ศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ยึดพาสปอร์ต‘แม้ว’
สกัดเผ่นหนีคดีมาตรา112
วางหลักทรัพย์5แสนรอดคุก
เปิดคำฟ้องอัยการมัดจำเลย
กระทำระคายเคืองเบื้องสูง
เปิดคำฟ้องคดี ม.112 ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ อัยการมัด“ทักษิณ ชินวัตร”กระทำระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ร.9 เจ้าตัวปฏิเสธ สู้คดีศาลนัดตรวจหลักฐาน 19 สิงหาคม ให้ประกันตัว 5 แสน ชี้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อายุมาก ไม่คิดหลบหนี ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ยึดพาสปอร์ต รอดนอนคุก ขณะที่ทนายความจ่อฟ้อง“หมอวรงค์”เรียกหลายร้อยล้าน ปูดข่าวถุงขนมภาคสอง 2 พันล้าน แจงเหตุไม่พบสื่อ ต้องทานข้าว-ยาและติดภารกิจต่อ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกฯ ได้ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้า คดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นสถาบันฯว่า
ตามที่งานโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ว่านายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้องพ.ต.ท.หรือนายทักษิณ ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 8 เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น
ส่งฟ้อง”ทักษิณ”เรียบร้อยแล้ว
เวลา 08.56 น. นายวิพุธ บุญประสาท อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีได้ส่งฟ้อง พ.ต.ท.หรือนายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ตามข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้นเรียบร้อยแล้ว โดยศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567
นายประยุทธ กล่าวว่ากฎหมายและแนวทางปฏิบัติเมื่อชั้นพนักงานอัยการ ผู้ต้องหาไม่ว่าจะเป็นรายใด ได้รับการปล่อยชั่วคราว สัญญาประกันนั้นจะมีอยู่ตลอดเวลาจนกว่าศาลจะได้รับตัวต่อจากพนักงานอัยการ เมื่อฟ้องส่งตัว นั่นก็คือการประทับรับฟ้องเมื่อศาลประทับรับฟ้องฐานะของผู้ต้องหาก็จะเป็นจำเลย
ตามขั้นตอนของกฎหมาย วันนี้นายประกันหรือผู้ประกันตัวของนายทักษิณ ได้มารายงานตัวกับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีคือสำนักงานอัยการพิเศษ8 แล้ว เมื่อศาลได้ประทับฟ้องและออกหมายเลขตามแล้ว หมายความว่า ณ เวลาที่อัยการยื่นคำฟ้องต่อศาลเป็นการฟ้องส่งตัวเรามีตัวผู้ต้องหาส่งให้กับศาล
เมื่อถามว่าผู้ต้องหาสามารถไปรอที่ศาลได้เลยใช่หรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า มีทั้ง 2 แนว เจ้าหน้าที่ของอัยการหรือพนักงานทำก็จะนำตัวไปศาล หรือสะดวกก็ไปรอที่ศาลได้ การทำอย่างนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขสำคัญของการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานอัยการ ถ้าตราบใดที่ศาลไม่ได้รับตัวไว้และประทับรับฟ้องถือว่าเขาอยู่ในเงื่อนเวลาเพื่อการปล่อยชั่วคราว แต่เงื่อนไขสำคัญของกฎหมายคือ ณ เวลายื่นคำฟ้องให้กับศาลต้องมีตัวผู้ต้องหา แนวปฏิบัติทั่วประเทศจะเป็นแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 มักจะไม่ได้รับการประกันตัว ดังนั้นกระบวนการของทางศาลจะประสานกับทาง ราชทัณฑ์ จึงเรียกว่าฟ้องเบิกตัว
ด้านนายนาเคนทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า กรณีที่ทางพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนายทักษิณ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นจำเลยนั้น เนื่องจากว่าในขณะเกิดเหตุในคดีนี้เมื่อประมาณปี 2558 พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ถูกถอดยศเพราะฉะนั้นในขณะที่กระทำผิดยังมียศนำหน้าคือพันตำรวจโท การที่ฟ้องคดีเพื่อให้รู้ว่าถูกตัวแน่นอนของผู้เต้องหาหรือจำเลยว่าเป็นผู้กระทำผิดในขณะเกิดเหตุก็จะต้องใส่ยศในขณะนั้นเข้าไปด้วย แต่การใส่ยศดังกล่าวไม่ได้มีผลกับการที่นายทักษิณจะกลับมามียศอีก เป็นการทำให้ถูกต้องกับช่วงเวลาเกิดเหตุเพียงเท่านั้น
เมื่อถามว่า นายทักษิณ มีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า เท่าที่ทราบจากการพูดคุยกับอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ยืนยันไม่มีการขอความเป็นธรรม
สอบจำเลยให้การปฎิเสธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีอาญาหมายเลขดำอ.1860/2567แล้ว จากนั้นศาลได้สอบคำให้การนายทักษิณ จำเลย โดยศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้ พ.ต.ท.หรือนายทักษิณ จำเลยฟังจนเข้าใจแล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือ ปรากฏว่า นายทักษิณ จำเลย แถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี
ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายวันที่ 19 สิงหาคม นี้เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายทักษิณ เดินทางด้วยรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ธษ 267 จากบ้านย่านบางพลัด โดยมีรถในขบวน 3-4 คัน มาถึงศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา ประมาณ 08.50 น. จากนั้น เจ้าหน้าที่ ได้นำนายทักษิณ เข้าห้องเวรชี้ 2 ด้านข้างศาลอาญาทันที
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เจ้าหน้าที่รปภ.ศาลอาญา ประมาณ 50 นาย คอยดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาล โดยไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่หวงห้ามโดยเด็ดขาด
วาง5แสนได้ประกันตัว
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณกล่าวยืนยันว่านายทักษิณไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่ได้ขอเลื่อนนัดในวันนี้ ส่วนเรื่องการยื่นประตัวได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล และไม่รู้สึกกังวลว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้แล้ว ต่อมา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด ขอปล่อยชั่วคราวนายทักษิณ ระหว่างพิจารณา
ยึดพาสปอร์ต/ห้ามไปนอก
ต่อมา ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าจำเลยให้การปฏิเสธมาตลอดและจำเลยอายุมาก เมื่อได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนอยู่กับครอบครัว ประกอบกับโจทก์ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราวมีเหตุสมควรเชื่อว่าหากได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาจำเลยจะไม่หลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นหรือขัดขวางการพิจารณาของศาล จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณาโดยให้ตีราคาหลักประกัน 5 แสนบาท กับให้จำเลยวางหนังสือเดินทางยึดหนังสือเดินทางและหลักประกันทำสัญญา ห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลแจ้ง สตม.ทราบ
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ ภายหลังศาลให้ประกันวงเงิน 5 แสนบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามออกนอกประเทศว่า ในวันนี้ต้องขอบคุณศาลที่ได้พิจารณาคดีเรื่องประกันตัว โดยกำเงื่อนไขประกัน ให้ยึดหนังสือเดินทางของนายทักษิณไว้ หากต้องการออกนอกประเทศต้องขอเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นเงื่อนไขเดียวกับใครหลายคน แต่ขณะนี้นายทักษิณ ไม่ได้ใช้หนังสือเดินทางของไทยมานานแล้ว หลังจากนี้จะไปทำหนังสือเดินทางใหม่ เพื่อส่งมอบให้ศาล สำหรับการนัดตรวจพยานหลักฐาน ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุพยานฝ่ายจำเลยได้ ต้องไปดูพยานในชั้นสอบสวนว่าเพียงพอหรือไม่ และในวันตรวจพยานหลักฐานนั้น ก็จะได้เห็นข้อชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงคลิปวีดีโอที่นำมาอ้างอิง
“ส่วนตัวมั่นใจ เจ้าหน้าที่ไม่ได้สอบสวนให้สิ้นกระแสความ ยังมีข้อไม่สมบูรณ์หลายประการที่เคยชี้ไว้ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาญาจักร ก็สามารถแสดงหาพยานหลักฐาน รวมถึงนักข่าวเกาหลีใต้ที่สัมภาษณ์นายทักษิณ ก็มีชื่อชัดเจน เหตุใดจึงไม่มีการเดินทางไปสอบปากคำด้วย
ส่วนกรณีที่นายแพทย์คนหนึ่งกล่าวอ้างถึงวงเงิน 2 พันล้านบาทถึงได้ประกันตัว นายวิญญัติ เชื่อว่า ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงและแสวงหาหลักฐาน ไม่ให้น้ำหนักข่าวลือหรือข่าวโคมลอย และขณะนี้อยู่ระหว่างการถอดเทปนายแพทย์คนดังกล่าว เพื่อยื่นฟ้องหลักหลายร้อยล้านบาทในสัปดาห์หน้า
ยัน”ทักษิณ”ไม่ได้เครียด
ส่วนที่ทำไมวันนี้นายทักษิณไม่ปรากฏตัว เป็นการหลบเลี่ยงสื่อหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า นายทักษิณใช้เวลาอยู่ที่ศาลเป็นเวลานาน และมีภารกิจต่อ รวมถึงติดช่วงเที่ยงอาจต้องทานอาหารและยา ไม่ได้เจตนาจะหลบเลี่ยง พร้อมเข้าสู่กระบวนการอยู่แล้ว ไม่พร้อมวันนี้คงไม่มา และวันนี้นายทักษิณไม่ได้มีอาการเครียดใดๆ พร้อมฝากขอบคุณมวลชนที่มาให้กำลังใจและให้ความสนใจ มั่นใจจะได้รับความยุติธรรม และคดีนี้ไม่มีการกำหนดรายงานตัวระหว่างปล่อยชั่วคราว แต่เป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุก 10 ปีขึ้นไป ไม่สามารถพิจารณาลับหลังได้ นั่นหมายความว่า นายทักษิณต้องเดินทางมาด้วยตัวเองในนัดต่อๆไป “ ทนายความกล่าว
นายวิญญัติ กล่าวยืนยันด้วยว่า ไม่ได้มีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมรอบสองตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้นั่นคือ ข่าวไม่จริง แต่มีเพียงการยื่นคำชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดการสอบสวนเพิ่มเติมเท่านั้น
กระทั่งเวลา 12.15 น.นายทักษิณ ก็ได้รับการปล่อยตัว แล้วเดินทางกลับทันที
ด้าน นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ได้เดินทางมาที่ศาล กล่าวว่าและให้สัมภาษณ์ว่าตนเองได้ร่วมรับฟังคดีของนายทักษิณ เบื้องต้นนายทักษิณ ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยนายทักษิณ ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด และได้โบกมือให้กับตนเองกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาให้กำลังใจในวันนี้
เปิดคำฟ้อง”ทักษิณ” ม.112
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าสำหรับคำฟ้องที่อัยการฟ้องนายทักษิณ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน มายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา
โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ขณะเกิดเหตุในคดีนี้และในปัจจุบันประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดหรือจะกล่าวหาหรือจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้ ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย โดยพระมหากษัตริย์ขณะเกิดเหตุคดีนี้คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ส่วนพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบันคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล 10 เมื่อระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.2558 เวลากลางวัน, ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา ด้วยการร่วมกันใช้อุปกรณ์ที่มีระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์อื่นด้วยกันได้
และอุปกรณ์ดังกล่าวได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ แล้วโพสต์ข้อมูล ภาพ ข้อความ และตัวอักษร ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ซึ่งตั้งค่าเปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ลงในแอปพลิเคชั่น YouTube กับแอปพลิเคชั่น Facebook ดังกล่าวผ่านระบบสัญญานอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
เผยทักษิณกระทำละเมิด
โดยจำเลยได้พูดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่ 20 พ.ค.โดยสำนักข่าว Chosun Media มีเว็ปไซต์ข่าว Ur:http//www.Chosun เพื่อใช้ในการเผยแพร่ข่าว และจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันนำคลิปวิดีโอถ้อยคำ การพูดให้สัมภาษณ์ของจำเลยในชื่อ ” คลิป ทักษิณให้สัมภาษณ์ทิ้งบอม เบื้องหลัง ยืดอำนาจ อัดสุเทพ บิ๊กทหาร องคมนตรี “เผยแพร่ที่เว็บไซต์ YouTube โดยใช้ชื่อ unthttps:// www.youtube.com/watch?v=tar/yCmbvABgo โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า “news_vivความยาว 1.32นาที และเผยแพร่ที่เว็บไซต์ facebook ชื่อบัญชี “หยุดดัดจริตประเทศไทย” ปรากฏตาม ur!: https://www.focebook.com/ stopfakethailand 2fref=ts
อันเป็นการล่วงละเมิด หมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อมูล ข้อความ และตัวอักษรที่จำเลยได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีดังกล่าวเข้าใจว่าสื่อถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และเข้าใจว่าการยึดอำนาจ รัฐประหารเป็นเรื่องที่ทหารได้รับคำสั่งมาจากในวังพระมหากษัตริย์ออกมาช่วยในการทำรัฐประหารและอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร
ทั้งนี้ ราชอาณาจักรไทยมีการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ข้อความดังกล่าวเป็นการมุ่งทำลาย ดูหมิ่นด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อองค์พระมหากษัตริย์ด้วยความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทยเป็นเหตุให้พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียงและเป็นการร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ และเป็นการกระทำมิบังควรจาบจ้วงล่วงเกินดูหมิ่น หรือกระทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 โดยประการที่น่าจะทำให้พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสีย พระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และทำให้ประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายเหตุเกิดที่ เมืองกรุงโซล สาธารณรัฐกาหลี และที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครและทั่วราชอาณาจักร ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน.
คดี”แม้ว”ไม่กระทบรัฐบาล
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ผยว่าคดีนายทักษิณ ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าไปเชื่อข่าวลือ เพราะข่าวลือ ส่วนใหญ่เป็นข่าวที่น่าเชื่อถือไม่ค่อยได้ เพราะเป็นเจตนาที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เป็นสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งอยากให้มีการแก้ไขตรงนี้ให้มากขึ้น
“อย่าทำเลย ประเทศกำลังหนักแล้ว ประเทศยังต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เพียงแค่คนไม่กี่คน ที่อยากมีอำนาจ ก็ควรจะใช้วิธีอื่น อย่าใช้วิธีที่ทำให้ประเทศพังทลายไปมากกว่านี้ สงสารประเทศ สงสารประชาชน ไม่ทราบว่าคนที่ปล่อยข่าวลือหวังผลอะไร แต่ตอนนี้ประเทศเสียหายมาก ก็ได้ขอร้องว่าอย่าทำ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่าคดีนายทักษิณ คงไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี