จวกขายข้าว10ปีสารปนเปื้อนเยอะ
สมาพันธ์ชาวนาโวย
ทำลายชื่อเสียงข้าวไทย
ทัวร์ลง‘บิ๊กทิน’กระอัก
‘รสนา’เหน็บอำมหิตไป
ซื้อข้าวรมยาให้ทหารกิน
“เลขาธิการสมาพันธ์ชาวนาฯ” จวก “ภูมิธรรม” ประกาศขาย ข้าวรมยาในโกดัง 10 ปี สารปนเปื้อนเยอะ ทำลายชื่อเสียงข้าวไทยและประเทศ “รสนา” อัด “สุทิน” รมว.กลาโหม จะซื้อข้าวเก่า 10 ปีไปเลี้ยงทหาร ไม่อำมหิตไปหน่อยหรือ ด้านโฆษก‘บิ๊กทิน’โดดป้องสุดตัว นักวิชาการยันซ้ำสาร’เมทิลโบรไมด์’ที่ใช้รมข้าวสาร มีความเป็นพิษสูง
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 นายธนัฐ จันทร์มาลา เลขาธิการสมาพันธ์ชาวนาแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง”ทางช่องยูทูบ“แนวหน้าออนไลน์”เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม แสดงความเป็นกรณีที่มีข่าวว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์จะนำข้าวที่เก็บไว้ในสต็อกนานถึง10ปีไปขายในทวีปแอฟริกาว่าเรื่องนี้เป็นการทำร้ายชาวนาและทำร้ายประเทศไทยซ้ำสอง เพราะที่ผ่านมาข้าวไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะข้าวที่อร่อยที่สุด แต่วันนี้กลับมีแนวคิดจะนำข้าว 10ปีที่ชาวนาเขาเรียกกันว่าข้าวเน่าไปขาย
โดยชาวนาจะแบ่งข้าวเป็น 3 ประเภท คือ 1.ข้าวใหม่ หมายถึงข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวจากการทำนาในฤดูกาลปลูกนั้น คือประเมาณเดือน 11-12 ซึ่งเป็นช่วงสิ้นฤดูกาลปลูก ชาวนาก็จะนำข้าวใหม่มากิน โดยข้าวใหม่ จะมีสีขาวสวย รสชาติอร่อยนุ่ม กลิ่นหอม แล้วก็เม็ดเรียงตัวกันสวยมาก 2.ข้าวเก่า หมายถึงข้าวที่เก็บไว้ 1-2 ปี และปกติชาวนาจะกินข้าวเก่าสุดคือเก็บไว้ 1 ปี หากเข้าสู่ปีที่ 2 ก็จะดูว่านำไปขายได้หรือไม่ หากขายได้ก็ขาย แต่หากขายไม่ได้ก็จะนำไปเป็นอาหารสัตว์ที่เลี้ยงไว้ เช่น หมู ไก่ สุนัข และ 3.ข้าวเน่า หมายถึงข้าวที่เก็บไว้เกิน 3 ปี
ส่วนคำถามว่า เหตุใดข้าวเก็บไว้นานถึง 10 ปีแล้วยังเรียงเม็ดอยู่ได้ ตนมองว่าอาจเกิดจากการรมควัน เพราะเมล็กข้าวมีความโป่ง เวลารมควันสิ่งที่เขารมคือก๊าซเมทิลโบรไมด์ จัดเป็นก๊าซอันตรายหากได้รับในปริมาณสูงอาจถึงขั้นเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้ โดยเมื่อใช้ก๊าซรมแล้วก็จะซึมเข้าไปในเมล็ดข้าว ดังนั้นข้าวที่กินก็จะมีก๊าซนี้อยู่ ซึ่งตามขั้นตอนเก็บข้าวตามปกติ จะมีการรมก๊าซ 2 เดือนต่อครั้ง
แฉข้าว10ปีสารปนเปื้อนเยอะ
แต่ที่มีข่าวว่ารมเดือนละครั้ง หากเป็นจริงก็เท่ากับ 1ปี รมก๊าซ 12 ครั้ง และ 10 ปี รมก๊าซถึง 120 ครั้ง ก๊าซจะเข้าไปอยู่ในเมล็ดข้าวมาก-น้อยเพียงใด หากนำไปรับประทาน อย่าว่าแต่กินหมดจาน กินเข้าไป 2-3 ช้อนก็อันตรายแล้ว เพราะเป็นสารเคมี เมทิลโบรไมด์หรือสารรมควัน เป็นก๊าซมีคุณสมบัติในการแทรกซึมกระจายเข้าไปในเมล็ดข้าว อีกทั้งการรมควันทำได้เพียงรักษาคุณภาพเมล็ดข้าว แต่ไม่สามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ โดยข้าวไม่ได้มีแต่คาร์โบไฮเดรต ยังมีวิตามินและเกลือแร่ด้วย ซึ่ง 2 อย่างหลังนี้สูญเสียไปแล้ว
“มันส่งผลแน่นอน เพราะวันนี้ท่านเอาข้าว 10 ปีมาประกาศขาย ทั่วโลกได้ยินหมด ผมถามว่าแล้วมีใครอยากกินของเก่าไหม? ทุกคนกินอาหารมันต้องสดถูกไหม? ข้าวก็ต้องสดใหม่ มันถึงจะให้คุณค่าทางโภชนาการได้ครบถ้วน วันนี้ท่านทำลายชื่อเสียงของประเทศ ทำลายชื่อเสียงของข้าวไทย แล้วถามว่าถ้าชาวนาเอาข้าวไปขายทั่วโลกจะเชื่อถือไหม? ในปีต่อๆ ไป หรือในอนาคตข้างหน้า ท่านเอาข้าวไปขายถามว่าจะได้ราคาเดิมไหม? เพราะเครดิตข้าวไทยมันถูกลดไปแล้ว” นายธนัฐ กล่าว
นายธนัฐ กล่าวต่อไปว่า แล้วคนที่พูดไม่ใช่คนธรรมดาแต่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ถือว่ามีน้ำหนัก อย่างข้าวที่นำมาล้าง ที่ล้างไป 15 น้ำ ในความเป็นจริงชาวบ้านที่หุงข้าวไม่มีใครล้างเกิน 2 น้ำ หรือหากล้าง 3 น้ำก็คือว่าแย่แล้ว อีกทั้งที่ตนเห็นภาพจากคลิปวีดีโอการล้านข้าว ก็มีทั้งมอด มีทั้งคราบสีดำลอยตัวขึ้นมา ซึ่งเข้าที่ดีจะไม่มี อย่างข้าวใหม่จะล้างเพียงน้ำเดียวเพราะต้องการให้คุณค่าทางอาหารอยู่ครบ แต่ข้าวในคลิป ล้าง 15 น้ำแล้วยังมีสีเหลืองปนอยู่เลย
อำมหิตให้ทหารเปิบข้าวเก่า10ปี
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แนวคิดเตรียมระบายข้าวค้างสต๊อก 10 ปี จากโกดังมาประกอบเลี้ยงกำลังพลในกองทัพ ระบุว่า รัฐมนตรีกลาโหม จะรับซื้อข้าวเก่า10ปีไปเลี้ยงทหาร คิดได้ไง? ไม่อำมหิตไปหน่อยหรือ!? ไม่ว่าจะเป็นคนต้องขังหรือพลทหารล้วนแต่เป็นมนุษย์ที่ต้องได้รับอาหารที่มีคุณภาพในการดำรงชีวิต แม้ไม่มีทางเลือก ต้องกินตามของที่ผู้บริหารหน่วยงานนั้นจัดให้ การจะซื้อข้าวเน่า10ปี ตามภาพที่เห็นดิฉันถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง !!
คณะรัฐมนตรี ถ้าเชื่อว่าข้าวปลอดภัย ยังมีคุณค่าอาหารอยู่ และไม่มีสารพิษตกค้างก็สมควรจัดซื้อข้าวนี้ไปเลี้ยงคณะรัฐมนตรีในวันประชุม จะกล้าทำหรือไม่ !? ถ้านายกฯและคณะรัฐมนตรียังไม่กล้าซื้อข้าวไปจัดเลี้ยงคณะรัฐมนตรี ก็ไม่ควรเอาซากข้าวมาให้คนไม่มีทางเลือกกิน ใช่หรือไม่
ไม่สนใจชีวิตคนบ้างหรือ
ข้าว10ปี หมดคุณค่าที่จะเป็นอาหารของคนแล้ว นอกจากไม่มีคุณค่าอาหารแล้ว อาจมีสารเคมีตกค้างหลายชนิด ถ้ามีอัลฟาท็อกซินจากเชื้อรา จะเป็นอันตรายต่อคนกินถึงชีวิตได้ รัฐบาลต้องเปิดให้มีการตรวจสอบโดยองค์กรภายนอกรัฐบาลที่เป็นอิสระ จึงเชื่อได้ว่าในข้าวเน่า10ปี ที่รัฐบาลจะให้ประชาชนกิน มีสารเคมีอะไรบ้างที่มีพิษภัยต่อคนกินหรือไม่
แม้แต่เจ้าของปศุสัตว์ก็เชื่อว่าไม่กล้าซื้อข้าวข้ามทศวรรษให้สัตว์กิน เว้นแต่จะเอาไปแทนยาเบื่อหนู แต่รัฐบาลเพื่อไทยต้องการเอาข้าวเกรดยาเบื่อหนูนี้ให้คนคุก และพลทหารกินใช่หรือไม่ ถึงกับเอาตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กินข้าวโชว์ไม่กี่คำ เพื่อการันตีว่าข้าวเก่าเก็บ 10 ปี ยังปลอดภัยต่อชีวิตและสุขภาพคนกิน
พร้อมระบุทิ้งท้ายว่า ท่านนายกฯ ท่านรัฐมนตรีพาณิชย์ ท่านรัฐมนตรียุติธรรม และท่านรัฐมนตรีกลาโหม พวกท่านคิดแต่จะเปลี่ยนข้าวเน่าเป็นเงิน ถึงกับไม่สนใจชีวิตคนเลยหรือ? ภาษิตไทยสอนว่าอย่า “ข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า” การข่มหัวคนให้กินข้าวเน่า พวกท่านไม่รู้สึกว่าอำมหิตไปหน่อยหรือคะ !?! #ข้าวเน่า10ปี #หยุดเอาข้าวเน่าให้พลทหารคนคุกกิน
คปท.ยำทำลายชื่อเสียงของไทย
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พาสื่อมวลชนและผู้ส่งออกลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ตรวจสอบข้าวสารค้างสต๊อก 10 ปี จากโครงการจำนำในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และกินข้าวโชว์ว่ายังนุ่มนวลพร้อมจะนำออกประมูลขายให้ประเทศแอฟริกา ว่า ระวัง ขายข้าวแล้วขายชาติ ดื้อถึงเบอร์ไหนที่พยายามดันข้าวเน่าไปขายต่างประเทศ ไม่ขายหน้าเขาเหรอ นี่มันกำลังทำลายข้าวดีๆที่เป็นสินค้าสร้างชื่อเสียงของไทยนะครับ มันจะไม่ใช่แค่ขายข้าวแต่มันจะขายชาติเอานะครับ เอ้า สมมุติว่าขายได้ แล้วราคามันจะสูงกว่าต้นทุนที่รับซื้อมาไหม
คำตอบก็คือ ต่อให้ขายข้าวค้างโกดัง 10 ปีได้ ราคามันก็ต่ำกว่าที่ซื้อมา นั่นคือขาดทุนอยู่ดี มันก็จะซ้ำรอยอดีตที่รัฐขาดทุน แล้วใครจะรับผิดชอบการขาดทุนครับ เดอะอ้วนแบกรับไหวไหม ขาดทุนซ้ำซาก เพียงเพื่อฟอกขาวการคอร์รัปชันในอดีต เพื่อนายหญิง เอาชื่อเสียงประเทศเป็นตัวประกันเลยเหรอครับ ภูมิธรรม เวชยชัย
“จิรายุ”แจงข่าวทัวร์ลง”สุทิน”
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์กรณีการจะรับซื้อข้าวหากมีคุณภาพเพียงพอ หรือต่อเมื่อองค์กรต่างๆให้การรับรองถึงจะซื้อนั้น ตนถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าข้าวดีมีคุณภาพจะเททิ้งเพื่อ? หรือจะให้เอกชนนิสัยเสียในยุคก่อนมาซื้อราคาถูก บอกจะเอาไปทำอาหารสัตว์แต่เอาไปขายให้คนกินแพงเพื่อ?
“เวลาผมเด็กๆ คุณแม่บอกว่าข้าวใหม่ ไม่อร่อย คุณแม่ยังชอบซื้อข้าวเก่ามาหุงทานแม่บอกว่าหุงขึ้นหม้อหอมมาก รสชาติดีมีโปรตีนแต่เคสนี้ก็ชัดนะครับว่าไม่ใช่ ใช้คำว่าข้าวเก่าอย่างเดียว เก่าแล้วต้องรับรองด้วยว่า ทานไปแล้วดี มีคุณภาพไม่ต้องพึ่ง โรโมติ้ว”
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า รัฐมนตรี ก็พูดชัดเจนว่าถ้าข้าวผ่านมาตรฐาน องค์กรต่างๆ ให้การรับรองว่ามีคุณภาพที่ดีบริโภคได้ถึงจะจัดซื้อเข้ามา ถามจริงฝ่ายค้าน คนขับรถทัวร์ อ่านไม่จบหรือตั้งใจ เอามาหลอกด่าฟรี วันนี้ต้องพูดคุยกันด้วยข้อมูล เช่น 1.ถ้าข้าวเน่าถึงขนาดคนหรือสัตว์กินไม่ได้ก็ควรเผาทิ้งเลย 2.ถ้าข้าวดีมีหน่วยงานรับประกันจะเอาไปทิ้งทำไม 3.ถ้ารับรองว่ากินได้มีคุณภาพต่อร่างกาย สามารถขายได้ก็ควรขายให้กับเอกชนหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อ จะได้นำเงินกลับเข้าไปคงคลังนำไปพัฒนาพัฒนาประเทศ ต่อไปมั้ย 4.รถทัวร์บางทีก็เลือกจอดบ้าง อ่านให้ครบ จบให้เคลียร์ ประเทศจะได้ก้าวไปได้เร็ว ติดหล่มมา 10 กว่าปียังไม่เพลียอีกเหรอ
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า “สรุปฟังนะ รมต.กลาโหมบอก ว่าหากข้าวดีมีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ก็พร้อมที่จะรับซื้อไว้แต่ถ้าไม่ได้คุณภาพก็ไม่สามารถรับซื้อได้ เข้าใจตรงกันนะครับนาย” จิรายุ กล่าว
ป้องบิ๊กทินอัดฝ่ายตรงข้ามบิดเบือน
นายจำนงค์ ไชยมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และที่ปรึกษาคณะทำงานด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์ฯ เปิดเผยว่า นาย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม บ่นกับตนว่า เรื่องดราม่าข้าว 10 ปีฝ่ายตรงข้ามเอาไปดราม่าบิดเบือนกันทั่วว่ากองทัพจะซื้อข้าว 10 ปีให้ทหารกิน
“การที่ผมพูดก็ชัดว่าหากจะซื้อต้องดูคุณภาพก่อน ต้องมีกระบวนการตรวจสอบ ต้องถามเหล่าทัพ ซึ่งมุมการพูดต้องคำนึงถึงนโยบายของรัฐบาลด้วยว่าประสงค์จะแก้ปัญหาระบายข้าวที่เก็บในสต็อกให้หมดสิ้นไป โดยการประมูลหรือส่งออกไปต่างประเทศที่เขาต้องการ เพื่อนำเงินเข้ารัฐ การที่ผมพูดนั้นก็เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ประมูล หรือผู้ที่จะซื้อ ถ้าผมพูดว่ากองทัพไม่ซื้อแล้วใครจะเชื่อมั่น ข้าวก็ขายได้ราคาต่ำ รัฐก็เสียหาย ผมจึงพูดว่ายินดีสนับรัฐบาลทุกอย่าง แต่ต้องได้คุณภาพ ที่ผ่านการตรวจสอบ ซึ่งผมทราบอยู่แล้วว่าท่านภูมิธรรมเน้นการส่งออกไปยังประเทศที่เขาต้องการ ไม่ใช่ขายให้บริโภคภายในประเทศ ท่านภูมิธรรมจึงยืนยันว่าข้าว10 ปีก็กินได้”
“ผมเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ต้องดูแลทหาร ต้องบริการประชาชน สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ทุกวันนี้ข้าวและอาหารของทหารเกณฑ์หรือทหารกองประจำการ ผมย้ำเรื่องปริมาณและคุณภาพ ผมส่งสายไปสืบลับๆ เพราะนโยบายผมคือทหารกองประจำการต้องอยู่ดีกินดี มีกำลังใจ มีศักดิ์ศรี มีรายได้ที่สมควร เรารับภาระแทนพ่อแม่เขาซึ่งเขาห่วงลูกหลานเขา อยู่ต้องมีความสุข พ้นหน้าที่แล้วให้มีงานทำ แล้วผมจะหาข้าวไม่มีคุณภาพมาให้ทหารกินได้อย่างไร ข้าวทหารต้องมีคุณภาพ ทหารต้องมีขวัญกำลังใจ ส่วนข้าว 10 ปีนั้นยังไงเขาก็ประมูลขาย ไม่ได้มาขายให้กองทัพ” นายจำนงค์ ระบุถึงคำพูด นายสุทิน
แฉข้าวรมยามีพิษสูงมาก
นายศักดา ศรีนิเวศน์ นักวิชาการอิสระด้านการเกษตร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ มาทำความรู้จักกับสารเมทิลโบรไมด์ ที่ใช้รมข้าวสารกันหน่อย ระบุว่า โบรโมมีเทน (Bromomethane) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อเมทิลโบรไมด์ (methyl bromide)เป็นสารประกอบออร์กาโนโบรมีน(organobromine) ที่มีสูตรCH₃Br ก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่ติดไฟนี้ผลิตขึ้นทั้งทางอุตสาหกรรมและทางชีวภาพ เป็นสารเคมีที่ได้รับการยอมรับว่าทำลายชั้นโอโซน : วิกิพีเดีย
เมทิลโบรไมด์มีลักษณะเฉพาะอย่างไร? เมทิลโบรไมด์ เป็นก๊าซที่ไม่มีกลิ่นและไม่มีสี เป็นของเหลวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 3.5 องศาเซลเซียส มันหนักกว่าอากาศถึงสามเท่า เมทิลโบรไมด์จะสลายตัวค่อนข้างเร็วโดยมีครึ่งชีวิตประมาณเจ็ดเดือน (ครึ่งชีวิตเจ็ดเดือนหมายความว่าครึ่งหนึ่งของปริมาตรของสารเคมีจะสลายตัวไปครึ่งหนึ่งของปริมาณเริ่มต้นที่ใช้ในช่วงเวลานั้น เช่นสมมุติว่าเราใช้สาร 200 มิลลิกรัม ภายในเจ็ดเดือนสารจะลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 100 มิลลิกรัม และอีกเจ็ดเดือนจะลดลงเหลือ 50 มิลลิกรัม ไม่แน่ใจว่าการรมควันเดือนละครั้งถึง 10 ปี จะมีสารเมทิลโบรไมด์ตกค้างในข้าวสักเท่าใด เพราะยังไม่เคยมีงานศึกษาการรมควันแบบมหากาพย์เช่นนี้มาก่อน/ผู้เขียน) เมทิลโบรไมด์อาจรวมตัวกันในบริเวณที่มีการระบายอากาศไม่ดีและอยู่ต่ำ
ทำลายประสาทของมนุษย์
เมทิลโบรไมด์มีความเป็นพิษสูง (#เมื่อสูดดมเข้าไป) การศึกษาในมนุษย์ระบุว่าปอดอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูดดมเมทิลโบรไมด์แบบเฉียบพลัน (ระยะสั้น) การสูดดมเมทิลโบรไมด์แบบเฉียบพลันและเรื้อรัง (ระยะยาว) อาจส่งผลเสียต่อระบบประสาทในมนุษย์ มีรายงานผลกระทบทางระบบประสาทในสัตว์ด้วย การหายใจเมทิลโบรไมด์อาจทำให้ปอดระคายเคือง ทำให้เกิดอาการไอและ/หรือหายใจลำบาก การได้รับสารในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในปอด (ปอดบวม) ซึ่งเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ และมีอาการหายใจลำบากอย่างรุนแรง เมทิลโบรไมด์อาจทำลายไตและส่งผลต่อตับ
มีการผลิตและใช้เมทิลโบรไมด์มากน้อยเพียงใดในโลก จากข้อมูลปี2558 การผลิตเมทิลโบรไมด์ทั้งหมดสำหรับการใช้งานกักกันและสุขอนามัยพืช (QPS) อยู่ที่ 8,450ตัน โดย47ประเทศใช้ 6,546 ตันในปี2558เมทิลโบรไมด์ผลิตใน 5ประเทศเพื่อใช้ในระดับสากลในฐานะรมยา
เมทิลโบรไมด์สลายตัวในสิ่งแวดล้อม โดยแสงแดด ปฏิกิริยาเคมีในอากาศ น้ำ และโดยจุลินทรีย์ เมทิลโบรไมด์มีครึ่งชีวิตประมาณ7เดือน เมทิลโบรไมด์จะไม่ปนเปื้อนกับน้ำใต้ดิน การปนเปื้อนของน้ำใต้ดินไม่น่าจะเกิดจากการรมควันภายใต้ผ้าใบกันน้ำ เนื่องจากเมทิลโบรไมด์จะเข้าสู่อากาศได้ง่ายที่สุดเมื่อระบายออกหลังจากการรมควัน
นอกจากนี้ ยังมีสารเคมีอีกตัวหนึ่งที่นิยมใช้ในการรมควันข้าว คือฟอสฟิน (phosphine) เป็นสารประกอบไม่มีสี ติดไฟได้ และมีพิษสูง มีสูตรทางเคมี PH₃ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทไนโตรเจนไฮไดรด์ ฟอสฟีนบริสุทธิ์ไม่มีกลิ่น ใช้ในการรมควันข้าวเพื่อควบคุมศัตรูพืชในทุกช่วงชีวิตและป้องกันการต้านทานแมลง ความเข้มข้นของก๊าซฟอสฟีนจำเป็นต้องสูงถึง 300 ส่วนในล้านส่วน (ppm) เป็นเวลาเจ็ดวัน (เมื่อเมล็ดพืชมีอุณหภูมิสูงกว่า 25°)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี