ราชทัณฑ์พร้อม
ให้ภาพวงจรปิดวัน‘บุ้ง’ตาย
ส่งรายงานถึงกมธ.ก.ม.30พ.ค.
ประธาน กมธ.กฎหมาย เผย“รพ.ราชทัณฑ์” พร้อมเปิดภาพกล้องวงจรไขปริศนาการเสียชีวิตของ “บุ้ง” แต่แม่ต้องมอบอำนาจทนายความไปขอให้ถูกต้องตามกม. พร้อมมอบรายงานขั้นตอนการเสียชีวิตแบบละเอียด 30 พค. ด้าน”รมว.ทวี”เผยยังไม่ได้รับการประสานจากพ่อแม่”บุ้ง” เข้าดูกล้องวงจรปิดนาทีเสียชีวิต-กู้ชีพ ในวันใด ย้ำชัดยธ.เองก็อยากรู้จนท.ราช ทัณฑ์ทำผิดมาตรฐานหรือไม่ ชี้ไม่มีคำยืนยันจากแพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์หลังประชุม กมธ.ฯ กรณีการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคมหรือบุ้ง นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ส่งผู้ตรวจกรมราชทัณฑ์มาชี้แจง รวมทั้งมีนายแพทย์จากโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ทัณฑสถานหญิงกลาง ตัวแทนจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ มาชี้แจง นอกจากนี้ ยังมีน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ร่วมรับฟังด้วย
ราชทัณฑ์ยอมเปิดกล้องให้ญาติบุ้งดู
นายกมลศักดิ์กล่าวต่อว่า กมธ.ซักถามถึงประเด็นข้อสงสัยที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับญาติของบุ้ง ต้องการกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ แต่โรงพยาบาลฯระบุว่า รมว.ยุติธรรมอนุญาต แต่เมื่อดูระเบียบแล้วไม่สามารถให้ได้ เนื่องจากมีการมอบอำนาจไม่ถูกต้อง ดังนั้น กมธ.จึงหาทางออกให้ญาติของบุ้งคือ ในเรื่องพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์อ้างว่าต้องทำให้ถูกต้องคือ ต้องให้แม่ของบุ้ง เป็นผู้มอบอำนาจให้ทนายความไปขอกล้องวงจรปิด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ยืนยันในที่ประชุม กมธ.ว่าถ้ามีการมอบอำนาจที่ถูกต้อง กรมราชทัณฑ์ก็พร้อมให้ภาพจากกล้องวงจรปิดกับญาติได้ดู เพื่อคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการรักษาบุ้ง
นายกมลศักดิ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุมตั้งคำถามถึงกระบวนการรักษาบุ้งเต็มที่หรือไม่ และทำไมต้องนำตัวบุ้งที่ไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ก็ได้รับคำชี้แจงจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าบุ้งเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีตั้งแต่เวลา 06.00 น. และสัญญาณชีพไม่มีตั้งแต่ 06.27 น. โรงพยาบาลช่วยเหลือพยายามปั๊มหัวใจและเหตุที่ต้องนำตัวบุ้งไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯเพราะมีการประสานงาน โทรศัพท์ไปหาพี่สาวของบุ้ง และพี่สาวของบุ้งแจ้งว่าต้องการนำตัวบุ้งไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ในเวลา 08.50 น. นี่คือเหตุผลที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ต้องส่งตัวบุ้งไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
พร้อมส่งรายงานรักษาจนถึงก่อนตาย
“พูดง่ายๆคือสัญญาณชีพของบุ้งไม่มีตั้งแต่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว ไม่ใช่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โดยขั้นตอนต่างๆจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์มายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ทางกมธ.ให้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ชี้แจงให้ละเอียดที่สุดตั้งแต่เบอร์โทรศัพท์ที่อ้างว่าใช้โทรหาพี่สาวบุ้ง เพราะในที่ประชุมตั้งคำถามว่าใช้เบอร์ของโรงพยาบาลติดต่อเข้าไปที่โทรศัพท์มือถือของพี่สาวบุ้ง ที่ให้ไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ทางกมธ.ให้เวลา 1 สัปดาห์ในการส่งรายละเอียดเพิ่มเติม แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แจ้งว่าวันที่ 30 พฤษภาคม สามารถส่งรายละเอียดให้กมธ.ได้ และทนายของบุ้งสามารถขอดูรายละเอียดเหล่านี้ได้”นายกมลศักดิ์กล่าว
และว่า เราจะติดตามดูทั้งเรื่องกล้อง กับรายละเอียดจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์มาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ถ้ามีปัญหาอีกกมธ.อาจเชิญมาชี้แจงอีกครั้ง และเรื่อรายงานหากทนายของบุ้งยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ กมธ.ก็พร้อมเป็นคนกลาง เรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม เหตุเสียชีวิตของบุ้ง ตนคิดว่าอยู่ที่กล้องวงจรปิด ถ้าได้กล้องและรายงานมา คิดว่าการเสียชีวิตของบุ้งคลี่คลายได้
ทวีก็อยากรู้จนท.ทำผิดมาตรฐานหรือไม่
ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมกล่าวถึงกรณีนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนขอไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์วันที่ 14 พฤษภาคม โดยเฉพาะห้วงเวลาก่อนที่น.ส.เนติพรหรือบุ้งจะหมดสติและเสียชีวิตว่า จริงๆเราให้ญาติไปดูตั้งแต่วันแรก และวันนี้ทราบว่ากรมราชทัณฑ์ไปชี้แจงต่อกมธ.ทั้งสองฝ่าย ส่วนประเด็นที่พ่อแม่ของบุ้งติดต่อมาดูภาพจากกล้องวงจรปิดหรือยัง ตนไม่ทราบ แต่สั่งให้กรมราชทัณฑ์ว่าเราต้องเปิดเผยเป็นหลัก แค่ต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายและการป้องกันไม่ให้กระทบผู้อื่นเกิดความเสียหาย และเรายินดี เพราะ เรื่องมาตรฐานการแพทย์ เราก็อยากรู้ว่าคนของกรมราชทัณฑ์ทำผิดมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่เราพบอยู่ขณะนี้ ยังไม่ได้รับถ้อยคำจากแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีแต่คนอื่นนำไปพูดเท่านั้น
‘ราชทัณฑ์’แจงปล่อย“ตะวัน-แฟรงค์’แล้ว
วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณีนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ “แฟรงค์” ได้ประกันตัว และถูกปล่อยตัวเป็นการชั่วคราวว่า ได้รับรายงานจากทัณฑสถานหญิงกลางว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ศาลาอาญา อนุญาตให้ประกันตัวนางสาวทานตะวัน และมีคำสั่งเบิกตัวไปติดกำไลEM ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2567โดยทัณฑสถานหญิงกลาง ได้นำตัวนางสาวทานตะวัน ไปติดกำไล EM ที่ศาลอาญา และนำกลับมาปล่อยตัว จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวังมาอายัดตัวนางสาวทานตะวัน กรณีสนับสนุนการพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว และต่อมาได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน สำหรับกรณีของนายณัฐนนท์หรือแฟงค์ ศาลอาญาออกหมายปล่อยตัวชั่วคราว โดยวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.40 น. ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบเอกสาร และปล่อยตัวไปแล้วเช่นกัน
คุก“ไบรท์ ชินวัตร”3ปีผิด112คดีที่6
ขณะที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยถึงกรณีวันนี้ (29 พฤษภาคม) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษา นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ นักกิจกรรมใน จ.นนทบุรี ซึ่งขณะนี้ยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ข้อหามาตรา 112 สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด หลังอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีปราศรัยในม็อบ #2ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว และ #25พฤศจิกาไปSCB เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 โดยวันนี้ศาลลงโทษจำคุก 3 ปี ให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา และให้นับโทษต่อจากคดีอื่น
ศูนย์ทนายฯระบุเพิ่มเติมว่า นายชินวัตรถูกกล่าวหาคดีตามมาตรา 112 รวม 8 คดี โดยมี 6 คดีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาออกมา โดยนายชินวัตรเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพทั้งหมด มี 1 คดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาให้รอลงอาญา แต่อีก 5 คดี ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาทั้งหมด และให้นับโทษจำคุกต่อกัน รวมแล้วนายชินวัตรถูกลงโทษจำคุกไปแล้ว 11 ปี 12 เดือน ประมาณ 12 ปี ในแต่ละคดียังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา
ส่วนคดีมาตรา 112 อีก 2 คดีของนายชินวัตรที่ยังไม่มีคำพิพากษา มีคดีปราศรัยในกิจกรรมยืนหยุดขังที่ท่าน้ำนนทบุรี นายชินวัตรให้การรับสารภาพเช่นกัน อยู่ระหว่างรอฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ในวันที่ 10 กรกฎาคม ขณะที่คดีร่วมกิจกรรมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้อีกคดีหนึ่ง มีนัดสืบพยานที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันที่ 4 มิถุนายน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี