นายกฯยอมรับสส.คาใจตั้ง‘วิษณุ’

พท.เสียงแตก!

แต่โวการเมืองไร้ปัญหา

พร้อมร่วมประชุมพรรค

เร่งแก้คำชี้แจงศาลรธน.

เดดไลน์ไม่เกิน10มิ.ย.นี้

นายกฯเข้าทำเนียบฯเรียก“รมต.คลัง-คมนาคม” รายงานคืบหน้าการทำงาน เผยกำลังแก้ไขคำชี้แจงส่งศาลรัฐธรรมนูญเดดไลน์ไม่เกิน10มิ.ย. ยันปัญหาการเมืองช่วงนี้ไม่น่าห่วง แจงไม่ได้หนีประชุมพรรคเพื่อไทย บอกว่างเข้าตลอด รับคน‘เพื่อไทย’มีทั้งพอใจ-ไม่พอใจ ปมดึง‘วิษณุ’ช่วยงาน เชื่ออธิบายชัดเจนแล้ว

เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 5มิถุนายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติงานตามปกติภายในทำเนียบรัฐบาล โดยในวันเดียวกันนี้นายกฯไม่มีภารกิจภายนอกทำเนียบรัฐบาล แต่จะเรียกรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง เข้ามารายงานความคืบหน้าการทำงานของแต่ละกระทรวงที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ และนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งใกล้เวลาครบ 15 วันที่ให้ส่งคำชี้แจง ว่า ไม่ได้พบกับตน และตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย นายวิษณุเพียงแต่ประชุมกับทีมงาน ให้ท่านได้มีเวลาดูเรื่องต่างๆดีกว่า

นายกฯย้ำ10มิ.ย.เดทไลน์แจงศาลรธน.

เมื่อถามว่า ครบกำหนดส่งคำชี้แจงที่ระบุไว้ 15 วันตรงกับวันที่เท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ครบกำหนดในวันที่ 10มิ.ย.เมื่อถามย้ำว่าถึงขณะนี้ยังมีความกังวลอะไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องกังวลไม่ต้องถามกังวลทุกเรื่อง เมื่อถามอีกว่า ตอนนี้คำชี้แจงทำเสร็จแล้วหรือยังนายกฯกล่าวว่า กำลังมีการแก้ไขอยู่ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมามีการประชุมก็เห็นยังมีการแก้ไขอยู่

ปัดหนีประชุมพท.-เสียงแตก‘วิษณุ’

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาการเมืองมีอะไรน่าห่วงหรือไม่ในช่วงนี้ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่าห่วง ตอนนี้เรื่องของร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ทีมงานกำลังเตรียมตัวอยู่โดยสภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณาในวันที่ 19 -21 มิ.ย.นี้

มีทั้งคนพอใจ-ไม่พอใจปมตั้ง’วิษณุ’

เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยสนับสนุนนายกฯ ภายหลังไม่พอใจที่เชิญนายวิษณุ เครืองาม เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ มาช่วยงาน นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนก็ได้ยินมา โดยติดตามจากสื่อ ซึ่งตนไม่ได้หนีที่จะเข้าร่วมประชุมพรรค แต่อย่างใด ถ้าว่างตนก็จะเข้าตลอด ตอนนี้ความจริงสภาผู้แทนราษฎรก็ปิดสมัยประชุมอยู่ ก็ยังไม่มีเรื่องอะไร แต่ถ้าสภาเปิดแล้ว ตนคงจะเข้าไปอยู่ที่สภาในพฤหัสบดีเหมือนเดิม ‘ถ้าว่างก็จะเข้าไปประชุมพรรคเพื่อไทยในวันอังคาร จะได้มีเวลาพบปะกับ สส.ส่วนเรื่องที่น.ส.แพทองธาร ผมก็ได้ยินตามข่าวที่ออกมา ก็เป็นธรรมดา ก็มีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ แต่ผมเชื่อว่าคำอธิบายนั้นชัดเจ’ นายเศรษฐา กล่าว

มีโอกาสทำความเข้าใจกับสส.ตลอด

เมื่อถามว่า ถ้านายกฯ เข้าไปพูดด้วยตัวเองจะทำให้สมาชิกมีความสบายใจมากขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็เป็นอีกแนวคิดหนึ่ง ถ้าว่างหรือมีเวลาก็จะเข้าไปและถ้าถามก็จะชี้แจงต่อไปเรื่อยๆ เหมือนคำถามที่สื่อถามแล้วถามอีก ตนมีหน้าที่ตนก็ต้องชี้แจงต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตนเข้าใจว่าท่านถามซ้ำอยู่ก็แสดงว่ายังมีความกังวลอยู่ ก็เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องอธิบายต่อไป เมื่อถามต่อว่า ถ้าไม่ชี้แจงจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างสมาชิกพรรคเพื่อไทยกับนายกฯ ต่อไปเรื่อยฯๆหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่าไม่หรอก เพราะเวลาลงพื้นที่ตนก็ลงพื้นที่เยอะ ส่วนไหนที่พูดกันรู้เรื่องแล้ว ตนก็คิดว่าทุกคนก็รู้เรื่อง แต่การที่เราอยู่ร่วมกัน ก็คงไม่ได้สบายใจด้วยกันทุกเรื่องเสมอไป แต่ถ้าเรื่องที่สบายใจ 80 ไม่สบายใจ 20 เราก็ต้องพยายามทำในส่วนของ20 เพื่อให้ลดลงไปเหลือ19 หรือ18ไปเรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของตนอยู่แล้วที่จะต้องพยายามทำต่อไป เพื่อให้ความกระจ่างกับคนที่ทำงานด้วยกัน หรือในการลงพื้นที่ หรือทีมงานที่เข้ามาพูดคุยมาแนะนำปัญหาของประชาชนตนก็รับฟังตลอด โดยผ่านทีมทำงานของตนหรือไม่ตนก็รับฟังเอง

ยินดีฟังความเห็น-ปรับให้ถูกใจปชช.

เมื่อถามอีกว่า ในอนาคตมีโอกาสที่นายกฯจะมีการพูดคุยกับสมาชิกเป็นกลุ่มภาคเพื่อทำความเข้าใจ หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทำอยู่แล้ว เพราะบางทีทำก็ไม่ได้บอกกับสื่อทำอยู่ประจำอยู่แล้ว ในแง่ของการนำเรื่องนโยบายต่างๆมาทำและถ้าสส.คนไหน ภาคไหนหรือแม้แต่พรรคไหนที่มีผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ตนก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น เพื่อปรับนโยบายให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เพราะสส.คือตัวแทนของประชาชน

เยือนเชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง7-9มิ.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ระหว่างวันที่ 7-9มิ.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวเขตภาคเหนือ “เมืองล้านนาน่าเที่ยว”ณ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดลำปาง โดยมี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ,นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ,นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ,นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ,นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ( กปร.)ร่วมคณะ

รบ.สลับขั้วเป็นไปได้หากศาลฟันผิด

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีหลายคดีรุมเร้ารัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะนำไปสู่การเปลี่ยนขั้ว สลับขั้วในอนาคต หรือมีเหตุต้องลงถนน หรือไม่ ว่า ตนคิดว่าตัวชี้วัด หรือจุดเปลี่ยนที่สำคัญนั้น อยู่ที่คดีของนายเศรษฐา ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในรูปแบบไหน ถ้าออกมาในลักษณะที่นายเศรษฐาได้ไปต่อ เรื่องนี้ก็จะบรรเทาเบาบางสถานการณ์ที่ตึงเครียดให้กับรัฐบาลพอสมควร แต่ถ้าออกมาในลักษณะไม่ได้ไปต่อ สิ่งที่จะเกิดผลกระทบอันแรก คือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งจะนำมาสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งแคนดิเดตที่มีอยู่ในวันนี้เพียงไม่กี่ท่านเท่านั้น ถ้าไม่มีการยุบสภาเกิดขึ้นเสียก่อน เมื่อแคนดิเดตนายกฯ เหลือเพียงไม่กี่ท่าน โอกาสจะเกิดการสลับขั้ว ย้ายขั้ว ข้ามขั้ว มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งหมดและอาจนำไปสู่ผลกระทบเสถียรภาพทางการเมืองก็ได้ ซึ่งคือตัวชี้วัดแรก ที่จะต้องดูในคดีของ นายเศรษฐา ว่า จะชี้ทิศทางเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไร ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีของนายทักษิณ หรือการวิพากษ์วิจารณ์โยบายต่างๆ ของรัฐบาลไม่ได้เป็นประเด็นหลักส่งผลในระยะสั้นมากนัก

“สว.วันชัย”แฉ3ขบวนการล้มรัฐบาล

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวที่เป็นข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับ “ขบวนการ3ล้ม”ที่อยากจะบอกให้สังคมได้รับทราบเพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับชาติบ้านเมืองและระบอบประชาธิปไตย โดยขบวนการ3ล้มเกิดขึ้นนี้ เป็นการรวมการเฉพาะกิจเหมือน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจของคณะบุคคล 3กลุ่ม3พวก เพื่อกระทำการ3ล้มให้เกิดขึ้นให้ได้ในเร็ววันนี้ ล้มแรก คือ ล้มรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ลงให้ได้ เพราะถ้าล้มรัฐบาลเศรษฐาลงได้ก็จะมีการเซท ซีโร่ในอำนาจนั้น แล้วก็เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ตัวเองจะได้เข้ามามีอำนาจในครั้งใหม่นี้ ล้มที่สอง ล้มหรือยุบก้าวไกล เพราะถ้ายุบก้าวไกลไปได้ พรรคก็จะแตกกระสานซ่านเซ็น สส.ก็จะต้องหาที่อยู่ใหม่ภายใน 30วัน ตอนนั้นพรรคตัวเองหรือพรรคพวกของตัวเองก็จะตามช้อน หรือต้อนเข้าคอก ทำให้มีเสียงเพิ่มมากขึ้น แล้วก็จะมีอำนาจต่อรองกับอำนาจใหม่นี้ ล้มที่สาม ก็คือล้มกระดานการเลือก สว.ถ้าล้มได้ สว.ชุดเก่าก็ยังอยู่เหมือนเดิม คอยปฏิบัติภารกิจได้ต่อไป

พุ่งเป้าไม่หนุน’พท.-ก.ก.-ทักษิณ’

นายวันชัย กล่าวอีกว่า คณะบุคคล3พวกที่ประสานงานจับมือกันเคลื่อนไหวเป็นขบวนการอย่างเข้มข้นอยู่ในขณะนี้เพื่อหวังจะทำให้ 3 ล้มดังกล่าวประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย 1.พวกที่ผิดหวัง อกหักทางการเมือง ไม่ได้เข้ามามีอำนาจ 2.พวกที่เกลียดทักษิณเข้ากระดูกดำ 3.พวกเผด็จการ นิยมการปฏิวัติ รัฐประหาร ทั้ง 3พวกนี้ไม่เอาทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล รวมทั้ง ทักษิณ การออกมาให้ข่าวกล่าวหา โจมตีในประเด็นต่างๆเป็นระลอก การยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระ มีสื่อบางสำนักเป็นกระบอกเสียง คนเหล่านี้ปฏิบัติการเป็นแบบรวมการเฉพาะกิจ ไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น แต่ละคนแต่ละพวกอุดมการณ์ต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ การล้มรัฐบาลเศรษฐา ยุบพรรคก้าวไกลและล้มกระดานการเลือกสว. เพื่อให้ สว.ปัจจุบันยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป