กกต.สอบฮั้วทุกจว.
ต้องผิดม.77ถึงจะเข้าเงื่อนไข
ยันคลอดสว.ตามไทม์ไลน์เดิม
เลขาฯกกต.เดินหน้าเลือกสว.ระดับจังหวัด ซักซ้อมเจ้าหน้าที่เน้น 3 ข้อปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศ กำชับตรวจเข้ม 3ความผิด โวข้อร้องเรียนเคลียร์จบใน 24 ชม.ไม่มีค้าง ขณะเดียวกันมีแนวทางรับคำชี้ขาดจากศาลรัฐธรรมนูญใน 4 มาตราขัดรธน.หรือไม่แล้ว ลั่นยึดข้อกฎหมายให้ได้มาซึ่งสว.200คนตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.แถลงถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)ว่า ได้ซักซ้อมกับผู้อำนวยการเลือก สว.ระดับจังหวัด ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เน้นย้ำการปฎิบัติใน 3 เรื่องคือ
กกต.สั่งจนท.เข้ม3ข้อเลือกระดับจว.
1. ความเรียบร้อย ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และความเสมอภาคของผู้ปฏิบัติ เพราะกกต.ลงพื้นที่ และเห็นว่ายังมีการปฏิบัติที่ต่างกัน จึงต้องเน้นย้ำ 2.เป็นข้อสังเกตการณ์ที่พบ มีการปฏิบัติไม่เหมือนกัน เช่น การตั้งหีบบัตร ซึ่งมีหลายอำเภอมีกลุ่มอาชีพที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว เมื่อเข้าสู่รอบไขว้ ซึ่งจะมีหีบสำหรับลงคะแนนเพียง 1 กล่องของสาย เพื่อให้การลงคะแนนของผู้สมัครเพียงคนเดียวของกลุ่มนี้เป็นความลับ แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อเข้าการเลือกระดับจังหวัด เพราะกลุ่มอาชีพนั้นจะมีผู้สมัครเกิน 1 คน เชื่อว่า เมื่อมีการซักซ้อมกันแล้ว การเลือกระดับจังหวัด ไม่น่ามีปัญหาอะไร และ3.จากที่ได้รับความเห็น ข้อเสนอระดับอำเภอแล้ว สำนักงานฯเห็นว่า การเลือกระดับจังหวัดจะกำหนดให้ช่วงเช้าเป็นการเลือกรอบแรก ส่วนการเลือกรอบไขว้ หรือรอบสองเริ่มช่วงบ่าย เพื่อความเรียบร้อยในสถานที่เลือก การแนะนำตัวของผู้สมัครทำได้ แต่เน้นให้เป็นระเบียบ ไม่เดินขวักไขว่
ย้ำ3ความผิดในการเลือกสว.
ส่วนความผิดในการเลือก สว. ตามกฎหมายนั้น เลขาฯกกต.เผยว่า มี 3 ลักษณะดังนี้ 1.การรับสมัคร คือรู้ว่า ตัวเองไม่มีสิทธิลงสมัครแต่ยังสมัคร มีการรับรองเอกสารเป็นเท็จ และรับจ้างสมัคร 2.กระบวนการและการดำเนินการคือการเลือก พบว่ามีความผิดในการลงคะแนน นับคะแนน ซึ่งมีคำร้องที่กกต.กำลังเร่งพิจารณาให้เสร็จก่อนการเลือกระดับจังหวัดรวม 8 เรื่อง และ3.การเลือกที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม คือการยอมให้พรรคการเมืองมาช่วยหาเสียง มีการให้เงิน ให้ทรัพย์สินและร้องเท็จ เรียกรับผลประโยชน์เพื่อเลือก หรือไม่เลือก ซึ่งสิ่งที่กกต.ทำในเรื่องการสมัคร ที่มองกันว่า มีคนมาสมัครเป็นกลุ่ม ใส่เสื้อสีเดียวกัน ถ่ายรูปมาจากร้านเดียวกัน ผอ.ได้สอบถามในวันที่มาสมัครว่ามีใครจ้างมาสมัครหรือไม่ จนทำให้บางรายรู้สึกไม่ดี ขณะนี้กำลังประมวลผล ส่วนเรื่องการลงคะแนนก็มีการร้องเรียน ซึ่งกกต.พิจารณาไปแล้วบางส่วน
ชี้สกัดฮั้วใช้ม.77ถึงจะเข้าเงื่อนไขความผิด
นายแสวงกล่าวต่อว่า สำหรับความไม่สุจริตเกี่ยวกับการฮั้ว ความหมายของคำว่า ฮั้วไม่มีกฎหมายนิยามไว้ แต่กฎหมายที่ใกล้เคียงคือ กฎหมายเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ในเรื่องการเลือกตั้ง จะหมายถึงการทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม ซึ่งในการเลือก สว. เดิมเรามีกฎหมายที่จะใช้ดำเนินการ 2 ฉบับคือ กฎหมายเลือก สว. และระเบียบที่อยู่ในนิยามการให้แนะนำตัวได้เท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้ไม่ได้ เพราะศาลฎีกาวางแนวทางเอาไว้แล้วว่า การขอคะแนน แลกคะแนนทำไม่ได้ แต่ระเบียบนี้ถูกยกเลิกไป เหลือเพียงกฎหมายที่เอามาจับได้อย่างเดียว คือ มาตรา 77 ต้องให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดถึงจะเข้าเงื่อนไขกฎหมาย
“ถ้าดูพฤติการณ์ที่ผ่านมา ใส่เสื้อสีเดียวกัน บริษัทเดียวกัน ชักชวนกันมา แนะนำตัวเพื่อให้เขาเลือกสามารถทำได้แล้ว เพราะนิยามการแนะนำตัวตามระเบียบฯ มันถูกยกเลิกไป ตอนนี้จึงดูได้แต่ว่า เขาได้ทำตามมาตรา 77 หรือไม่ เมื่อลงคะแนนแล้วพบว่า ผู้สมัครได้ 0 คะแนน อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจโดยให้จังหวัดตรวจสอบและรายงานมา แต่คงไปตรวจสอบจนตั้งเป็นสำนวนไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดว่า ไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเองก็ได้”เลขาฯกกต.ระบุ และว่า ถ้าผู้สมัครหรือประชาชนเห็นว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดมาตรา 77 สามารถร้องเรียนได้ ขณะเดียวกัน กกต.มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วติดตามการเลือก เพราะสำนักงานฯให้ความสำคัญกับการเลือกที่สุจริตและเที่ยงธรรม
แนะนำตัวไม่ผิดระเบียบทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีผู้สมัครใช้วิธีการเดินสายร้องเรียนตามที่ต่างๆ เจตนาให้ตัวเองเป็นที่รู้จักถือว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า การแนะนำตัวที่ไม่ผิดระเบียบ หรือกฎหมาย สามารถทำได้ ส่วนที่มีการร้องว่า การเลือกระดับอำเภอนั้น กกต.ติดตั้งกล้องวงปิด มีแค่ภาพ แต่ไม่มีเสียง อีกทั้ง ยังเป็นภาพระยะไกล จะทราบได้อย่างไรว่า มีการฮั้วหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ กกต.ไปตรวจสอบติดตาม และสั่งให้สำนักงานแก้ไขเรื่องการจัดสถานที่สังเกตการณ์เลือก สว.ระดับจังหวัด อยู่ใกล้สถานที่เลือก สามารถมองเห็นการเลือกและมีกล้องวงจรปิดที่เก็บเสียงได้ แต่พื้นที่สังเกตการณ์จะไม่ได้ยิน
ใครถูกคัดเชื่อออกร้องศาลฎีกาใน3วัน
ส่วนกรณีที่มีคนตั้งคำถาม เหตุใดมีคนไม่มีรายชื่อสามารถเข้ารับการเลือก สว.ระดับอำเภอได้นั้น เลขาฯกกต.ชี้แจงว่า เพราะบางคนศาลฎีกาคืนสิทธิให้ ผอ.การเลือกจึงเพิ่มชื่อเข้าไป ส่วนระดับจังหวัดที่กำลังจะเลือกนี้ มีการตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม หากพบใครไม่มีคุณสมบัติ สามารถคัดชื่อออกได้เช่นกัน ถ้าใครถูกคัดชื่อออกสามารถร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 3 วัน แต่กรณีเช่นนี้มีน้อยมาก
พร้อมรับคำสั่งศาล-แย้มมีแผนสำรอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยคำร้อง ตรวจสอบ 4 มาตราของพ.ร.ป. พ.ศ. 2561 ประกอบด้วย มาตรา 36 ,40 ,41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ โดยศาลนัดชี้ขาดในวันที่ 18 มิถุนายน จะส่งผลต่อการเลือก สว.หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ต้องรอฟังคำสั่งศาล ซึ่งหากผลเป็นลบ กกต.มีมาตรการก็รองรับทุกประตู แต่ยังบอกรายละเอียดไม่ได้ ให้รอดูวันที่ศาลพิพากษา ซึ่งเรารอมาได้ 7 วัน ให้รออีก 7 วันก็รอได้
ไม่มีคำร้องค้าง-เคลียร์จบใน24ชม.
ด้านนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต.กล่าวย้ำว่า ผู้สมัคร สว.คนใดถ้าเห็นการเลือกไม่สุจริต เที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมี 3 กรณีที่จะร้องคัดค้านได้ตามมาตรา 64 แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นผู้สมัคร ซึ่งกกต.ไม่ได้ละเลยหน้าที่กรณีมีคนร้อง ส่วนกรณีผู้สมัครไปร้องการเลือกในต่างอำเภอ กกต. ก็จะยกคำร้องเนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบสืบสวนของเรา แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ กกต.ที่จะพิจารณาคำร้องนั้นให้เป็นเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎ ซึ่งการพิจารณาคำร้องของ กกต.เราพิจารณาทุกวัน ไม่ว่า กกต.จะอยู่ที่ไหน เราก็จะเรียกประชุม ไม่ต้องกลัวมีคำร้องค้าง การพิจารณาคำร้องเมื่อพนักงานของเรารับคำร้องแล้วต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง หลังได้รับคำร้อง แล้วต้องรายงานให้ กกต.ทราบภายใน 3 วัน ไม่ต้องกลัวแม้เป็นวันหยุด กกต.จะเร่งพิจารณาทุกคำร้อง ขณะนี้คำร้องของเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนและวันนี้ (14 มิถุนายน) เราพิจารณาเสร็จแล้ว เหลือคำร้องพรุ่งนี้
ลั่นยึดกม.เลือกสว.ให้ได้200คน
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกล มองจะมีการล้มกระดานเลือก สว.ครั้งนี้ นายฐิติเชฏฐ์กล่าวว่า เป็นการคาดเดา เราเตรียมแผนไว้แล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังได้สว.ตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด จะดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ไม่ต้องกลัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.ยังมั่นใจใช่หรือไม่ จะได้สว. 200 คน เพราะมีการวิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ว่าจะมี 3 ล้มกระดานคือ ล้มพรรคก้าวไกล ล้มนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และล้มการเลือกสว.นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวว่า เป็นการคาดเดา แต่เรามีแผนไว้แล้วว่าได้สว. 200 คนไว้แล้ว เราจะดำเนินการอย่างไร เราจะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ไม่ต้องกลัว
กกต.เปิดขั้นตอนเลือกสว.ระดับจว.
วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวแจ้งว่า ตามที่กกต.ประกาศกำหนดวันเลือก สว. ระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน สำนักงานฯขอประชาสัมพันธ์วิธีการเลือกสว.ระดับจังหวัด ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดกำหนด โดยก่อนเลือก ผู้อำนวยการเลือกระดับจังหวัดจะนำบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอของแต่ละกลุ่มมาจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด (สว.จ. 8) และทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกในการลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันของแต่ละกลุ่ม (สว.จ. 13) จากนั้นจึงจัดการเลือก ดังนี้ รอบที่ 1.ลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน การรายงานตัว ผู้ได้รับเลือก ระดับอำเภอต้องมาถึงสถานที่เลือกและแสดงตนภายใน 09.00 น. ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันเวลาถือว่าหมดสิทธิเลือก และได้รับเลือกในกรณีที่กลุ่มใดมีผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอรวมกันครบทุกอำเภอแล้วไม่เกิน 5 คน หรือมีผู้มารายงานตัวในกำหนดเวลาไม่เกิน 5 คน ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอกลุ่มนั้นไม่ต้องลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน โดยให้ถือว่าผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอทุกคนซึ่งมารายงานตัวในกลุ่มนั้น เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นสำหรับกลุ่มนั้น
ย้ำผู้สมัครเลือกได้ไม่เกิน2คน
ส่วนการลงคะแนน เมื่อแต่ละกลุ่มรายงานตัวครบ หรือเมื่อพ้นระยะเวลา 09.00 น. ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดประชุมชี้แจงผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกิน 2 คน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใด เกิน 1 คะแนนมิได้ ในการนับคะแนน ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 5 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม รวมถึงกลุ่มที่มีผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอหรือผู้มารายงานตัวไม่เกิน 5 คน ให้เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มนั้น กรณีกลุ่มใดมีผู้ได้รับคะแนนเท่ากันจนเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกิน 5 คน ให้ผู้ได้คะแนนเท่ากันจับสลากกันเอง เพื่อหาผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มนั้น กรณีกลุ่มใดมีผู้ได้คะแนนไม่ถึง 5 คน ให้เฉพาะผู้ซึ่งได้คะแนนเป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มนั้น การดำเนินการแบ่งสายและการจับสลากเพื่อแบ่งสาย ให้ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของแต่ละกลุ่ม ส่งตัวแทนเพื่อจับสลากแบ่งสาย จำนวนไม่เกิน 4 สาย สายละ3-5กลุ่ม
สำหรับรอบที่ 2 การลงคะแนนเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน การลงคะแนน ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของแต่ละกลุ่ม มีสิทธิลงคะแนนให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอในกลุ่มอื่นแต่ละกลุ่มที่อยู่ในสายเดียวกันได้กลุ่มละ 1 คน โดยจะลงคะแนนให้ผู้สมัครในกลุ่มเดียวกันหรือเลือกตนเองมิได้ การนับคะแนน ให้ผู้ได้คะแนนสูงสุด 2 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดในกลุ่มนั้น กรณีกลุ่มใดมีผู้ได้รับคะแนนเท่ากันจนเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกิน 2 คน ให้ผู้ที่ได้คะแนนเท่ากันดำเนินการจับสลากกันเอง เพื่อให้ได้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดในกลุ่มนั้น กรณีกลุ่มใดมีผู้ได้คะแนนไม่ถึง 2 คน ให้เฉพาะผู้ซึ่งได้คะแนนเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัด เมื่อเสร็จกระบวนการ ให้ผอ.การเลือกระดับจังหวัดประกาศบัญชีรายชื่อ ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัด พร้อมจัดส่งให้ผอ.การเลือกระดับประเทศ ปิดประกาศที่ศาลากลางจังหวัด และเผยแพร่ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี