อ่านละเอียด!!อัยการสั่งอง"ทักษิณ"หมิ่นเบื้องสูง ผิดพ.ร.บ.คอมฯ ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ศาลนัดตรวจหลักฐาน 19 สิงหาคม ก่อนศาลให้ประกันตัวไปในราคา 5 แสนบาท ชี้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อายุมาก ไม่คิดหลบหนี ห้ามเดินทางออกนอกยึดพาสปอร์ต ขณะที่ทนายความ อ้างเหตุทักษิณไม่ปรากฏตัวพบสื่อ ต้องทานข้าว-ยา และติดภารกิจต่อ ยันจากนี้ไปต้องเดินทางมาฟังด้วยตัวเองทุกนัด ไม่เคยทำหนังสือขอความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกฯ ได้ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้า คดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นสถาบันฯว่า
ตามที่งานโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ว่านายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้องพ.ต.ท.หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 8 เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น
วันนี้เวลา 08.56 น. นายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีได้ส่งฟ้อง พ.ต.ท.หรือนายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ตามข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้นเรียบร้อยแล้ว โดยศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567
นายประยุทธ กล่าวว่า กฎหมายและแนวทางปฏิบัติเมื่อชั้นพนักงานอัยการ ผู้ต้องหาไม่ว่าจะเป็นรายใด ได้รับการปล่อยชั่วคราว สัญญาประกันนั้นจะมีอยู่ตลอดเวลาจนกว่าศาลจะได้รับตัวต่อจากพนักงานอัยการ เมื่อฟ้องส่งตัว นั่นก็คือการประทับรับฟ้องเมื่อศาลประทับรับฟ้องฐานะของผู้ต้องหาก็จะเป็นจำเลย
ตามขั้นตอนของกฎหมาย วันนี้นายประกันหรือผู้ประกันตัวของนายทักษิณ ได้มารายงานตัวกับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีคือสำนักงานอัยการพิเศษ8 แล้ว เมื่อศาลทได้ประทับฟ้องและออกหมายเลขตามแล้ว หมายความว่า ณ เวลาที่อัยการยื่นคำฟ้องต่อศาลเป็นการฟ้องส่งตัวเรามีตัวผู้ต้องหาส่งให้กับศาล
เมื่อถามว่าผู้ต้องหาสามารถไปรอที่ศาลได้เลยใช่หรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า มีทั้ง 2 แนว เจ้าหน้าที่ของอัยการหรือพนักงานทำก็จะนำตัวไปศาล หรือสะดวกก็ไปรอที่ศาลได้ การทำอย่างนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขสำคัญของการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานอัยการ ถ้าตราบใดที่ศาลไม่ได้รับตัวไว้และประทับรับฟ้องถือว่าเขาอยู่ในเงื่อนเวลาเพื่อการปล่อยชั่วคราว แต่เงื่อนไขสำคัญของกฎหมายคือ ณ เวลายื่นคำฟ้องให้กับศาลต้องมีตัวผู้ต้องหา แนวปฏิบัติทั่วประเทศจะเป็นแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 มักจะไม่ได้รับการประกันตัว ดังนั้นกระบวนการของทางศาลจะประสานกับทาง ราชทัณฑ์ จึงเรียกว่าฟ้องเบิกตัว
ด้านนายนาเคนทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า กรณีที่ทางพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนายทักษิณ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นจำเลยนั้น เนื่องจากว่าในขณะเกิดเหตุในคดีนี้เมื่อประมาณปี 2558 พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ถูกถอดยศเพราะฉะนั้นในขณะที่กระทำผิดยังมียศนำหน้าคือพันตำรวจโท การที่ฟ้องคดีเพื่อให้รู้ว่าถูกตัวแน่นอนของผู้เต้องหาหรือจำเลยว่าเป็นผู้กระทำผิดในขณะเกิดเหตุก็จะต้องใส่ยศในขณะนั้นเข้าไปด้วย แต่การใส่ยศดังกล่าวไม่ได้มีผลกับการที่นายทักษิณจะกลับมามียศอีก เป็นการทำให้ถูกต้องกับช่วงเวลาเกิดเหตุเพียงเท่านั้น
เมื่อถามว่า นายทักษิณ มีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า เท่าที่ทราบจากการพูดคุยกับอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ยืนยันไม่มีการขอความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีอาญาหมายเลขดำอ.1860/2567แล้ว จากนั้นศาลได้สอบคำให้การนายทักษิณ จำเลยโดยศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้ พ.ต.ท.หรือนายทักษิณ จำเลยฟังจนเข้าใจแล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือ ปรากฏว่า นายทักษิณ จำเลย แถลงให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี
ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายวันที่ 19 สิงหาคม นี้เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายทักษิณเดินทางด้วยรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ธษ 267 จากบ้านย่านบางพลัด โดยมีรถในขบวน 3-4 คัน มาถึงศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลาประมาณ 08.50 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้นำนายทักษิณ เข้าห้องเวรชี้ 2 ด้านข้างศาลอาญาทันที โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เจ้าหน้าที่รปภ.ศาลอาญา ประมาณ 50 นาย คอยดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาล โดยไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่หวงห้ามโดยเด็ดขาด
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ กล่าวยืนยันว่า นายทักษิณไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่ได้ขอเลื่อนนัดในวันนี้ ส่วนเรื่องการยื่นประตัวได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล และไม่รู้สึกกังวลว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้แล้ว
ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ได้เดินทางมาที่ศาล และให้สัมภาษณ์ว่าตนเองได้ร่วมรับฟังคดีของนายทักษิณ ชินวัตร เบื้องต้นนายทักษิณ ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยมองว่าการกระทำไม่ได้มีการอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน โดยนายทักษิณ ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด และได้โบกมือให้กับตนเองกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาให้กำลังใจในวันนี้
ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด ขอปล่อยชั่วคราวนายทักษิณระหว่างพิจารณา
ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าจำเลยให้การปฏิเสธมาตลอด และจำเลยอายุมาก เมื่อได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนอยู่กับครอบครัว ประกอบกับโจทก์ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราวมีเหตุสมควรเชื่อว่าหากได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาจำเลยจะไม่หลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นหรือขัดขวางการพิจารณาของศาลจึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณาโดยให้ตีราคาหลักประกัน 5 แสนบาท กับให้จำเลยวางหนังสือเดินทางยึดหนังสือเดินทางและหลักประกันทำสัญญา ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลแจ้ง สตม.ทราบ
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ ภายหลังศาลให้ประกันวงเงิน 5 แสนบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามออกนอกประเทศว่า ในวันนี้ต้องขอบคุณศาลที่ได้พิจารณาคดีเรื่องประกันตัว โดยกำเงื่อนไขประกันให้ยึดหนังสือเดินทางของนายทักษิณไว้ หากต้องการออกนอกประเทศต้องขอเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นเงื่อนไขเดียวกับใครหลายคน แต่ขณะนี้นายทักษิณ ไม่ได้ใช้หนังสือเดินทางของไทยมานานแล้ว หลังจากนี้จะไปทำหนังสือเดินทางใหม่ เพื่อส่งมอบให้ศาล
สำหรับการนัดตรวจพยานหลักฐาน ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุพยานฝ่ายจำเลยได้ ต้องไปดูพยานในชั้นสอบสวนว่าเพียงพอหรือไม่ และในวันตรวจพยานหลักฐานนั้น ก็จะได้เห็นข้อชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงคลิปวีดีโอที่นำมาอ้างอิง
"ส่วนตัวมั่นใจ เจ้าหน้าที่ไม่ได้สอบสวนให้สิ้นกระแสความ ยังมีข้อไม่สมบูรณ์หลายประการที่เคยชี้ไว้ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาญาจักร ก็สามารถแสดงหาพยานหลักฐาน รวมถึงนักข่าวเกาหลีใต้ที่สัมภาษณ์นายทักษิณ ก็มีชื่อชัดเจน เหตุใดจึงไม่มีการเดินทางไปสอบปากคำด้วย
ส่วนกรณีที่นายแพทย์คนหนึ่งกล่าวอ้างถึงวงเงิน 2 พันล้านบาทถึงได้ประกันตัว นายวิญญัติ เชื่อว่า ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงและแสวงหาหลักฐาน ไม่ให้น้ำหนักข่าวลือหรือข่าวโคมลอย และขณะนี้อยู่ระหว่างการถอดเทปนายแพทย์คนดังกล่าว เพื่อยื่นฟ้องหลักหลายร้อยล้านบาทในสัปดาห์หน้า
ส่วนที่ทำไมวันนี้นายทักษิณไม่ปรากฏตัว เป็นการหลบเลี่ยงสื่อหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า นายทักษิณใช้เวลาอยู่ที่ศาลเป็นเวลานาน และมีภารกิจต่อ รวมถึงติดช่วงเที่ยงอาจต้องทานอาหารและยา ไม่ได้เจตนาจะหลบเลี่ยง พร้อมเข้าสู่กระบวนการอยู่แล้ว ไม่พร้อมวันนี้คงไม่มา และวันนี้นายทักษิณไม่ได้มีอาการเครียดใดๆ พร้อมฝากขอบคุณมวลชนที่มาให้กำลังใจและให้ความสนใจ มั่นใจจะได้รับความยุติธรรม และคดีนี้ไม่มีการกำหนดรายงานตัวระหว่างปล่อยชั่วคราว แต่เป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุก 10 ปีขึ้นไป ไม่สามารถพิจารณาลับหลังได้ นั่นหมายความว่า นายทักษิณต้องเดินทางมาด้วยตัวเองในนัดต่อๆไป " ทนายความกล่าว
นายวิญญัติ กล่าวยืนยันด้วยว่า ไม่ได้มีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมรอบสองตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้นั่นคือ ข่าวไม่จริง แต่มีเพียงการยื่นคำชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดการสอบสวนเพิ่มเติมเท่านั้น
กระทั่งเวลา 12.15 น.นายทักษิณ ก็ได้รับการปล่อยตัว แล้วเดินทางกลับทันที.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี