บุกทำเนียบฯจี้สอบสาเหตุ‘บุ้ง’ตาย
‘รุ้ง-มายด์’มาแล้ว!
ทวงสิทธิประกันตัวนักโทษ112
พท.ยอมรับออกตัวนิรโทษไม่ได้
หวั่นสังคมมองโยงเอี่ยว‘แม้ว-ปู’
ทนายเตรียมแถลงผลชันสูตร
พี่สาว - เพื่อนนักกิจกรรม รับร่าง“บุ้ง-เนติพร” ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสุทธาโภชน์ ด้านทนาย เตรียมเผยผลชันสูตรเบื้องต้นหลังเคลื่อนร่างถึงวัด ขณะที่แกนนำทะลุฟ้ายื่น 4 ข้อเสนอให้รัฐบาลสอบสาเหตุการตาย”บุ้ง ทะลุวัง”- จี้คืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง ขีดเส้นต้องได้คำตอบอังคารหน้า ด้านตัวแทนรัฐบาลแสดงความเสียใจ ยันร่างกม.นิรโทษกรรมไม่ได้ล่าช้า แต่พรรคเพื่อไทยออกตัวแรงไม่ได้ หวั่นคนมองเอี่ยว “แม้ว-ปู” ลั่นอยากให้เสร็จในปีนี้ ก่อนเปิดสภาฯ ด้าน‘เทพไท’ซัดการตายของบุ้ง สะท้อนกระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐานของแท้ ผอ.คุกหญิงเผย“ตะวัน”อาการดีขึ้น แต่ให้พักฟื้นฟูสภาพจิตใจที่รพ.ธรรมศาสตร์ฯต่อจนกว่าร่างกายจิตใจมั่งคงขึ้น
จากกรณีที่ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมืองเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แพทย์ต้องปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เวลา 11.22 น.
รับศพบุ้งไปทำพิธีทางศาสนา
เมื่อเวลา 09:00 น. วันที่ 16 พฤษภาคม ที่สำนักงานนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ น.ส.ชญาภัส เสน่ห์สังคม หรือโบ พี่สาวของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมเพื่อนๆนักกิจกรรม เดินทางมารับร่างของน.ส.เนติพร ภายหลังชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสุทธาโภชน์ เขตลาดกระบัง กรุงเทพ โดยครอบครัว ได้นิมนต์พระสงฆ์ 1รูปมาประกอบพิธี ก่อนนำโลงที่บรรจุดร่างของน.ส.เนติพร ขึ้นรถตู้ไปประกอบพิธีทางศาสนา สำหรับผลชันสูตรพลิกศพน.ส.เนติพรนั้น ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่านายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จะแถลงข่าวหลังนำร่าง น.ส.เนติพรถึงที่วัดสุทธาโภชน์
ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊กทะลุวัง – ThaluWang โพสต์แจ้งกำหนดการสวดพระอภิธรรม และพิธีฌาปนกิจ “นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม” ณ ศาลา 8 วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง ตั้งแต่วันที่ 16-18 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.00 น. สวดพระอภิธรรม วันที่ 19 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.00 น. ฌาปนกิจศพ ขอความกรุณา และขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดถ่ายภาพครอบครัว และอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้
แกนนำทะลุฟ้าจี้รบ.คืนสิทธิประกันตัว
เวลา 10.00 น. นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษาหรือไผ่ ดาวดิน แกนนำทะลุฟ้า พร้อมน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ”รุ้ง ปนัสยา” แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ”มายด์”นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางยื่นมาหนังสือถึงรัฐบาล ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล 1111 เพื่อเรียกร้องให้มีนโยบายคืนสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังคดีทางการเมือง หลังน.ส.เนติพร หรือบุ้ง กลุ่มทะลุวัง เสียชีวิตระหว่างคุมขัง โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ ในการยื่นหนังสือครั้งนี้ กลุ่มทะลุฟ้าได้นำโปสเตอร์ นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ เกี่ยวกับสิทธิประกันตัว ของผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง โดยให้ใช้รัฐสภาเป็นกลไกคืนความเป็นธรรมให้เหยื่อคดีทางการเมือง รวมถึงมีการเปิดภาพบันทึกเทปโทรทัศน์ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดถึงนโยบายการปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมือง
ยื่น4ข้อเสนอเร่งสอบเหตุบุ้งตาย
น.ส. ปนัสยากล่าวว่า รู้สึกกังวลว่าโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ จะไม่เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุจะเก็บภาพในกล้องวงจรปิดไว้เพียง 3 วันเท่านั้น พร้อมตั้งคำถามถึงขั้นตอนกู้ชีพน.ส.เนติพร และยังว่ารู้สึกเสียใจที่การสูญเสียของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้นในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
ทั้งนี้ ก่อนแกนนำทะลุฟ้าจะยื่นหนังสือ ตัวแทนอ่านแถลงการณ์ โดยยื่น 4 ข้อเสนอคือ 1.เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการเสียชีวิตของน.ส.เนติพรให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจนโดยเร็ว 2. ให้ผู้ต้องขังที่คดียังไม่ถึงที่สุด ได้รับสิทธิ์ในการประกันตัว 3.ชะลอการดำเนินคดีการจับคุมขังบุคคลในคดีการเมืองจนกว่าจะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงสั่งไม่ฟ้อง ไม่ยื่นคำร้องไม่ยื่นอุทธรณ์ ไม่ฎีกา ถอนคำร้องถอนอุทธรณ์และถอนฎีกาในคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ 4.เร่งออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนทุกฝ่าย ทุกข้อหา ที่มีมูลเหตุจากคดีทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นแล้ว หวังว่าจะไม่มีบุคคลใดต้องเสียชีวิต และทุกคนจะได้รับสิทธิประกันตัวและสิทธิแสดงออกทางการเมือง โดยทางกลุ่มจะมาติดตามข้อเรียกร้องอีกครั้งวันที่ 21 พฤษภาคม
ปูดมีหนึ่งพรรคค้านดึงคดี112ได้นิรโทษฯ
ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ตัวแทนรัฐบาล ออกมารับหนังสือกล่าวว่า เสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาล ไม่ได้ก้าวล่วงฝ่ายตุลาการ ส่วนรายละเอียดทุกคนทราบอยู่ว่ากรณีที่ถูกถอนประกันเพราะอะไร สิ่งเหล่านี้ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็คุยกันว่าไม่สบายใจ นอกจากนี้ ที่มีการตั้งคำถามว่าการศึกษา พ.ร.บ. นิรโทษกรรมถูกขยายออกไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะเสร็จในฐานะที่ตนเป็นโฆษกกรรมการชุดนี้ บ่ายวันนี้ก็จะประชุม และยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้า แต่อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภาฯ
ส่วนที่มีการระบุว่าการนิรโทษกรรมไม่รวมผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 และมาตรา 110 นั้น นายสมคิดระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด มีกรรมาธิการส่วนหนึ่ง เป็นความคิดของบุคคล ไม่บอกว่าพรรคใดคัดค้าน ที่จะเอาฐานคดีในมาตรา 112 มาด้วย แต่ยังไม่มีการคุยในรายละเอียด ในแนวทางตนเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย
ออกตัวม.112แรงไม่ได้หวั่นมองเอื้อแม้ว
“เหตุผลที่พรรคเพื่อไทยไม่พูดถึงพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเลย หลายพรรคก็มาด่า เพราะพรรคเพื่อไทยมีบาดแผลจากพ.ร.บ.นิรโทษกรรม มันเจ็บปวดมาแล้ว ถ้าบอกว่าเห็นด้วยกับมาตรา 112 ฝ่ายที่ไม่ชอบก็จะบอกว่า เห็นไหมทำเพื่อนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราพูดไม่ได้ เพราะจุดนี้ แต่เสียงว่าอย่างไร เราเอาด้วย เราไม่คัดค้าน เอาเสียงส่วนมากว่าอย่างไร เราก็เอาด้วย วันนี้พรรคเพื่อไทยเสนอให้ศึกษาพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อให้ทุกฝ่ายตกผลึกให้เร็วขึ้น ถ้าหากปล่อยแต่ละฝ่ายไป ก็จะไม่จบ วันนี้เราเชิญทุกฝ่ายมา แต่จะจบแน่นอนก่อนสภาฯเปิด”นายสมคิดกล่าว
ยันเดินหน้าอยากให้เสร็จปีนี้
และว่า ส่วนรายละเอียดที่เรียกร้องมา ตนตกลงกับแกนนำแล้วว่า วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม ให้มาทวงถามรายละเอียดได้ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ยืนยันว่าเกินกว่าที่ตนจะบอกว่าเสียใจ ตนพูดไม่ออก มันจุกอก เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้สบายใจ และจะเดินเรื่องนี้ต่อ ตนพึ่งวางโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ว่า หากรับเรื่องแล้วให้แจ้งว่าจะเอาอย่างไรต่อ ซึ่งพรบ. นิรโทษกรรม ตนอยากให้เสร็จภายในปีนี้ด้วยความตั้งใจจริง ไม่ได้ต่อเวลาเพราะอะไร และขณะนี้อาจารย์ยุทธพร อิสระชัย กำลังเคลียร์คดี ฐานความผิด ฉะนั้นเราจะเอาไปทั้งหมด ส่วนรายละเอียดเรื่อง 112 ยังไม่ได้คุย ต้องเอาคดีฐานใหญ่ๆออกไปก่อนผิดพ.ร.บ.ชุมนุม จะต้องได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด จึงอยากเรียนทุกคนที่มาว่าผู้แทนรัฐบาล เราตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า มีผู้ถูกดำเนินคดี ทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563-30 เมษายน 2567 มีผู้ถูกดำเนินคดี จากการแสดงความคิดเห็นในคดีทางการเมือง 1,954 คน จาก 1,295 คดี โดยมีคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก. ฉุกเฉินมากที่สุด 1,466 คน และอันดับที่ 2 เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 มีผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 272 คน
“เทพไท”ชี้เคสบุ้งเลือกปฎิบัติของแท้
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ทักษิณ-บุ้ง เนติพร คือการเลือกปฏิบัติของแท้”ระบุว่า หลังการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างกว้างขวาง และการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หลายสถานที่ รวมถึงการแสดงความอาลัยต่อการจากไปของน.ส.เนติพร จากคนไทยและองค์กรต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมไทย ควรตระหนักและนำไปพิจารณาทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไทยต่อไป สำหรับตนนั้น เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ตรงกับกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รับทราบและสัมผัสการปฏิบัติจากกระบวนการยุติธรรมไทยโดยตรง และจะขอนำกรณีของบุ้ง เนติพร มาเปรียบเทียบกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร ดังต่อไปนี้
1.ทั้งนายทักษิณ และ บุ้ง เนติพร เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายก้าวหน้าหรือเสรีประชาธิปไตยเหมือนกัน 2.นายทักษิณ เป็นนักโทษเด็ดขาด แต่น.ส.เนติพร เป็นผู้ต้องหาถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีของศาล 3.เมื่อนายทักษิณ มีอาการป่วย รีบนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจทันที ไม่ต้องเข้ารักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์เลย 4.แต่กรณีของน.ส.เนติพร มีอาการป่วยจากการอดอาหาร ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ก่อน เมื่อมีอาการป่วยหนัก ก็นำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯไม่ได้นำส่งโรงพยาบาลตำรวจ อย่างเร่งด่วนเหมือนกรณีนายทักษิณ
5.นายทักษิณ เป็นนักโทษเด็ดขาด มีโทษจำคุกรวมจากเดิม 10 ปี ได้รับการอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว 6.กรณีของน.ส.เนติพร ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาจำคุก แต่อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี แต่ไม่ได้รับการประกันตัว ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ระหว่างต่อสู้คดี 7.ตอนนี้นายทักษิณ ถูกดำเนินคดีข้อหาความผิดตามมาตรา 112 แต่ได้รับการประกันตัวในชั้นอัยการ 8.น.ส.เนติพร ถูกดำเนินคดีความผิดประมวลมาตราอาญา มาตรา 112 เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้รับการประกันตัว 9. เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในยุครัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ถ้าเกิดในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ก็จะถูกนำไปขยายผลทางการเมืองแน่นอน
“ประการสุดท้าย รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางแก้ปัญหา ต่อผู้ทำผิดมาตรา 112 เหมือนตอนที่เป็นฝ่ายค้าน ผมมีจุดยืนชัดเจนว่า คนไทยทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติตามหลักนิติรัฐนิติธรรมของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่อยากให้ใครต้องมาเสียชีวิต เพราะกระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐาน”นายเทพไทกล่าว
“ตะวัน”อาการดีขึ้นแต่ต้องฟื้นฟูจิตใจ
ขณะที่นางอาจารี ศรีสุนาครัว ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง เผยถึงอาการนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ที่มีภาวะเครียดกระทบกระเทือนทางจิตใจ จากการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร หรือบุ้ง เพื่อนสนิท และส่งรักษาที่รพ.ธรรมศาสตร์ฯว่า สำหรับอาการทั่วไปดี พูดคุยได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ รับประทานอาหารได้มากขึ้น แต่ยังมีอาการอ่อนเพลีย ต้องรอผลตรวจเลือด และอยู่ในกระบวนการรักษาของแพทย์
และต้องฟื้นฟูจิตใจให้กลับมามั่นคงก่อน จึงยังให้พักรักษาที่รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ไปก่อน สำหรับผลชันสูตรพลิกศพ ของบุ้ง ที่ผ่าพิสูจน์ไปเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมนั้น แพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์ จะเป็นผู้เปิดเผย ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจะร่วมแถลงด้วย โดยเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เข้าเยี่ยมอาการน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และดูสถานที่การควบคุมของแฟรงค์ ผู้ต้องขัง คดีเดียวกันอีกคนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี