ล้อมคอก‘สปส.’
‘พิพัฒน์’เร่งมือเติมรายได้
ป้องกันกองทุนถึงจุดเสี่ยง
สกัดก่อนไปถึงจุดล้มละลาย รมว.แรงงาน ยันเริ่มสางปัญหา “กองทุนประกันสังคม” คุย “ญี่ปุ่น” หาแนวทางเพิ่มรายได้ผลกำไร ขีดเส้นต้องมีความน่าเชื่อถือระดับ “Triple B”
เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงการเดินทางไปราชการที่ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 5-13 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.)ได้ไปเข้าพบและศึกษาดูงาน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนของประเทศญี่ปุ่น 3 แห่ง โดยหารือถึงการที่กองทุนประกันสังคม จะหารายได้เพิ่ม จาก 2.5 % เป็น 5 % โดยไปดูรูปแบบการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น โดยในครั้งนี้ได้เข้าหารือกับกลุ่มบริษัท Mitsubishi UFJ Financial Group สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ศึกษาความเป็นไปได้ในการหาลู่ทางการลงทุน โดยทางกองทุนประกันสังคม จะนำเงินบางส่วนไปลงทุน ซึ่งเป็นการหารือและเก็บข้อมูลว่าเมื่อไปลงทุนแล้วจะมีผลตอบแทนอย่างไร ส่วนบริษัทที่สองคือ Sumitomo Mitsui Trust Bank เป็นบริษัทที่ทำเรื่องอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น มีการซื้อตึกหรือสร้างตึกเพื่อขายหรือปล่อยเช่า และบริษัทสุดท้าย Affirma Capital Managers Korea Limited เป็นบริษัท ร้านขายสินค้าปลอดภาษี อันดับ1 ของญี่ปุ่น
รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า ทั้ง 3 บริษัทมีความไม่เหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรให้ได้ตามเป้าหมาย ที่ประกาศเป็นโยบายว่าต้องมีผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 5% หรือปีละ 1,200,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นดอกผลจากเงินกองทุนประกันสังคม ทั้งหมดประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา กองทุนประกันสังคม ทำรายได้เกือบ 6 หมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้นเป้าหมายของปี 2567 จากที่เคยได้ 2.4% ก็จะขยับไปที่ประมาณ 3-4 % ถ้าเป็นไปได้ในปี 2568 เราจะมีดอกผลไม่น้อยกว่า 5% เข้าสู่เป้าหมาย ของการมีดอกผล 1.2 แสนล้าน เมื่อกองทุนมีโอกาสเติบโต เชื่อว่าในปี 2567 อาจจะมีเงินต้น กองทุนประกันสังคม เพิ่มจาก 2.4 เป็น 2.6 ล้านล้านบาท และในปี 2568 ควรจะมี 2.7 ล้านล้านบาท ถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขผลกำไร ไม่น้อยกว่า 5 % กองทุนจะไม่ถึงจุดล้มละลายในปี 2597 และเชื่อว่าถ้าเราเดินถึงตรงนั้นได้ก็จะขยายระยะเวลาไปเรื่อยๆ
“ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี มากำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ผมมีหน้าที่ที่จะคิดว่าทำอย่างไรให้กระทรวงแรงงานเราพัฒนา เป็นกระทรวงเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง และที่สำคัญที่สุด เงินกองทุนประกันสังคม ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33,39 และ 40 จะต้องไม่มีคำว่า ล้มละลาย และไม่ใช่ว่าเก็บเงินวันนี้เพื่อไปชดเชยคนที่เกษียณอายุที่ผ่านมา เราจะไม่รอถึงเวลานั้น เพราะฉะนั้นผมต้องพยายามที่จะไปช้อปปิ้ง ไปดูว่าประเทศไหนมีการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดี และอยู่ภายใต้เงื่อนไขความแข็งแรงของบริษัท ต้องไม่น้อยกว่า Triple B หรือ BBB ซึ่งการลงทุนของเราในระยะเวลา 3 ปีเราควรจะได้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 5% และจากการพูดคุยทั้ง 3 บริษัท มีแนวโน้มว่าเราจะได้ผลตอบแทนมากกว่า 5 %” นายพิพัฒน์ กล่าว
รมว.แรงงาน กล่าวด้วยว่า เมื่อไปรับฟังข้อมูลแล้ว ฝ่ายวิเคราะห์ของกองทุนประกันสังคม จะไปพิจารณาว่าใน 3 บริษัท นี้ หรือที่อื่นใด มีบริษัทไหนควรจะไปลงทุน จากนั้นตนจึงจะไปเป็นพยานในการเจรจาร่วมทุน พวกเราต้องการทำให้กองทุนประกันสังคมเป็นกองทุนที่มีความแข็งแรง และจะทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี