื่อง สามารถพูดคุยกันได้ตลอดเวลาอยู่แล้วไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่าหลังจากมีข่าวการปรับ ครม.ออกไป มีแรงกระเพื่อมอะไรหรือไม่ในทางการเมือง ที่อาจจะมีผลกระทบต่อการทำงาน นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องบอกว่าแรงกระเพื่อมคืออะไร อย่างที่ตนเคยเรียนไปเมื่อ 2-3 วันก่อนในช่วงสงกรานต์ ก็มีการวิ่งเต้นสอบถามข่าว ตนจึงบอกว่าภูมิคุ้มกันดีที่สุดคือการทำงาน
ภูมิคุ้มกันที่ดีคือเรื่องการทำงาน
เมื่อถามว่าจะลดแรงกระเพื่อมให้กับบรรดาผู้ที่หวั่นไหวหรือไม่ หลังจากที่บางคนมีชื่อออกมา นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยืนยันเหมือนเดิม ภูมิคุ้มกันที่ดีคือเรื่องของการทำงาน เมื่อถามว่าน่าจะลดแรงหวั่นไหวของรัฐมนตรีบางท่านได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆ เมื่อถามว่า หลังมีข่าวการปรับครม. ออกมาทำให้รัฐมนตรีหลายคนขยันทำงาน นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่สื่อที่จะตั้งข้อสังเกตกัน อย่างที่บอกตนในฐานะผู้นำรัฐบาลเรื่องที่ตนสนใจมากที่สุดคือผลงาน เมื่อถามว่า นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ออกมาบอกว่าอยากให้พรรคเพื่อไทยยึดกระทรวงเกษตรฯไว้ เพราะมีนโยบายหลายอย่างที่ต้องขับเคลื่อน นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเลข 141เสียง กับ 500เสียง ทุกคนก็อยากได้หมด
พท.ปัดข่าวเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ
ด้าน นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสเปลี่ยนประธานสภาฯเป็นคนของพรรคเพื่อไทย หากมีการปรับ ครม.ว่า เอาข่าวมาจากไหน ประธานสภานั้นเลือกโดยสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ส่วนจะเปลี่ยนแปลงต้องสภาเขาเป็นคนตัดสิน ไม่ใช่พรรคการเมือง หรือรัฐบาล และยังไม่มีข่าวอะไรที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เมื่อถามว่า ในฐานะพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีสส.พรรคเพื่อไทยอยากเปลี่ยนตัว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีอะไร เพราะการทำงานที่ผ่านมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาก็ทำหน้าที่อย่างสมเกียรติสมหน้าที่ และไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน ท่านปฏิบัติต่อสมาชิกสภาทุกคนอย่างดี
นายกฯอยากให้สส.ทำหน้าที่เข้มแข็ง
เมื่อถามว่ายืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ยึดตำแหน่งนี้คืนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นเจ้าของตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นจะไปยึดคืนอะไรมันไม่ได้ เพราะอยู่ที่ประชุมสภา เมื่อถามต่อว่า เพื่อไทยมีการคุยกันภายในหรือไม่ ว่าหากอยากให้งานสภาเดินหน้าเรียบร้อยต้องใช้คนของตัวเองเพื่อสอดคล้องกับฝ่ายบริหาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีการพูดกันว่าจะช่วยกันทำให้สภาเรียบร้อยโดยหน้าที่ของสส.ทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่และพร้อมเพรียงเข้าไปร่วมทำงาน แต่เรื่องที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับประธานสภาไม่ใช่หน้าที่ของผู้แทนราษฎรมาคิดเปลี่ยนแปลงอะไรตรงนี้ และเราไม่เคยที่จะไปเปลี่ยนแปลงเพราะท่านทำหน้าที่ของท่านได้ดี เมื่อถามอีกว่า นายกรัฐมนตรี มองว่าการทำงานในสภาเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้มีคนเข้าไปเป็น แต่นายกฯอาจไม่หมายความเช่นนั้น แต่มีคนตีอาจความว่าอยากให้ไปเปลี่ยน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความหมายของนายกฯคืออยากให้สภาเข้มแข็งในส่วนของพรรคเพื่อไทย ฉะนั้นผู้แทนราษฎรทุกคนต้องทำหน้าที่ในสภาอย่างเข้มแข็งและให้มีการจัดองค์กรภายในการทำงานให้สามารถที่จะทำหน้าที่ในสภาในการสะท้อนปัญหาประชาชนได้ และช่วยให้ทำงานด้านนิติบัญญัติเข้มแข็งไม่เกี่ยวกับการไปเปลี่ยนประธานสภา ไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้ เมื่อถามต่อว่า มีชื่อของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนายสุทิน คลังแสง ว่าอาจไปนั่งเก้าอี้ประธานสภา นายภูมิธรรม กล่าวว่า “นี่คุณกำลังจะเปลี่ยนรัฐมนตรีหรือ”
‘วันนอร์’ทำงานเป็นกลาง-ไม่เปลี่ยนตัว
ผู้สื่อข่าวจึงซักว่า หากปรับครม.อาจให้ไปทำงานสภา นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็ไปทำงานสภา สมมติถ้ามี แต่ยังไม่รู้ ยังไม่มีอะไรที่เกิดขึ้น ความหมายของการทำงานสภาที่นายกฯพูดคือ ให้สมาชิกผู้แทนราษฎรเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทำหน้าที่เสนอกฎหมาย ก็แค่นี้ อย่าเลยไป อย่าจินตนาการ การทำหน้าที่ที่เข้มแข็งในสภา ไม่ได้หมายความว่า ต้องไปเป็นประธานสภา หรือรองประธานสภา งานในสภามีตั้งหลายเรื่อง ผมอยากให้ทุกคนสบายในว่า เรื่องนี้ไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทยและไม่มีความคิดอะไรที่จะไปเปลี่ยนแปลงทั้งประธานและรองประธาน เพราะทั้งสองท่านมาจากสส.ทุกคนและท่านก็หน้าที่อย่างเป็นกลาง ยังไม่โน้มเอียงมาทางพรรคการเมืองด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นอยากให้เรื่องนี้ยุติแล้ว”
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า คำว่าสภาเข้มแข็ง คนคิดว่าท่านประธานสภาทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว และอยากให้ทำกฎหมายให้ประชาชนมากขึ้น เอาปัญหาประชาชนมาสะท้อนให้เยอะขึ้น ให้กรรมาธิการคิดและสรุปเรื่องต่างๆให้มากขึ้น อยากให้เรื่องนี้ยุติ อย่าจินตนาการเพราะจะสร้างความบั่นทอน หรือความรู้สึกปั่นป่วนมากเกินไป
‘อนุทิน’ยืนยันแล้วภท.ไม่เปลี่ยนรมต.
นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรียังไม่มีสัญญาณนัดประชุมพรรคร่วมรัฐบาล อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้สอบถามว่าอยากปรับโควตารัฐมนตรีภายในพรรคหรือไม่ ซึ่งยืนยันกลับไปว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังไม่มี เมื่อถามว่า มีข้อกังวลกระแสข่าวดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลและหั่นโควตาพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยออกหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกับนายกฯสำหรับตนไม่ได้ถือว่า ไม่เป็นสาระ การปรับครม.เป็นเรื่องของนายกฯส่วนพรรคภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีรับผิดชอบในส่วนต่างๆเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ทุกประการ เราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เรื่องหั่นโควต้าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย
มุ่งหน้าทำงานเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ
ส่วนในพรรคจะปรับภายในหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่าไม่ปรับ เพราะเป็นหัวหน้าพรรค แต่ในส่วนของพรรคอื่นไม่สามารถยืนยันได้ รัฐมนตรีทุกคนของพรรคทำงานอย่างเต็มที่ และได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ ประชาชนในงานต่างๆที่กำกับดูแลอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าผลงานของรัฐมนตรีในพรรคผ่านทุกคนใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยทำงานเป็นกลุ่ม ใครจะทำอะไรต้องได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มของพวกเราจาก 8คนในรัฐบาล ไม่ใช่ใครจะทำอะไรแล้วค่อยมาบอก แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือการตอบสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีทุกนโยบาย และตอบสนองนโยบายรัฐบาลทุกนโยบายด้วยความรวดเร็ว“เราให้ความร่วมมือทุกอย่าง เพื่อให้ภารกิจของนายกรัฐมนตรีบรรลุเป้าหมาย ถ้าท่านอยู่ได้ ผมก็อยู่ได้ ถ้าท่านอยู่ไม่ได้ ผมก็อยู่ไม่ได้ ถือเป็นไฟลท์บังคับที่ต้องสนับสนุนภารกิจของนายกรัฐมนตรีให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ทุกอย่าง” นายอนุทิน กล่าว
‘พวงเพ็ชร’ขอโอกาสทำงานให้สำเร็จ
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม.ที่มักมีรายชื่อถูกปรับออกจากโผ ครม.เศรษฐา2 ว่า เป็นเพียงกระแส ยังไม่ได้รับแจ้งจากใคร โดยเฉพาะนายกฯ ซึ่งอำนาจทั้งหมดอยู่ที่นายกฯส่วนตัวคิดว่าตนทำงานเยอะมากและตั้งใจทำงานในทุกหน้าที่ที่นายกฯมอบหมาย รวมถึงขณะนี้ก็มีงานที่ติดค้างอยู่จำนวนมาก จึงอยากจะมีโอกาสได้ทำงานให้กับประเทศชาติต่อไป เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรเพราะทำงานเยอะ แต่กลับมีข่าวถูกปรับออกจากครม.ตลอด จะเป็นการบั่นทอนหรือไม่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ไม่หรอก ข่าวก็คือข่าว รอให้นายกฯเป็นคนแจ้ง ซึ่งทางครม.ก็จะแจ้งอีกทีว่าจะปรับหรือไม่ อย่างไร แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการรับแจ้งแต่อย่างใด
ขอโอกาสใช้งบประมาณ67แสดงฝีมือ
นางพวงเพ็ชร กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ทำงานไม่เคยหยุด เมื่อคืนก็ไปจับบุหรี่ไฟฟ้า ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุด ยังคงฟังคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ยังคงต้องทำงานเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันในการโยกย้ายต่างๆ ซึ่งตนยังอยากขอโอกาสในการทำงาน เนื่องจากยังมีหลายงานคั่งค้าง อยากทำงานสำคัญให้สำเร็จลุล่วง เมื่อถามว่าระยะเวลาการทำงาน 7 เดือนสั้นไปหรือไม่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า จริงๆแล้วสิ่งสำคัญคืองบประมาณยังไม่ได้ใช้ ซึ่งโอกาสใกล้เข้ามาที่จะได้ใช้งบประมาณในการแสดงฝีไม้ลายมือต่างๆ เมื่อถามว่า ธรรมเนียมของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับ ครม.ทุก 5-6 เดือนอยู่แล้ว นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ก็แล้วแต่ความเหมาะสม อาจจะมองว่าคนไม่ตรงกับงาน ซึ่งเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เรื่องของนายกรัฐมนตรี ที่จะเห็นว่าใครเหมาะสมที่จะอยู่ตรงไหน
พ้อเสียกำลังใจ-แต่ขอทำงานต่อไป
เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ออกมา ทำให้เสียกำลังใจในการทำงานหรือไม่ นางพวงเพ็ชร ยอมรับว่า มีบ้าง แต่นายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าอย่าหวั่นไหว แต่ก็ยอมรับว่าก็มีหวั่นไหวบ้าง เพราะมีชื่อตลอด แต่ก็ตั้งใจทำงานไปอย่างเดียว เพราะนายกรัฐมนตรีบอกว่าภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการทำงาน เมื่อถามว่า ตลอด7เดือนที่ผ่านมาในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การดำเนินงานเป็นเช่นไรบ้าง นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เนื่องจากเป็นยุคของการเปลี่ยนผ่าน เมื่อเข้ามาใหม่ก็ต้องใช้เวลาในการบริหารงานพอสมควร ทั้งการเปลี่ยนผู้บริหาร การตั้งบอร์ด ก็มีการเปลี่ยนผ่านเยอะ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรในเรื่องการทำระบบต่างๆให้เข้าที่ ตนตั้งใจทำงานและกว่าจะสำเร็จลุล่วงมาถึงวันนี้ได้ก็เหนื่อยพอสมควร แต่ก็จะตั้งใจต่อไป
‘สุทิน’ไม่อยากคิดมาก-มีชื่อพ้นครม.
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความพอใจผลงาน 6-7เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจาก ครม.ว่า ผลงานเป็นที่น่าพอใจแต่ยังไม่ 100% เพราะหลายเรื่องยังไม่ออกมา บางเรื่องยังเป็นเรื่องของการเริ่มต้น ส่วนเรื่องปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้คิดอะไรมาก ส่วนทำไมถึงมีชื่อของนายสุทินในการปรับ ครม.นายสุทิน กล่าวว่า กระทรวงนี้เป็นที่น่าสนใจ เมื่อถามว่าหากมีการปรับ แล้วนายกฯ มาควบกลาโหมเอง ตามมารยาทแล้ว นายกฯ จะต้องพูดคุยกับนายสุทินหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ผมเคยบอกแล้วว่า นายกฯ เป็นกัปตันทีม ท่านจะเปลี่ยนและสลับตำแหน่งผู้เล่น สามารถทำได้ เพราะเป้าหมายคือต้องได้ประตู และต้องชนะ สำหรับผมไม่มีปัญหา และหากท่านมา ท่านต้องทำอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ผมทำก็เป็นนโยบายรัฐบาล ใครมาอยู่ตรงนี้ หากมาจากพรรคเรา ก็ต้องทำต่อ”
หากปรับจริงนายกฯต้องส่งสัญญาณ
เมื่อถามย้ำว่ามีแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะรายชื่อรัฐมนตรีที่หลุด ครม.เป็นสส.อีสาน ถึง 3 คน นายสุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรัฐมนตรีที่มีชื่อออกมาแสดงท่าทีจะทำให้เกิดปัญหา ทุกคนก็ให้เกียรตินายกฯ ให้เกียรติพรรค ถ้าทุกคนออกมาแสดงท่าทีโวยวาย หรือไม่ให้เกียรตินายกฯ และพรรค อันนี้ตนมองว่าน่าห่วง แต่ตอนนี้ทุกคนมีท่าทีให้ความร่วมมือ เมื่อถามว่าไม่ว่านายสุทินจะอยู่ในตำแหน่งใด ยังอยู่พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พรรคให้อยู่ก็อยู่ ถ้าอยู่มันอยู่ 2 ฝ่าย คือ พรรคให้อยู่ และเราอยู่ ถ้าคิดจะย้ายพรรคก็ย้ายแล้ว ถูกไหม มีเหตุการณ์หนักกว่านี้ที่ควรย้ายเยอะชีวิตผม
เมื่อถามต่อว่า นายกฯ ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการปรับนายสุทินออกจากรัฐมนตรีหรือไม่ และถ้าไม่ได้มีการพูดคุยแต่ปรับออก จะรู้สึกเคืองหรือไม่ นายสุทิน บอกว่า“ไม่พูด ไม่พูดคุยกันเรื่องนี้ ทักทายกันปกติ และไม่เคือง เพราะสุทิน เป็นคนแบบนั้น แฟร์ๆ อยู่แล้ว ให้เกียรติกับทุกคน ส่วนตัวมองว่าหากปรับออก ยังไงก็ต้องมีการบอกและส่งสัญญาณกัน จึงเข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลา”
สะเทือนถึงเก้าอี้‘โทรโข่งรัฐบาล’
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในจังหวะที่การปรับ ครม.ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ต้องมีการปรับ ครม.ในวันหนึ่ง และยอมรับว่า มีโอกาสที่จะสลับเก้าอี้จาก รมว.คลัง ไปควบตำแหน่งรมว.กลาโหม แทน ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.67) ว่า ทุกอย่างมันมีโอกาส ขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลามากกว่า ขณะเดียวกัน เริ่มมีความเคลื่อนไหวในการยกเครื่องการทำงานของทีมโฆษกรัฐบาล หลังจากก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ได้ให้นโยบายการทำงานกับนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายคารม พลพรกลาง , น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ และ น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักฯ สามารถเปิดกว้างชี้แจงข้อมูลของแต่ละกระทรวง หรือตอบโต้ในประเด็นที่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้โดยไม่ต้องยึดติดว่าต้องเป็นรัฐมนตรีจากพรรคที่ตัวเองสังกัดเท่านั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น
‘จิรายุ’มีชื่อโผล่เสียบแทน’ชัย วัชรงค์’
ขณะนี้แกนนำรัฐบาลกำลังมองหาผู้ที่มีความเหมาะสมให้เข้ามาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลคนใหม่ แทนนายชัย ซึ่งเดิมมีชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้มีการมองไปที่ตัวของนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แต่ล่าสุด ชื่อ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกฯ และอดีตสส.พรรคเพื่อไทย มีชื่อจะมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลคนใหม่ค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลมองว่า บทบาทต่างๆ ที่ผ่านมา มีความเหมาะสม หลังจาก นายสุทิน มีโอกาสสูงจะถูกปรับพ้น รมว.กลาโหม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี