คปท.ยื่นหนังสือจี้อสส. เร่งสั่งคดี"นช.ทักษิณ"หมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 โดยยึดกฎหมายเป็นหลัก
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายพิชิต ไชยมงคล , นายนัสเซอร์ ยีหมะ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) , ดร.ใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกองทัพธรรม และนายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (คปปส.) เดินทางมายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อขอให้ดำเนินการโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก โดยมี นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ และนายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับหนังสือร้องเรียน
นายพิชิต กล่าวว่า การที่อัยการสูงสุด ได้เลื่อนการมีคำสั่งคดี นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากวันที่ 3 เมษายน 2527 มาเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม โดยระบุว่า พนักงานสอบสวนส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งยังไม่ครบถ้วนนั้น การใช้สิทธิ์ในการขอความเป็นธรรมและการใช้สิทธิ์โนการชี้แจงข้อกล่าวหานั้น เป็นสิทธิ์ทางกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้ แต่ที่ผ่านมาพวกเราเห็นว่า การใช้สิทธิ์ทางกฎหมายของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเพียงข้ออ้างในการถ่วงเวลาเพื่อขยายเวลาคดีออกไปให้ได้นานที่สุดเท่านั้นเอง ทั้งที่ นายทักษิณ ชินวัตร สามารถที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาตามกฎหมายได้ก่อนหน้านี้อยู่แล้วการดำเนินการทางคดีเพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียวกับบุคคลอื่นที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นความผิดที่กระทบต่อความรู้สึกของประชนชาวไทย จึงมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ควรทำให้เกิดข้อครหาว่า อัยการสูงสุต ได้ช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาเป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้อัยการสูงสุดเคยมีมติสั่งฟ้องไปแล้วนั้น การขยายเวลาให้สอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็ได้ดำเนินการมาแล้ว ข้อเท็จจริงทางคดีจึงน่าจะได้ข้อสรุปมีคำสั่งทางคดีได้ทันที
ที่ผ่านมาสำนักงานอัยการสูงสุดได้ออกมาชี้แจงการดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ต้องหาว่าจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัต โดยคำนึงถึงสิทธิ์ของผู้ต้องหาดามกฎหมายนั้น เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม เห็นว่า การที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อต่อสู้คคีนั้น เราขอเรียนต่ออัยการสูงสุดประกอบการพิจารณาว่า กรณีผู้ต้องหาได้กระทำความผิดและมีการร้องทุกข์กล่าวโทษโดยกองทัพบกเพื่อไห้พนักงานอัยการเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายนั้น การแจ้งข้อกล่าวหานั้นพนักงานอัยการใด้รับเรื่องและมีการดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบ แต่ผู้ต้องหากลับหลบหนีอยู่ต่างประเทศไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเอง การร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหานั้น เป็นการยื่นร้องขอความเป็นธรรมที่มาจากผู้ต้องหาหลบหนีและไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมไทยตั้งแต่ต้น การยื่นร้องขอความเป็นธรรมในวันแจ้งข้อกล่าวหาต่อหน้าอัยการนั้นเป็นเพราะว่า ผู้ต้องหาไม่สามารถหลบหนีได้อีกเนื่องจาก ตกเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด ดังนั้นการยื่นหนังสือร้องขอความป็นธรรมดังกล่าวจำเป็นที่พนักงานอัยการต้องพิจารณาพฤติการณ์ผู้ต้องหาที่มีการหลบหนี มาประกอบความเห็นในการพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมด้วย
เราเห็นว่า บัดนี้ การหาข้อเท็จจริงทางคตีและการรวบรวมพยานหลักฐานนำจะเสร็จสิ้นและหาข้อยุติได้แล้วเนื่องจากว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้ยื่นขอความเป็นธรรมและอัยการสูงสุดได้ให้โอกาสในการชี้แจงข้อกลาวหาไปแล้วนั้น เมื่อพิจารณาจากข้อกล่าวหาและระยเวลาที่ผ่านมา เห็นได้ว่าข้อเท็จจริงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างอื่น เพื่อให้กิดการพิจารณามีคำสั่งของอัยการสูงสุดที่เป็นมาตรฐานเดียวกับบุคคลอื่นที่โตนกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เราเห็นว่าอัยการสูงสุด ต้องรีบมีคำสั่งทางคดีตามหลักฐานที่กองทัพบกได้เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายทักษิณ ชินวัตร โดยเร็วที่สุด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี