‘เศรษฐา’โต้ลงพื้นที่ได้ปริมาณแต่ไร้คุณภาพ
‘รำคาญ-ไม่เอามารกหู’
โอดไปตปท./ตจว.ก็โดนว่า
มองเป็นแค่เรื่องการเมือง
นัดแถลงใหญ่ปลายเดือนนี้
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
“เศรษฐา” โต้เสียงวิจารณ์ลงพื้นที่เยอะได้ปริมาณแต่ไม่ได้คุณภาพ บอกถ้าไม่ลงพื้นที่ก็ไม่ทราบปัญหามองเป็นเรื่องการเมือง ไม่เอามารกหู ยอมรับรำคาญบ้าง ระบุใช้เวลาวันหยุดไม่เสียเวลาบริหารราชการแผ่นดินส่วนวันเสาร์-อาทิตย์นี้ มีโปรแกรมลุยงานที่ ชลบุรี-ระยอง ติดตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่อีอีซี พร้อมดูพื้นที่สร้างสนามแข่ง F1ใกล้สนามบินอู่ตะเภา เผยเตรียมแถลงใหญ่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ยอมรับยังต้องหารือ‘ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ’ปรับกรอบเงินเฟ้อ ส่วนมาตรการช่วยเหลือและตรึงราคาน้ำมันดีเซลต้องไปคุยกับกระทรวงพลังงานก่อน
เมื่อเวลา 10.18 น.วันที่ 21 มิถุนายน 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพูดคุยกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการพูดคุยเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า เมื่อคืนคุยกันไปหลายเรื่อง นั่งทานข้าวกันถึงดึก ปรึกษาปัญหาเรื่องตลาดหลักทรัพย์ และเรื่องอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งเข้าใจว่าในวันที่ 24 หรือ 25 มิ.ย.นี้ จะมีการแถลงใหญ่ถึงมาตรการระยะสั้นกลางและยาว เมื่อถามว่าจะแถลงเป็นไทม์ไลน์ ซึ่งถือเป็นข่าวดีใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็เดี๋ยวคอยฟังดีกว่า ตนไม่อยากไปก้าวล่วงตรงนั้น แต่เมื่อคืนนี้ เรามีการคุยกันเยอะ
จ่อคุย‘ผู้ว่าฯธปท.’ปรับกรอบเงินเฟ้อ
เมื่อถามต่อว่า นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ระบุไม่เห็นด้วยกับการปรับกรอบเงินเฟ้อ ตรงนี้รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายกฯ ตอบว่า ก็ต้องพูดคุยกันต่อไป เป็นหน้าที่ของนายพิชัย
เมื่อถามย้ำว่าแต่ทางรัฐบาลยังเห็นการปรับกรอบเงินเฟ้อยังเป็นแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นอีกหนึ่งในหลายแนวทางที่เราสามารถพูดคุยกันได้ ท่านคุยกับสื่อต่างประเทศอย่างเดียวเลยหรือ ไม่คุยกับสื่อไทยเลยหรือ ก่อนจะหันมายิ้มกับผู้สื่อข่าว
เมื่อถามต่อว่าสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศเตรียมระดมพลผู้ประกอบการรถบรรทุกจัดคาราวานเพื่อนขบวนรถบรรทุกทุกภูมิภาค เข้า กทม.ในวันที่ 3 ก.ค. หลังจากที่ยื่นหนังสือถึงนายกฯ แล้วไม่ได้รับการตอบรับ ตรงนี้จะมีมาตรการช่วยเหลือและตรึงราคาน้ำมันดีเซลอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องไปพูดคุยกับกระทรวงพลังงานก่อน
โต้ข้อครหาลงพื้นที่ถี่แต่ไร้คุณภาพ
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เยอะจนถูกข้อครหาว่าได้แต่ปริมาณไม่ได้คุณภาพว่า จากการที่ตนได้ลงหลายพื้นที่จะใช้เวลาวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด ฉะนั้นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินเชื่อว่าไม่ได้เสียเวลาตรงนี้ ตนไปต่างประเทศบ่อยก็ว่า ไปต่างจังหวัดดูแลปัญหาพี่น้องประชาชนก็ว่า อย่างกรณีที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งต่อไปที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้ถือโอกาสเดินทางไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 มิ.ย. และต่อเนื่องไปวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร ทัวร์ตั้งแต่อีสานไล่ลงมา เพราะถ้าเราไม่ลงก็ไม่ทราบปัญหาจริงๆ
“ตรงนี้ก็คงเป็นเรื่องการเมืองมากกว่ามั้ง ผมไม่อยากเอามารกหู เรามีหน้าที่ต้องทำก็ทำไป” นายเศรษฐาย้ำ
ยอมรับรำคาญเสียงค่อนแคะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงค่อนแคะเหล่านี้ เป็นที่น่ารำคาญของนายกฯ หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวยอมรับว่า ก็บอกตรงๆ ก็ต้องรำคาญบ้างเป็นธรรมดา แต่ตนแน่วแน่ในหลักของการทำงานอยู่แล้ว ตนก็คนๆ หนึ่งเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เมื่อถามว่า ไปสอดคล้องกับผลโพลที่พบว่าการลงพื้นที่ไม่มีคุณภาพ นายกฯ กล่าวว่า ตรงนี้ก็มีสาระอันหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่ทุกอย่างเป็นเรื่องที่น่ารำคาญหรือรกหูอย่างเดียว เราก็ต้องมานั่งดู อย่างเช่น มีเสียงออกมาว่าลงพื้นที่ถี่ไปไม่ลึกพอ อาจจะลงจังหวัดหนึ่งหลายจุดเกินไป ซึ่งในพรรคเพื่อไทย ก็มีการคุยกันว่าตนควรจะลงในระยะเวลาเท่าเดิม แต่จำนวนอาจจะเหลือจาก 4 จุดเหลือ 2 จุด เพื่อที่จะลงลึกพูดคุยปัญหาได้เยอะ ซึ่งตรงนี้ตนก็รับฟัง ไม่ใช่ทุกเรื่องเป็นที่น่ารำคาญหรือไม่รับฟัง
ลุยงานวันหยุดลงพื้นที่ชลบุรี-ระยอง
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่า วันที่ 22 มิ.ย.ลงพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อติดตามการท่องเที่ยว จากนั้นวันที่ 23 มิ.ย. มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.ชลบุรี และระยองโดยเวลา 10.45 น.นายกฯเดินทางถึงสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อพูดคุยหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จากนั้นเวลา 10.45 นายกฯ จะได้พูดคุยหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ขณะที่เวลา 14.00 น. นายกฯ พร้อมคณะ ศึกษาดูเส้นทางการแข่งขัน F1 ที่บริเวณเขาพระตำหนัก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนที่ในช่วงเย็นเดินทางไปยัง ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อติดตามและเร่งรัดการสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานการลงพื้นที่ศึกษาดูเส้นทางการแข่งขัน F1 สืบเนื่องจากช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ เดินทางไปกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี เยี่ยมชมสนามแข่งรถ Autodromo Enzo e Dino Ferrari ที่เมืองโบโลญญา พร้อมพบกับผู้บริหารสนาม โดยทางรัฐบาลต้องการจัดให้มีการแข่งขัน Formula1 ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวจึงจะใช้ที่ดินบริเวณอู่ตะเภาในการสร้างสนามแข่งขันด้วย
“อนุทิน”ถกเตรียมพร้อม ครม.สัญจร
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยเปิดประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการหรือครม.สัญจร ระหว่างวันที่ 1-2 ก.ค.นี้
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในพื้นที่ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างหรือที่เรียกกันว่า นครชัยบุรินทร์ ถือเป็นประตูสู่ภาคอีสาน เป็นด่านแรกที่ผู้คนจะ เดินทางเข้าไปในภาคอีสานจะต้องผ่าน จึงต้องเน้นในเรื่องของ เอกลักษณ์ความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เชิงเกษตรกรรม ระบบโลจิสติกส์คมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยว เศรษฐกิจในทุกระดับ เพราะพื้นที่อีสาน มีลักษณะครบวงจร ทั้งอุตสาหกรรมขนาดย่อมขนาดใหญ่ และเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นชายแดน และเป็น connectivity ของการเชื่อมโยง การคมนาคมขนส่ง จากประเทศของเรา ทั้งเป็นการค้าโดยตรงการค้าต่างแดน การขนส่งสินค้าจากประเทศ อินโดจีน ประเทศจีนลงไปถึงประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ ซึ่งถ้าเราสามารถ ทำให้ความเจริญทางเศรษฐกิจทั้งหลายอยู่ในภาคอีสานได้ ตลอดจนการขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ ก็น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี
นายอนุทิน กล่าวว่า การที่จะไปประชุมคณะรัฐมนตรีที่นครราชสีมาครั้งนี้ ไม่ได้ไปที่โคราชกันมานานมากแล้ว จึงน่าจะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น จะได้นำเสนอประเด็นวาระตลอดจนคำแนะนำการ แก้ไขปัญหาต่างๆ ของพื้นที่ที่มีอยู่ และสนับสนุนเรื่องการพัฒนา จังหวัด ซึ่งส่วนตัวและกระทรวงมหาดไทยยินดีพร้อมสนับสนุนภารกิจ
จัดงบให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับการประชุมวันนี้ (21 มิ.ย.) เป็นเรื่องเดียวคือการพิจารณาโครงการที่จะเสนอใช้งบกลาง ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 2 กรกฎาคม ธีมที่จะใช้ประชุมคือ ประตูสู่ภาคอีสาน ศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวอารยธรรม และ เกษตรมูลค่าสูง ทั้งนี้ จะผลักดัน 4 ด้านสำคัญ คือ เชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจชุมชนกับโครงข่ายคมนาคมหลัก รวมไปถึงยกระดับการท่องเที่ยวสู่การเป็นจุดหมายในระดับสากล อีกทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตและเศรษฐกิจชีวภาพ เรื่องการพัฒนาชีวิตและแก้ปัญหาความยากจน
นายอนุทินให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การประชุมวันนี้ได้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามปกติเมื่อมีการประชุมครม.นอกสถานที่ ก็จะมีการแบ่งลงพื้นที่ของบรรดารัฐมนตรีทั้ง 4 จังหวัด โดยไม่ได้มีการแบ่งเป็นพรรคแต่ทำเพื่อประชาชนส่วนรวม และจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการต่อยอด เป็นแบบ Quick win ให้เกิดประโยชน์กับพื้นที่สูงสุดให้กับชาวบ้าน ซึ่งคาดว่าจะมีเงินสะพัดในกลุ่มจังหวัดกว่า 200 ล้านบาท ส่วนใหญ่ก็เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ เช่นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาเรื่องการศึกษา สร้างศูนย์อาหารมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
‘ยิ่งลักษณ์’โฟนอินรับพรวันเกิดครบ57ปี
วันเดียวกัน ที่วัดสระเกศราชวรวิหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติๆ ทีมงาน นักการเมือง และคนใกล้ชิดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เช่น นางปณิตา ชินวัตร นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด และนายพิชิต ชื่นบาน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ ที่ปรึกษารมช.คมนาคม นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภา กทม. นายวิพุธ ศรีวะอุไร รองประธานสภา กทม. เป็นตัวแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร่วมทำบุญถวายผ้าไตร จีวร สังฆทาน และภัตตาหารเพล แก่พระสงฆ์จำนวน 9 รูปเนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 57 แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยมีญาติๆ ทีมงาน นักการเมือง และคนใกล้ชิด เป็นตัวแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร่วมทำบุญ ถวายผ้าไตร จีวร สังฆทาน และภัตตาหารเพล แก่พระสงฆ์ 9 รูป เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 57 ปี
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ต่อสายโทรศัพท์มาในงาน นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงเปิดลำโพงให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับพรจากพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งได้อวยพร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า “ขอให้นายกฯ ปู มีความสุข ความเจริญ และมีโอกาสจะได้เจอกันที่ประเทศไทย”
“อุ๊งอิ๊ง”อยากให้กลับมาอยู่ใกล้กัน
ทางด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพที่ถ่ายร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และลูกๆ ทั้ง 2 คนคือ น้องธิธาร และน้องธาษิณ เมื่อครั้งเดินทางไปพบกัน และยังมีภาพกับลูกชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ นายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ ลงในอินสตาแกรม พร้อมระบุข้อความว่า “Happy birthday ยายปูที่รักของหลานๆ ขอให้ยายปูสุขภาพแข็งแรง มีความสุขมากๆ นะคะ แล้วจะพาหลานไปหาอีกค่ะ ถ้าให้ดีที่สุด อยากให้ยายปูได้กลับมาอยู่ใกล้ๆ กันค่ะ we love you xo” จากนั้น ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยอวยพรให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี