ทบ.-ทอ.ส่งเครื่องบินรบ-รถถัง-ปืนใหญ่ ระดับกองพัน โชว์ซ้อมรบเสมือนจริง ป้องกันชายแดน "สุทิน"พอใจให้ 10 เต็ม
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 กองทัพอากาศ (ทอ) ร่วมดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ในการปฏิบัติการร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) โดยมี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธาน ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี กองทัพภาคที่ 3 จ.สุโขทัย
โดยเกิดขึ้นจากการเห็นชอบร่วมกันของผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารอากาศ ในการที่จะบูรณาการฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ โดยใช้การฝึกตามวงรอบประจำปีของหน่วยระดับกองพันของกองพลทหารม้าที่ 1 และการทดสอบการใช้กำลังของกองทัพอากาศ โดยไม่ได้ใช้งบประมาณการฝึกเพิ่มเติมจากเดิม
การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการดำเนินกลยุทธ์ของกำลังภาคพื้น ร่วมกับการปฏิบัติการของกำลังทางอากาศ มีการดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน พ.ย.2566 เริ่มจากการประชุมหารือและตรวจภูมิประเทศ การแสวงข้อตกลงใจทางทหารร่วมกัน การฝึกแลกเปลี่ยนและการฝึกภาคสนาม ตามลำดับ
สำหรับกำลังทางบก ประกอบด้วย รถถังเบา 32 (Stingray) จำนวน 30 คัน, รถสายพาน M113 จำนวน 16 คัน, ปืนใหญ่ 105 มม.จำนวน 6 กระบอก, เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 120 มม.จำนวน 6 กระบอก และกำลังพล จำนวน 600 คน
กำลังทางอากาศ ประกอบด้วย อากาศยานไร้นักบิน DA-42 จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องบิน F-16 จำนวน 4 เครื่อง, เครื่องบิน T-50 จำนวน 3 เครื่อง, เฮลิคอปเตอร์ แบบ EC-725 จำนวน 2 เครื่อง, ชุดผู้ควบคุมอากาศยานหน้า และชุดควบคุมการรบ จำนวน 20 คน
นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง สร้างความตระหนักรู้ในสถานการณ์ร่วมกัน โดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้สนับสนุนระบบเชื่อมต่อข้อมูลการสนับสนุนทางอากาศ หรือ RPASS (RTARF Portable Air Support System) แสดงข้อมูลเป้าหมายและคำร้องขอของกองกำลังภาคพื้นบนแผนที่ดิจิตัลร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์ที่ใช้ในการฝึกคือประเทศแดงสั่งกวาดล้างชนกลุ่มน้อยและกลุ่มต่อต้านในพื้นที่ด้านตรงข้ามของประเทศนำ้เงินและไล่ติดตามรุกล้ำเข้ามาภายในประเทศน้ำเงิน กองกำลังนเรศวรได้ปฎิบัติตามแผนเผชิญเหตุใช้กองร้อยเตรียมพร้อมของทางกองกำลังผลักดันกำลังของประเทศแดง แต่ไม่สามารถผลักดันได้เนื่องจากข้าศึกมีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้น ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จึงได้สั่งการให้กองพันที่ 1 จัดกองกำลังทหารม้าเฉพาะกิจปฎิบัติตามแผนประเชิญเหตุและเคลื่อนย้ายกำลังตามแผนประเชิญเหตุ โดยกองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ
จากนั้น นายสุทิน ให้สัมภาษณ์หลังชมการฝึก ว่า เป็นการฝึกสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงมากที่สุด ซึ่งตนพอใจกับการฝึกในครั้งนี้ และมองว่าเหล่าทัพมีศักยภาพอยู่แล้ว วันนี้ยังไม่พบข้อผิดพลาด เพราะมีประสิทธิภาพสูง เป็นที่น่าพอใจ ส่วนที่มีความกังวลด้านการสื่อสารระหว่างภาคพื้นกับกำลังทางอากาศนั้น ยังไม่พบข้อผิดพลาด แต่ยอมรับว่าในอดีตเป็นจุดอ่อน และได้นำมาปรับและแก้ไขข้อผิดพลาด
ส่วนการพัฒนาเทคโนโลยีในการรบ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เป็นสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจกับสังคม แต่เชื่อว่าสังคมก็เรียนรู้ และหลายประเทศก็พัฒนากองทัพและเห็นว่ามีเหตุสงครามเกิดขึ้น ก็ต้องพิจารณาว่าประเทศเราจะทำอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องอธิบาย ซึ่งวันนี้กองทัพก็อธิบายให้สังคมเข้าใจ ดังนั้น เรื่องการจัดหายุทโธปกรณ์คงได้รับความเห็นชอบจากประชาชนมากขึ้น
"การฝึกในวันนี้ผมก็อยากให้เต็มสิบ แต่ต้องผลการประเมินหลังการฝึก แต่ที่เห็นในวันนี้ประสงความสำเร็จสูง แต่การพูดเช่นนี้ก็ไม่ใช่เป็นการเอาใจกองทัพ ผมชื่นชมจริงๆ" นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ในการชมฝึกกำลังทางอากาศในวันนี้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการจัดหาเครื่องบินรบของกองทัพหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า หากดูจากในวันนี้ก็ยังสามารถทำงานได้ แต่ถ้าใช้งานมากกว่านี้และสถานการณ์เข้มข้นกว่านี้ ต่อให้เก่งขนาดไหน การประเมินของนักบิน ก็จะมีเรื่องอายุการใช้งาน รวมถึงยุทโธปกรณ์ประเภทอื่น เช่น รถถัง บางรุ่นที่มีอายุใช้งานมานานตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการออัปเกรดปรับปรุง ก็ยังใช้งานกันอยู่
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะจัดหาใหม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ได้เป็นการซื้อเพิ่ม แต่เป็นการซื้อทดแทนของเก่าที่หมดอายุ โดยดูเหตุผลและความจำเป็น
ในส่วนของ ทอ.ที่เครื่องบินจะทยอยปลดประจำการ จนเลยไปถึงปี 2570 จึงมีความจำเป็นต้องซื้อ และพิจารณาซื้อทดแทน ซึ่งเรื่องนี้สังคมมีคำตอบ ตนมองว่า เราต้องทำให้กองทัพแข็งแกร่ง ไม่มีเหตุอย่างอื่น ที่จะทำมห้กองทัพอ่อนแอ มีเหตุผลที่ต้องซื้อ เมื่อคนอื่นแข็งแกร่งเราก็ต้องพัฒนาตัวเอง ซึ่งจะต้องดูคู่แข็งด้วย จะทำในสิ่งที่เราพอใจอย่างเดียวไม่ได้
สำหรับการประเมินท่าทีของฝ่ายค้าน หรือก้าวไกล ในการจัดหายุทโธปกรณ์นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ตนมองว่า ลึกๆ เขาเข้าใจ แต่ในทางการเมืองก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ก็ไม่เป็นไร แต่ภาพรวมก็เห็นประโยชน์ของประเทศ ซึ่งเขาก็ต้องจำนนด้วยข้อเท็จจริง แล้วตนเชื่อว่าเขาจะโหวตให้ เช่นครั้งที่แล้วเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องมายา ที่เขาอยากให้กองทัพเรือได้เดี๋ยวฟริเกต แสดงว่าเขาเห็นข้อเท็จจริงจึงสนับสนุน
ส่วนเหตุการณ์ที่ กมธ.งบประมาณฯ ปี 2567 ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายคว่ำงบโครงการจัดหาเรือฟริเกต นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของการวางไทม์มิ่งงบประมาณ แต่สุดท้ายก็ให้เพื่อจัดลำดับงบประมาณมาให้โป่งพอง ไม่ใช่ให้ปีเดียวหลายโครงการ เมื่อถามย้ำถึงโครงการจัดหาเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ ในปีงบประมาณ 2568 จะอนุมัติหรือไม่ นายสุทิน กล่าวยืนยันว่า "ให้"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี