เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงถึงกรณีการรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า จากการการรับสมัคร สว.ที่จบลงไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องตามต่ออีก คือ เรื่องที่ 1.จากกรณีวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเมื่อมีการเปิดรับสมัคร สว.แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็มีการออกระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว.ซึ่งในระเบียบนั้นระบุว่า ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวเองได้ตามแบบฟอร์มที่ กกต.กำหนดเท่านั้น ไม่สามารถแนะนำตัวแบบอื่นได้ และห้ามไม่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวกับบุคคลทั่วไป แต่ให้ผู้สมัครแนะนำตัวกับผู้สมัครด้วยกันเองเท่านั้น อีกทั้งยังห้ามให้ผู้สมัครแนะนำตัวผ่านสื่อต่างๆ ด้วย และมื่อออกระเบียบมาแบบนี้แล้ว ทำให้มีผู้สมัคร 2 กลุ่มที่เห็นว่า ระเบียบของ กกต.ตอนนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้สมัคร จึงมีการยื่นร้องต่อศาลปกครองว่า ให้ช่วยวินิจฉัยระเบียบ กกต.จากนั้นศาลปกครองจึงมีคำสั่งออกมาว่า ขอให้ กกต.เพิกถอนระเบียบข้อ 7, 8, 11 (2), 11 (3) และให้มีผลย้อนไปตั้งแต่วันที่ประกาศใช้
แต่หากดูตามไทม์ไลน์แล้ว กกต.ยังมีอำนาจในการอุทธรณ์ 30 วัน ซึ่งจะหมดลงในวันที่ 23 มิ.ย.ทำให้ระเบียบนี้จะมีอำนาจบังคับใช้ในการเลือก สว.ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ในวันที่ 9 มิ.ย.และ 16 มิ.ย.เหลือแค่ 3 วันก่อนจะถึงระดับประเทศในวันที่ 26 มิ.ย.หมายความว่า แม้ศาลปกครองจะมีคำสั่งออกมาแล้ว แต่คำสั่งนี้ก็ยังบังคับใช้ไม่ได้จริงๆ หาก กกต.มีการอุทธรณ์ ทำให้การเลือกระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ผู้สมัครจะยังไม่สามารถเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ตัวเองกับสาธารณะ หรือพูดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำในฐานะ สว.รวมถึงแนวคิด และอุดมการณ์ต่างๆ ได้ ตนจึงขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้มีความชัดเจนต่อคำสั่งศาลปกครอง ดังนี้ 1.ขอเรียกร้องให้ กกต.ออกระเบียบใหม่โดยทันที และระเบียบใหม่นั้นต้องสอดคล้องกับคำสั่งศาลปกครอง
2.ขอเรียกร้องให้ กกต.ประกาศเจตนารมย์ว่า จะไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองนี้ ซึ่งเหตุผลที่ตนเรียกร้องอย่างนี้ ประกอบด้วย 3 เหตุผลคือ 1.หาก กกต.ทำตามข้อเรียกร้องนี้ ผู้สมัครจะสามารถแนะนำ หรือนำเสนอตัวเองได้ในเนื้อหาที่กว้างขึ้น 2.ผู้สมัครจะแนะนำและประชาสัมพันธ์ตัวเองได้ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะทำให้ช่องทางในการสื่อสารกว้างขึ้น ง่ายขึ้น ทำให้ผู้สมัครมีอำนาจ มีข้อมูลในการตัดสินใจที่มากขึ้น และทำให้การตัดสินใจเลือกผู้สมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 3.ประชาชนจะได้ช่วยตรวจสอบ เนื่องจากตามระเบียบของ กกต.เดิม ประชาชนและสื่อมวลชน ไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว.ครั้งนี้เลย ทั้งๆ ที่ สว.เป็นสถาบัน เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาการเมืองไทย
"ถ้าปลดล็อคคำสั่งนี้แล้ว และ กกต.ไม่ยื่นอุทธรณ์ ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลที่มากขึ้น ง่ายขึ้นรวมถึงสื่อมวลชนด้วย สังคมจะได้ประโยชน์ และร่วมกันตรวจสอบ ร่วมกันติดตามกระบวนการเลือก สว.ครั้งนี้ เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน อันจะส่งผลให้สุขภาพของประชาธิปไตยดีขึ้น" นายธนาธร กล่าว
เรื่องที่ 2 การเชิญชวนผู้สมัคร วันนี้ กกต.ได้ทำเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า "สมาร์ทโหวต" เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีข้อมูลของผู้สมัคร ทุกอาชีพ ทุกอำเภอทั่วประเทศ จึงอยากจะเชิญชวนผู้สมัครทุกคน เข้าไปตรวจสอบและศึกษาข้อมูลของผู้สมัครในอำเภอตัวเอง ศึกษาข้อมูลของทั้งกลุ่มที่ตัวเองลงสมัครและกลุ่มอื่น เพื่อทำการบ้านล่วงหน้า เพราะการลงคะแนนค่อนข้างสำคัญมาก ต่อการคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง สว.
เรื่องที่ 3.เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชน เนื่องจากตามระเบียบของ กกต.ฉบับนี้ กีดกันประชาชนจำนวนมากออกจากการเลือก สว.ในครั้งนี้ คนที่มีทุนทรัพย์ 2,500 บาท เป็นค่าสมัครที่แพงเกินไป คนที่มีอายุไม่ถึง 40 ปี ก็ไม่มีคุณสมบัติ ในการลงสมัคร ทำให้ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการเลือก สว.นี้ได้เลย แต่อย่างน้อยที่สุด วันนี้ กกต.ก็เปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือก สว.ในแต่ละระดับได้ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.นี้ ใกล้อำเภอไหน ไปอำเภอนั้น ลองไปที่สำนักงานเขตของท่านดู ไปติดตามการเลือก สว.ของท่านดูว่า กระบวนการเลือก สว.ทำอย่างไร เพราะการไปนั่งติดตามสังเกตการณ์ จะทำให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือแทรกแซงระบวนการการเลือก สว.เป็นไปได้ยากขึ้น เช่น การไปซื้อเสียง การจ้างหน้างาน หากมีคนตรวจสอบ ก็จะทำได้ยากขึ้น และจะทำให้ผู้ที่คิดจะทำ กังวลใจมากขึ้น
"เหตุผลที่เรารณรงค์ สว.ประชาชนตั้งแต่ครั้งแรก เราต้องการให้มี สว.คุณภาพ สว.ที่มีอุดมการณ์ สว.ทึ่เข้าไปดำรงตำแหน่งแล้วไม่ขายเสียงตัวเองในการโหวตครั้งสำคัญๆ เพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยพัฒนาต่อไปได้" นายธนาธร กล่าว และว่า ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติของการเลือก สว.สามารถแจ้งวีวอทช์ (We Watch) ได้ที่สายด่วน 02-1143189
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี