‘จตุพร-หมอวรงค์’ฟันธงคดีแม้ว
ทำรัฐบาลอายุสั้น
ชี้‘วิษณุ’ก็ช่วย‘เศรษฐา’ไม่ได้
พท.แค้นถูก‘โรม’ประจาน
โดดป้องนายกฯทำงานหนัก
พปชร.ปัด‘บิกป้อม’ส้มหล่น
“จตุพร-หมอวรงค์” ฟันธงประเด็น “แม้ว” โดนคดี ม.112 จบไม่สวย ทำรัฐบาลเศรษฐา อายุสั้น เย้ยแม้มี “วิษณุ” มาเสริมทัพด้านกฎหมายก็ช่วยเทวดาไม่ได้ ด้านเพื่อไทยยังแค้น สส.โรม ก้าวไกล เรียงหน้าโต้แหลก “รทสช.” พร้อมทำงานสภา หลังเปิดสมัยประชุม ถกวาระด่วนแก้กฎหมายประชามติ-ถกงบ’68 เดินหน้า ต่อยอด DNA อุดมการณ์“ลุงตู่” ทำเพื่อชาติ-สถาบันฯ-ประชาชน
เมื่อวันที่ 1มิถุนายน 2567นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯไม่รอดจากถูกถอดถอนให้พ้นจากนายกฯตามข้อกล่าวหาของ 40สว. เพราะมีเจตนาทำผิดพลาด ในการกราบบังคมทูลโปรดเกล้าแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี
นายจตุพรยังกล่าวถึงพฤติกรรมที่ส่อเจตนาผิดพลาดว่า สำนักเลขาธิการนายกฯเจตนาตั้งคำถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ครบถ้วน ทั้งมาตรา 160 ของรธน.2560ซึ่งว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลมาเป็นรัฐมนตรี จนทำให้นายกฯ อ้างเป็นเหตุนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลแต่งตั้ง เจตนาจงใจจึงเป็นปัญหาหนักที่สุด เพราะรัฐบาลชุดก่อนๆ เคยมีหนังสือเวียนถึงการนำรายชื่อรัฐมนตรีขึ้นกราบบังคมทูล ต้องตรวจให้ละเอียดไม่ให้มีความผิดพลาดแต่กรณีการตั้งนายพิชิต เป็นรัฐมนตรี แสดงถึงเจตนาที่ต้องการทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น นับตั้งแต่การตั้งคำถามสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ไม่ครบถ้วน และเป็นการถามเพียงมาตรา 160 (6) และ (7) เท่านั้น
‘จตุพร’ถอดรหัสรัฐบาลอายุสั้น
“เจตนาตั้งคำถามที่ผิดพลาด ย่อมทำให้ผู้รับสนองพระบรมราชโองการต้องรับผิดชอบ ดังนั้น นายเศรษฐา จึงอยู่ในสถานการณ์เปราะบาง แม้ให้นายวิษณุ เครืองาม มาช่วยให้รอดพ้นจากข้อกล่าวหาของ 40 สว. แต่สุขภาพที่อ่อนแรงคงทำงานยาวได้ยาก”
นายจตุพรยังได้ถอดรหัสว่า เมื่อนายวิษณุ เครืองาม มีปัญหาหนัก ต้องล้างไตวันละ 10 ชั่วโมง ร่างกายทรุดโทรมแทบไร้เรี่ยวแรง ดังนั้น การหอบสังขารมาทำงานด้านกฎหมาย เป็นที่ปรึกษาของนายกฯจึงสะท้อนเวลาทำงานที่สั้น เพราะอาจคาดว่า รัฐบาลอยู่ไม่ได้นาน
ดิ้นหนีคุก-ต่อรองได้ประกัน
ส่วนสถานการณ์ นักโทษทักษิณ ชินวัตร กับการหักดีล นายจตุพร กล่าวว่า เริ่มเปลี่ยนเป็นรายวัน โดยคณะดีลอีกฝ่ายพยายามข่มขู่หนักขึ้น ถึงขั้นไม่สนใจว่า นายเศรษฐาจะอยู่หรือไป ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อน 18 มิ.ย.นี้ ตามการต่อรอง และแลกเปลี่ยนให้ได้ประกันตัวในคดี ม.112 ที่มีมาก่อนหน้านี้
“ขณะนี้มีเสียงข่มขู่ จะเอาทักษิณ ติดคุกอย่างเดียวให้ได้ สิ่งนี้เป็นการตอบโต้ที่มาหักดีลจนเกิดความเสียหาย ดังนั้น อารมณ์สถานการณ์มาจากการเบี้ยวดีลตลอดที่กลับบ้าน(เมื่อ22ส.ค.66)ทำให้คณะดีลเสียหน้าและบ้านเมืองฉิบหายด้วย”นายจตุพร ระบุ และว่าหากคณะดีลสองฝ่าย เล่นละครตบหน้าประชาชนแล้ว ประชาชนย่อมรู้เท่าทันและคงสำแดงพลังต่อรองกับผู้มีอำนาจที่ตกลงดีลกัน โดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์สิ่งใดจากดีลที่เล่นตบตากันและถ้าหลอกประชาชนหนักขึ้น จะเป็นจุดเปลี่ยนของบ้านเมืองได้ อย่างไรก็ตาม เส้นทางเวลาก่อนถึง 18 มิ.ย. จึงจับตากันอย่างใกล้ชิด
ไม่ยอมให้นิรโทษกรรมม.112
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า #ความผิดตามมาตรา112ความผิดตามมาตรา112 ไม่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร และประเด็นการเมือง ตามที่คนของพรรคเพื่อไทย พยายามสร้างความเข้าใจผิด หลังจากอสส.สั่งฟ้องนายทักษิณว่ามีความผิดตามม.112เพราะมาตรา112 เป็นกฏหมายที่ให้ความคุ้มครอง สถาบันพระมหากษัตริย์ ในเรื่องการดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย
ที่สำคัญ สถาบันฯท่านเป็นกลางทางการเมือง และท่านอยู่เหนือการเมือง การที่พวกคุณ พยายามที่จะดึงว่า ความผิดตามมาตรา112 เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร และมีผลพวงจากการเมือง เท่ากับว่าพวกคุณพยายามดึงสถาบันฯ ให้มาเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร และเกี่ยวข้องกับการเมือง พวกคุณนั่นแหละ สมควรที่จะโดนความผิดตามมาตรา112ด้วย
ขอเตือนว่า การนิรโทษกรรมนั้นทำได้ แต่ไม่ควรให้มายุ่งกับเรื่องใหญ่ ที่เป็นความละเอียดอ่อนทางสังคม นั่นคือการนิรโทษกรรมคดีทุจริต การฆ่าคนตาย และความผิดตามมาตรา112
ถ้าพวกคุณคิดว่ามีอำนาจ คิดที่จะนิรโทษกรรมตามอำเภอใจ โดยเฉพาะนิรโทษกรรมให้กับความผิดมาตรา112 ถ้าวันหนึ่งประชาชน เขาไม่ยิมยอมพวกคุณ ขอเตือนไว้เลยนะครับว่าช่วยไม่ได้จริงๆ
พีระพันธ์กำชับรทสช.ลุยงานสภา
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างสร้างชาติ ได้กำชับ สมาชิกและสส. ของพรรคให้ลงพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนและทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นช่วงปิดสมัยประชุมก็ตาม สานต่ออุดมการณ์พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้สมาชิกรวมทั้งสร้างชาติทุกคน ทำงานเพื่อชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์และเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำแล้ว ก็ยังคง เดินหน้า ทำต่อไป
รับเปิดประชุมสมัยวิสามัญ18มิ.ย.
นายธนกรกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ล่าสุด มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สส. รวมไทยสร้างชาติพร้อมที่จะร่วมประชุมอย่างเต็มที่เพื่อมีการพิจารณากฎหมายสำคัญโดยเฉพาะ วันที่ 18 มิ.ย. 67 มีการพิจารณาเนื้อหาการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่) พ.ศ… ของรัฐบาล โดยจะมีการแก้เนื้อหา เช่นวันที่ให้ประชาชนเดินทางไปออกเสียงประชามติ,การเพิ่มช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการออกเสียง เป็นต้น
ส่วนวันที่ 19-21 มิ.ย.67 จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เพื่อการพิจารณาวางกรอบงบประมาณการใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานภาครัฐต่างๆจะส่งผลให้การดูแลพี่น้องประชาชนได้ดีมากยิ่งขึ้น
ต่อยอดDNAอุดมการณ์‘ลุงตู่’
“รวมไทยสร้างชาติทุกคนเรา มี DNA จิตวิญญาณอุดมการณ์การทำงานการเมือง จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่แรกเริ่ม แม้เวลาผ่านไปและพล.อ.ประยุทธ์จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว วันนี้เรายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เช่นเดิมคือการทำเพื่อชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์และเพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง ตามแนวนโยบายของลุงตู่เสมอมา ไม่ว่าจะทำงานในสภาหรือการทำงานพื้นที่ลงพบปะรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาจากประชาชน สิ่งที่ทำแล้ว ยังคงทำอยู่ และมุ่งมั่นทำต่อไป” นายธนกร กล่าว
พท.อัด‘โรม’บุกทำเนียบฯเย้ยนายกฯ
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง จากพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลระบุว่าที่นายกรัฐมนตรีตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคเพื่อไทยขาดมือกฎหมายที่เข้าใจการบริหารราชการแผ่นดิน ว่า จริงๆแล้ว นายรังสิมันต์ โรม เป็นส.ส.อยู่แล้ว ถ้านายกฯทำอะไรไม่ถูกต้องก็มีสิทธิ์ตั้งกระทู้ถามในสภาได้ หรือถ้าไม่ไว้วางใจก็สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อยู่แล้ว แต่การที่จะมาไล่ยื่นที่ทำเนียบ เพื่อให้เป็นข่าว เอาแอคชั่นตัวเองนั้น เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เหมือนว่ามาบุกทำเนียบ แล้วทวงถาม คุณเป็นฝ่ายค้าน มีสิทธิ์ถามเต็มที่อยู่แล้ว และรัฐบาลก็พร้อมจะตอบคำถามในสภา อยากให้ต่างคนต่างทำหน้าที่ สังคมการเมืองจะได้น่าอยู่
ยันรบ.-เพื่อไทยไม่ไร้มือกฎหมาย.
รองเลขาธิการนายกฯกล่าวว่า ส่วนที่นายกรัฐมนตรีจะตั้งนายวิษณุ หรือตั้งใครก็เป็นอำนาจนายกฯ เพราะคงจะมองว่าใครที่ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เราก็ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ใครจะอยู่ฝ่ายไหนไม่สำคัญ สำคัญว่าเข้ามาช่วยประเทศชาติก็ดีทั้งนั้น อย่าไปตั้งอคติจนเกินไป อย่าไปคิดทางการเมืองมากนัก บ้านเมืองเราจะเดินไม่ได้
“ไม่เกี่ยวว่ารัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย ไม่มีความพร้อมด้านมือกฎหมาย แต่เกี่ยวที่ใครมีความสามารถก็เชิญมาช่วยงานกัน เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้เพื่อใครเลย ฉะนั้น หน้าที่ฝ่ายค้านถ้าไม่วางใจยังไงค่อยว่ากันในสภา นายกฯพร้อมจะไปตอบ” นายสมคิด กล่าว
‘อนุสรณ์’ตอก‘โรม’เย้ยตั้ง‘วิษณุ’
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลระบุที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯแต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ เพราะพรรคเพื่อไทยขาดมือกฎหมาย ไม่พร้อมบริหารราชการแผ่นดินว่าแม้การแสดงความเห็นจะเป็นสิทธิแต่ต้องระมัดระวังเรื่องมารยาท อย่าให้เกินกรอบ จนกลายเป็นความพยายามในการด้อยค่ารัฐบาล หวังผลในการทำลายความเชื่อมั่นรัฐบาล เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นการสร้างคะแนนนิยมให้พรรคตัวเอง
ส.ส.บัญชีรายชื่อคนนี้กล่าวอีกว่าการที่มีคนมีความรู้ ความสามารถ เข้ามาร่วมงานกับรัฐบาลถือเป็นเรื่องที่ดี ทำไม ไม่มองว่า คนที่เข้ามาทำงานกับรัฐบาลต้องคิดวิเคราะห์แล้วว่า จะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ แมวจะสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้ก็พอ ทำไมถึงตัดตอน แค่ว่านายวิษณุ เครืองาม เคยทำงานกับรัฐบาลที่แล้ว ทั้งที่ความเป็นจริง นายวิษณุ เคยทำงานกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยมาก่อน หากมีความพยายามในการจะเสี้ยมว่าหัวหน้ารัฐบาลไม่ไว้วางใจมือกฎหมายของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่เป็นผล
โวพท.มีทีมก.ม.ลุยงานรบ.-พรรค
นายอนุสรณ์ยังกล่าวว่า เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองมีบุคคลากรทางการเมืองที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย มีความพร้อมในการผลักดันขับเคลื่อนกฎหมาย ทั้งการทำงานในส่วนของพรรค งานฝ่ายนิติบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎร และพร้อมสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในฝ่ายบริหาร ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ตลอดระยะเวลา 4 ปีรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน จะมุ่งมั่นทำงาน โดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย งบประมาณปี 67 ออกมาแล้ว งบประมาณปี 68 กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้นยกแผง เฉพาะยางพาราทุบสถิติ ทำราคาสูงสุดในรอบ 12 ปี ราคายางพุ่งทะลุกิโลกรัมละ100 บาท ฝ่ายค้านกลับพูดได้เพียงแค่ว่า การที่ราคายางพาราพุ่งสูง เพราะเป็นช่วงยางพาราผลัดใบ เพื่อไม่ให้เครดิตเกิดกับรัฐบาล ทั้งที่ถ้าเป็นไปตามตรรกะนั้น ยางพาราอะไรจะใช้เวลาผลัดใบนานถึง 12 ปี
“การมีคนที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมงานกับรัฐบาลมากขึ้น เป็นเรื่องที่น่ายินดี รัฐบาลทำงานผลักดันนโยบายเข้มข้น ประเทศก็เข้มแข็ง เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน อย่าทำตัวเป็นฝ่ายค้านประเภทเพียงแค่วิจารณ์รัฐบาล ก็ถือว่า งานสำเร็จแล้ว เพราะเป็นเรื่องเดียวที่ทำได้” นายอนุสรณ์ กล่าว
‘โรม’เหน็บรบ.ไร้มือกม.ไม่พร้อมบริหาร
ก่อนหน้านี้ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีว่า ต้องมองว่าที่ผ่านมาคืออะไร ซึ่งมีข้อท้วงติงมาตลอดของปัญหาด้านกฎหมายต่างๆแสดงว่าสิ่งที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าพรรคเพื่อไทยขาดมือกฎหมาย ขาดคนที่จะให้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อผลักดันนโยบาย
“มันอาจจะขาดจริงๆเป็นเรื่องที่เข้าใจถูกต้อง สุดท้ายไม่รู้จะเอาใคร ต้องไปยืมมือนายวิษณุเหมือนเดิม พูดง่ายๆ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ยืมมือนายวิษณุ รัฐบาลนายเศรษฐาก็ยืมมือนายวิษณุ สุดท้ายไหนบอกว่ามีความพร้อมในการบริหารงานบริหารประเทศ ผมมองว่าเป็นเรื่องของเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิม ในเรื่องนี้ทำให้เห็นว่ารัฐบาลนายเศรษฐาขาดเอกภาพ ไม่มีความพร้อมในด้านการบริหารงานจริงๆ สุดท้ายต้องใช้บริการในวิษณุที่มีส่วนช่วยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น”นายรังสิมันต์ ระบุ
หวังช่วยสู้คดี40สว.ยื่นถอดถอน
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ของรัฐบาลหรือไม่ที่ขาดมือกฎหมาย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่ ทำให้เกิดคำถามว่าที่ผ่านมา ปัญหาข้อกฎหมายมีอยู่จริงหรือไม่ ถือเป็นประเด็น แต่ที่เป็นประเด็นใหญ่ คือ รัฐบาลนายเศรษฐาโดยเฉพาะนายเศรษฐาวิพากษ์วิจารณ์นายวิษณุในหลายโอกาส แต่ถึงเวลาทำเหมือนว่า เรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ไปบอกว่าเป็นเรื่องของความไม่ใช่เรื่องของคน ตนบอกว่าเป็นวิธีการที่จะหลบเลี่ยง สุดท้ายอาจจะไม่ใช่ ให้มาดูแค่เรื่องกฎหมายในคณะรัฐมนตรี แต่นายเศรษฐาจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ตนเองกำลังถูกแขวนอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตนพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าสนับสนุนในสิ่งที่นายเศรษฐาโดนการเมืองควรแก้ด้วยการเมือง แต่ปัญหาคือจุดนั้นหรือไม่ ที่ทำให้ต้องเชิญนายวิษณุเข้ามา ตนเชื่อว่าสังคมจำนวนไม่น้อยก็จะตั้งคำถามว่า การที่ นายวิษณุ เข้ามาคือมีภารกิจทำให้ นายเศรษฐา รอดจากคดีในศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามย้ำว่า มองว่าไม่ใช่ให้นายวิษณุเข้ามาเพื่อกลั่นกรองกฎหมายก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าทางปฏิบัติจะทำได้แค่ไหน เพราะนายวิษณุก็สุขภาพไม่ดี ซึ่งอาจจะช่วย แต่ช่วยร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ ตนตอบไม่ได้
เหล้าเก่าขวดใหม่-ไม่ไว้ใจ‘เพื่อไทย’
“แต่สิ่งที่มองคือ นายเศรษฐา ไม่ไว้วางใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว จึงทำให้ไม่รู้จะไปหาทางออกอย่างไรจึงต้องไปยืมเนติบริกรที่มีผลงานในหลายรัฐบาล คือนายวิษณุ พูดง่ายๆ ก็คือการันตีของแทร่”นายรังสิมันต์ ย้ำ เมื่อถามว่า จะกระทบกับเครดิตของพรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐาหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องดูว่านายเศรษฐายังมีเครดิตมากแค่ไหน ตนขอให้ชวนคิด ตนไม่อยากจะให้ความเห็นตรงนั้นมาก วันนี้สังคมก็มองรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจับมือกับหลายพรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มาก่อนและเป็นพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยซ้ำ
“พอมาวันนี้มาตั้งนายวิษณุ แม้จะไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ต้องยอมรับว่ามีบทบาทคล้ายรองนายกรัฐมนตรี ทำให้คนในสังคมมองว่า คนในรัฐบาลนี้ไม่ต่างจากรัฐบาลเดิมสักเท่าไหร่ แล้วที่เคยพูดว่ามีความพร้อมในการบริหารงาน ยังพร้อมบริหารงานอยู่หรือไม่ สุดท้ายจะเกิดคำถามเรื่องความเป็นเอกภาพภายในพรรคเพื่อไทยว่า นายเศรษฐา ไม่เชื่อมือนายชูศักดิ์ ศิรินิล มือกฎหมายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ จึงต้องนำนายวิษณุเข้ามาเป็นเนติบริกร”นายรังสิมันต์ กล่าว
นายกฯเมิน‘โรม’พร้อมตอบในสภาฯ
ช่วงบ่าย ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหน้านี้นายกฯไปทาบทามให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ว่า อย่างที่ตนเรียนการคุยกันระหว่างตนกับท่านให้อยู่ระหว่างตนกับท่านดีกว่า ซึ่งตนได้ไปหาท่านจริง ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลต้องหารองนายกรัฐมนตรี เข้ามาเพิ่มหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คนละประเด็น ไม่เกี่ยว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มองว่าการที่นายกฯเชิญนายวิษณุ มาเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นเพราะไม่เชื่อมั่นทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ ซึ่งยังมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นมือกฎหมาย โดย นายกฯ ย้อนถามว่า “ถามผมหรือถามใคร” ก่อนกล่าวอีกว่า แต่ก็เป็นเรื่องของเขาไป ถ้าถามตนในสภาก็จะตอบในสภา แต่ถ้าเป็นคอมเม้นท์แบบนี้ ตนไม่ขอตอบ ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัว เมื่อถามว่าให้นายวิษณุ มาดูกฎหมายทั่วไปใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นไปตามที่คำสั่งได้ออกไปทุกอย่าง
“ธรรมนัส”มั่นใจวิษณุช่วยงานรบ.ได้
ด้านร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย เข้ามาช่วยงานส่งผลดีต่อรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนกับ นายวิษณุ มีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ตนมั่นใจในตัวท่าน และในรัฐบาลที่แล้วที่ตนเป็นรัฐมนตรีก็เป็นคนหนึ่งที่ปรึกษา นายวิษณุ มากที่สุด ในเรื่องข้อกฎหมาย จึงมีความคุ้นเคย เชื่อมั่นในตัวท่าน
เมื่อถามว่า การที่ดึงเข้ามามองหรือไม่ว่า ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยไม่มีประสิทธิภาพ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอื่น ขอวิพากษ์วิจารณ์เฉพาะเรื่องส่วนตัวของตนกับ นายวิษณุ
ไม่รู้’บิ๊กป้อม’รอส้มหล่นนั่งนายกฯ
ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการนัดรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล โดยที่พรรคพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพ ว่า ตนได้เตรียมสถานที่เรียบร้อยแล้ว จากนี้คือรอกำหนดวันโดยต้องดูวันที่นายกรัฐมนตรีว่าง ซึ่งคาดว่าจะเป็นในช่วงเดือนมิ.ย. เมื่อถามว่า จะมีการเชิญพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.มาร่วมด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อันนี้เดี๋ยวค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร อาจหวังส้มหล่นหากนายกฯถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กระทำขัดรัฐธรรมนูญ ตามที่สว.ยื่นเรื่องถอดถอน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนทำงานแต่กับกระทรวงเกษตรฯและแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนแทบไม่มีเวลาที่จะมาคิดเรื่องพวกนี้ เมื่อถามว่าได้มีการประเมินสถานการณ์การเมืองหรือไม่ หลังถูกสว.ยื่นถอดถอนนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมอยู่แวดวงการเมืองปีนี้เป็นปีที่ที่31แล้ว ผมเห็นอะไรมาเยอะ“
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี