‘วิษณุ’ประเดิมร่วมประชุม‘ครม.เศรษฐา’ เผยวันนี้เห็น‘ร่างคำชี้แจงนายกฯ’ พูดไม่ได้สู้คดีแล้วแพ้แหงๆ ย้ำ มานั่งที่ปรึกษาฯไม่ได้เงิน แถมลดเกียติด้วยซ้ำ แค่อยากช่วยประเทศ ไม่ยี่หระข่าวคน‘เพื่อไทย’ต้าน ลั่นถ้าต้านมากๆก็ไป บอก‘นิรโทษกรรม’เป็นเรื่องสภา รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการอะไร ไม่ทราบรวม‘ม.112’ด้วย
เมื่อเวลา 09.45 น.วันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกฯ ว่า เคยเข้าออกและทำงานที่นี่มา 30 กว่าปีแล้ว ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หรือตื่นเต้นโลดโผนอะไร วันนี้เป็นการทำหน้าที่ปรึกษาของนายกฯ ที่อนุญาตให้เข้าประชุม ครม.ได้ เผื่อจะมีประเด็นบางอย่างที่ท่านสั่งหรือว่าประเด็นที่เกิดการถกเถียงกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ จะได้แสดงความเห็น คงมีแค่นั้น ไม่ได้มีอะไรมากมาย คงทำหน้าที่เหมือนที่นายพิชิต ชื่นบาน เคยทำตอนเข้าประชุมครั้งแรกก่อนจะเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้มีการให้ช่วยตรวจทานร่างคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นธรรมดา หนีไม่พ้นต้องมีอยู่แน่ เพราะคนที่ทำจริงๆ คือทีมงานของนายกฯ นายพิชิตก็เป็น 1 ในทีมงานนั้น แต่นายกฯไม่ทราบรายละเอียดของนายพิชิต เพราะเป็นเรื่องของนายพิชิต ซึ่งทางคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพียงแค่เสนอมา เอามารวมกันให้ตนได้ตรวจดูอีกสักครั้งหนึ่ง เมื่อเสร็จจากตนจะมีบุคคลอื่นตรวจสอบอีกทีหนึ่งก็ได้ ตอนนี้ได้ทราบว่าได้ร่างคำชี้แจงเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะให้ตนได้ดูวันเดียวกันนี้ (4 มิ.ย.67) เพื่อที่จะให้นายกฯลงนามเสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ทันในวันที่ 6-8 มิ.ย. ส่วนรายละเอียดคำชี้แจงจะเป็นอย่างไรนั้น ขอว่าอย่าเปิดเผย เดี๋ยวเสียรูปคดี ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันความเสี่ยงของนายกฯอยู่ที่ 50:50 นั้น ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่า ยืนยันว่ามีช่องสู้คดีได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมจะยืนยันได้อย่างไรว่าแพ้แหงๆ และผมยังไม่เห็นรายละเอียดคำชี้แจง วันนี้คงได้ดู”
เมื่อถามว่า เหตุผลอะไรที่เข้ามาช่วยนายกฯ ทั้งที่มีปัญหาสุขภาพ และหลายคนมองว่ามีอะไรมากกว่ามาช่วยนายกฯ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนคิดหนักอยู่แล้วว่าเหมือนคนไม่เจียมตัว แต่เห็นใจนายกฯ ได้ยกเหตุผลอะไรหลายอย่างให้ฟัง แต่คิดว่ามาช่วยท่านสักระยะหนึ่ง คงไม่น่าทำให้ตัวเองเกิดอันตรายอะไร และไม่น่าเป็นผลเสียอะไรต่อประเทศชาติด้วย ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นมาก เพราะเป็นที่ปรึกษาธรรมดา หรืออาจจะให้เลขาธิการนายกฯปรึกษาเพื่อยืนยันให้ท่านมั่นใจในบางเรื่อง ส่วนใหญ่จะทำงานที่บ้าน มีแต่วันอังคารที่เข้ามา
เมื่อถามย้ำว่า เหตุผลที่มารับตำแหน่ง เงินก็มีแล้ว เกียรติยศก็มีแล้ว ยังต้องการอะไรอีก นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมคิดว่าประเทศชาติต้องการคนช่วยแก้ปัญหา คนเล็กๆ คนหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาลในบางเรื่องที่มีข้อสงสัย สมัยที่นายพิชิตอยู่หรือไม่ใช่นายพิชิต ใครก็ตามที่อยู่เขาก็ช่วยได้ ผมก็มาทำหน้าที่แทนในระดับอย่างนั้น เท่านั้นเอง ไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ได้ต้องการเกียรติยศ ลดเกียรติด้วยซ้ำจากรองนายกฯมาเป็นที่ปรึกษา”
เมื่อถามว่า ใช้เวลาตัดสินใจนานหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตัดสินใจกันต่อหน้านายกฯ ที่เข้าไปหา แต่มีการพูดคุยกันว่าอะไรที่ตนทำได้ และที่ไม่ควรทำ เมื่อถามอีกว่า ตอนรับตำแหน่งมีเงื่อนไขอะไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า มี เป็นเงื่อนไขเล็กๆ แต่ขออย่าเล่า ไม่ใช่เงื่อนไขเกี่ยวกับตน เป็นเงื่อนไขที่นายกฯใช้คำว่าเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างนายกฯกับตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การมารับงานตรงนี้ เหมือนกับการลงเรือแป๊ะต่อใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ คนละแป๊ะ แป๊ะขึ้นไปแล้ว เวลานี้เศรษฐีมา ไม่ใช่แป๊ะแล้ว ส่วนจะเป็นเรืออะไร อย่าไปเปรียบเลย เปรียบไม่ได้ เพราะตนไม่ได้อยู่ในรัฐบาล ไม่เรียกว่าร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยเตือนรัฐบาลชุดก่อนว่าระวังสนิมเกิดแต่เนื้อในตน อยากเตือนรัฐบาลนี้ว่าอะไร นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่ต้องเตือน ฝ่ายการเมืองเขารู้และเตือนกันเอง
เมื่อถามว่า หน้าที่แรกที่นายกฯมอบหมายคืออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่มีสักเรื่อง แต่การตรวจคำให้การเป็นที่เลขาธิการนายกฯไหว้วาน
เมื่อถามว่า จะดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่เคยมีการเอ่ยถึงเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะช่วยจนครบวาระรัฐบาล หรือจะช่วยงานเพียงบางครั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า อนาคตไม่ทราบ แต่เท่าที่คุยกับนายกฯคือ มาช่วยเป็นบางกรณี แต่บางภารกิจเมื่อหลายบางเข้ามันก็มากขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีเคยให้สัมภาษณ์ว่า ใน ครม.บางทีจะมีข้อถกเถียงกันระหว่างคนไม่รู้กับคนไม่รู้ ที่ผ่านมามีเรื่องอะไรที่ ครม.ไม่รู้และทำไปแล้วบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี สื่อเป็นคนวิจารณ์กันเองระหว่างคนไม่รู้กับคนไม่รู้ และไม่ใช่แบบไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว เพียงแต่แต่ละคนรู้แต่เรื่องของตัว ก็อาจจะมีอะไรขัดแย้งกันบ้าง ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต
เมื่อถามว่า ในที่ประชุม ครม.จะมีอำนาจและสามารถทักท้วงอะไรได้บ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอำนาจอะไร แต่หากจะทักท้วงคงทำได้ แต่ไม่ใช่ตนจะท้วงทุกเรื่อง อะไรทำมาดีแล้วก็ไม่มีอะไรต้องท้วง และการที่มีคนนอกมานั่งในที่ประชุม ครม. ไม่แปลกประหลาด มีหลายสมัย หากนั่งอยู่แล้วมีอะไรผิดพลาดก็อาจจะเขียนโน๊ตส่งให้นายกฯ ไม่จำเป็นต้องทักท้วงให้เสียเวลา อย่างน้อยไม่ใช่นั่งเพื่อท้วง แต่วันหนึ่งเมื่อรัฐมนตรีไปกันหมดแล้วเกิดคดีความจะได้มีคนช่วยจำ ช่วยเป็นพยานว่าตอนนั้นว่ากันอย่างไร ข้าราชการทำหน้าที่นี้ได้ แต่บางคดีต้องการคนนอกที่ไม่ใช่ข้าราชการ ที่ไม่มีส่วนได้เสีย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสต่อต้านการมาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯจากคนในพรรคเพื่อไทย นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เดือดร้อน ต้านมากๆ ตนก็ไม่อยู่ ไม่แปลกอะไร เพราะตนไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย
เมื่อถามว่า การมาช่วยงานเช่นนี้ เป็นการการันตีว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของฝีมือรัฐบาล
นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ผลักดันเรื่องการนิรโทษกรรม ว่า รัฐบาลไม่ได้พยายาม สภาเป็นฝ่ายพยายาม แต่ก็ต้องส่งให้รัฐบาลดู ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจำเป็นต้องทำร่างประกบกับของ สส.หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเห็นว่าจำเป็นรัฐบาลก็เสนอเข้าไป แต่เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า มีโอกาสจะรวมความผิดตามมาตรา 112 ไปด้วย จะเป็นไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี