‘กระทรวงต่างประเทศ’เผยสู้รบ‘เมียนมา’สถานการณ์ไม่แน่นอน ประเมินรายชั่วโมง ย้ำ 3 แนวทางปฏิบัติ เผยไทยพร้อมเป็นคนกลางเจรจาหากได้รับการร้องขอ
23 เมษายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา ว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์ซึ่งค่อนข้างยังไม่แน่นอน ต้องประเมินกันเป็นรายชั่วโมง และในช่วงบ่ายของวันนี้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา จะลงพื้นที่ ซึ่งจะเห็นภาพชัดมากขึ้นในหลายเรื่อง ทั้งสถานการณ์สู้รบฝั่งเมียนมา การดูแลความสงบเรียบร้อยของคนไทย และให้ความช่วยเหลือผู้อพยพตามหลักมนุษยธรรม
นายนิกรเดช เปิดเผยอีกว่า ในที่ประชุมวันนี้ได้สรุป 3 หลักการที่จะใช้ บริหารจัดการ การรับมือสู้รบในเมียนมา คือ
1.ยึดมั่นการรักษาอธิปไตยของไทย เป็นเรื่องหลัก ดูแลคนไทยไม่ให้ได้รับผลกระทบ
2.ไม่ให้ใช้ดินแดนของไทยดำเนินกิจกรรม ในการต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติตามปกติอยู่แล้ว
3.ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่เลือกปฏิบัติ ถือเป็นหัวใจในการดำเนินการอยู่แล้ว
นายนิกรเดช กล่าวว่า นอกจากนี้นายปานปรีย์ ยังได้สั่งการให้สภาความมั่นคงแห่งชาติติดตามสถานการณ์ และเป็นหน่วยงานหลัก ส่วนกระทรวงต่างประเทศจะดูแลและพูดคุยในส่วนของต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ ที่ให้ความช่วยเหลือต่าง และการประสานงานกับอาเซียนเพื่อแสดงท่าที ส่วนรายละเอียดหลังจากนี้ให้รอฟังหลัง นายปานปรีย์ลงพื้นที่ เพื่อไปดูว่าแผนที่วางไว้เป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ และพร้อมดูแลหากมีผู้อพยพเข้ามามากขึ้น แต่โดยภาพรวมไม่สามารถควบคุมตัวเลขคนเข้าออกได้ เพราะคนที่อพยพเข้ามาคือคนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยและหนีอันตรายเข้ามา ซึ่งเราก็รับและให้ความช่วยเหลือหมด ส่วนการเดินทางกลับไปถิ่นฐานเดิมนั้นให้ดูที่ความสมัครใจ และต้องแน่ใจว่าเขาปลอดภัย ดังนั้นตัวเลขเข้าออกจึงมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มจะมีการตั้งกองกำลังในประเทศไทยหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ตั้งกองกำลังในฝั่งไทยไม่ได้ และไม่มีแนวโน้ม ซึ่งเป็นจุดยืนที่ตนย้ำในที่ประชุมว่าเราไม่อนุญาตให้ใช้ดินแดนไทย เป็นฐานในการปฏิบัติการ และทางประเทศเมียนมาก็ทราบดี ถึงแนวปฏิบัตินี้
เมื่อถามว่าจะมีการเจรจากับกลุ่มกองกำลังหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า เราพร้อมมาตลอด แต่ไม่สามารถทำเองได้หากไม่ได้รับการร้องขอจากฝั่งเมียนมาว่าอยากให้ไทยเข้าไปมีบทบาท ช่วยเจรจากับทุกฝ่าย ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้ว เพราะปัจจุบันยังไม่มีการร้องขออะไร คาดว่าน่าจะมีการหารือเป็นการภายในกันเองอยู่
“ยอมรับว่าประเทศไทยมีความกังวล เพราะไม่อยากให้เพื่อนบ้านมีการสู้รบกันภายใน พอพูดกันมาตลอดว่าอยากให้เกิดสันติภาพ มีเสถียรภาพความมั่นคงในเมียนมา แต่ถ้ามองบทบาทของไทยในอนาคต หากทุกฝ่ายเห็นว่าไทยพร้อม และต้องการให้เข้าไปมีบทบาท ไปเจรจากับทุกฝ่ายเราก็พร้อม” นายนิกรเดช กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี