เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ประชุมภาคประชาชนเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวภาคใต้ โดยองค์กรภาคประชาชนต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันโครงการคลองไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย

ทั้งนี้ พล.อ.ธวัชชัย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้แม้จะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนครบวาระการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดการขับเคลื่อน หรือหยุดการสนับสนุนโครงการคลองไทยอยู่เพียงเท่านี้ ยังพร้อมสนับสนุนการผลักดันให้กับหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ประการสำคัญประเทศไทยนั้นถือได้ว่าเป็นทำเลหรือชัยภูมิเป็นศูนย์กลางของโลกที่ได้เปรียบกว่าอีกหลายประเทศ มี 2 ฝั่งทะเลระยะทางกว่า 2,500 กิโลเมตร ที่น่าจะนำมาพัฒนาด้านพาณิชยนาวี และสมุทธานุภาพให้เกิดประโยชน์ต่อลูกหลานได้อีกมากมาย อีกทั้งมีทุนใหญ่จากหลายประเทศสนใจเข้ามาร่วมขับเคลื่อนโครงการโดยประเทศไทยไม่ต้องกู้เงินใดๆ มาดำเนินการ ซึ่งหลายฝ่ายเป็นห่วงในหลายเรื่อง แต่ใช่ว่าทุกเรื่องจะไม่มีทางออกหรือแนวทางวิธีดำเนินการได้

ซึ่งในมุมมองส่วนตัวของตนยังเห็นว่าแนวคลองไทยจัดว่าเป็นเส้นทางคมนาคมที่ดีมากๆ การขนส่งสินค้าไม่ต้องยกขนตู้ขึ้น-ลงคราวละมากๆ สามารถนำเรือไปตามคลองได้ทันทีจะช่วยประหยัดรายจ่าย ประหยัดเวลา ได้อย่างมากมาย

สิ่งสำคัญคลองไทยไม่ได้เป็นแค่คลองให้เรือเดินไป-มาเท่านั้นยังมีการพัฒนาให้เกิดเป็นเมืองใหม่ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจตลอดแนวสองฝั่งคลองได้อีกมากมาย เป็นศูนย์กลางด้านคมนาคม บก เรือ ราง อากาศได้อีกด้วย อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ยังได้ประโยชน์ มีแหล่งทำกิน มีที่อยู่อาศัยด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นชั่วลูกชั่วหลาน

สำหรับกระบวนการขั้นตอนการขับเคลื่อนโครงการคลองไทยได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วจึงน่าจะขับเคลื่อนได้เร็วขึ้นกว่านี้เพียงชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นรัฐบาลก็สั่งขับเคลื่อนได้ทันที ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ควบคู่ไปกับโครงการแลนด์บริดจ์หรือไม่เท่านั้น

“ครั้งนี้ผมอยากทำประโยชน์ทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลานไทย แต่คงต้องพยายามร่วมมือกับหลายฝ่ายโดยเฉพาะพี่น้องชาวใต้เร่งผลักดันโครงการคลองไทยให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้คนไทยทั่วประเทศได้อานิสงส์อย่างทั่วถึงกัน จึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายเดินหน้าโครงการให้สำเร็จเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยเร็วต่อไป”

ในขณะที่ดร.สุเมต สุวรรณพรหม รองประธานมูลนิธิร่วมพัฒนาภาคใต้ ได้เปิดเผยว่า โครงการสร้างคลองไทย เชื่อมสองฝั่งมหาสมุทรเข้าด้วยกันให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้เป็นโครงการ ที่พี่น้องประชาชนเรียกร้อง ให้รัฐบาลเร่งศึกษาเชิงลึก มานานแล้ว ตนยืนยันว่า โครงการคลองไทยประชาชนในภาคใต้เสียงส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน ในขณะที่มีเสียงวิจารณ์ว่าหากขุดคลองไทยแล้วเป็นการแบ่งแยกประเทศ และมีปัญหาความมั่นคง

ดร.สุเมต ยืนยันว่า คำพูดดังกล่าว เป็นการก่อกระแสต่อต้านมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจหากเกิดคลองไทย แต่คนปักษ์ใต้มีความเข้าใจและไม่กังวลกับประเด็นดังกล่าว

อีกทั้งหากเกิดคลองไทยขึ้นจะสร้างความมั่นคงทุกด้านให้เกิดขึ้นในภาคใต้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ปัญหาการว่างงาน ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกๆ ปี ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ตนยืนยันว่า หากเศรษฐกิจของภาคใต้ดีชาวใต้มีงานทำ ปัญหายาเสพติด ปัญหาการแบ่งแยกดินแดนจะหมดไปเหมือนเช่นในอดีต ที่ขับเคลื่อนการพัฒนาภาคใต้ ดับไฟใต้ด้วยนโยบาย “ใต้ร่มเย็น”