สารภาพจับคนโกงเลือกสว.ยาก
กกต.หมดท่า!
คนทำมีอำนาจ-เงิน-ความรู้
พบร้องเรียน3กลุ่ม333เรื่อง
ประธานกกต.ยอมรับมีล็อบบี้
อ้างเป็นเรื่องธรรมดาไม่ผิดก.ม.
“เลขาฯกกต.”อบรมเจ้าหน้าที่-กก.ประจำสถานที่เลือก สว.ระดับประเทศ ย้ำต้องแม่นก.ม.-บริหารเวลาให้ดี อย่าปล่อยให้ประท้วงทำให้ช้า รับจัดการเรื่องผิดก.ม.ไม่ง่าย
เพราะผู้ทำมีควารู้-มีอำนาจ-มีทุน ยันเลือกสว.ต้องได้ 200 คน ตามไทม์ไลน์ สรุปเรื่องร้องเรียนมี 3 กลุ่ม “คุณสมบัติไม่ตรง – การดำเนินการเลือก- เลือกไม่สุจริต” รวม 333 เรื่อง “ประธาน กกต.” เตือนเจ้าหน้าที่นับคะแนนช้าๆ ขานชัดๆ มองผู้สมัครรวมตัวพักโรงแรมใกล้สถานที่เลือกเป็นเรื่องปกติเพราะสะดวกเดินทาง แต่สั่งสายข่าวจับตาผู้สมัครที่น่าสงสัย
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมอบรมคณะกรรมการประจำสถานที่เลือก (กปล.) สว.ระดับประเทศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยประจำสถานที่คัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ ในการปฏิบัติงานการคัดเลือก สว. ระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายนนี้
ย้ำจนท.ต้องแม่นกฎหมาย
โดยนายแสวงกล่าวหลังมอบนโยบายว่า เราผ่านมาสองสนามทั้งการเลือกระดับอำเภอ และระดับจังหวัด การเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน กปล.จะใช้ส่วนผสมระหว่างส่วนกลางกับจังหวัด คิดว่าด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาจากการเลือกทั้งสองครั้ง จะทำให้การเลือกในระดับประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คำร้องที่เกี่ยวกับการเลือกระดับอำเภอวันที่ 9 มิถุนายน และระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายนมี 39 เรื่อง ซึ่งถือว่ามีจำนวนไม่มาก ส่วนระดับประเทศได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่าต้องแม่นในข้อกฎหมาย และต้องบริหารเวลา อย่าให้ช้าหนึ่งกลุ่มแล้วเสียเวลาไปทุกกลุ่ม และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อผู้สมัครด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ส่วนกรณีเกิดปัญหาให้ชี้แจงสิทธิของผู้สมัครว่าสามารถเขียนคำทักท้วงได้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้ใช้คำวินิจฉัย และให้สิทธิผู้สมัครไปดำเนินการ จะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่ที่เขาจะสะดวก
อย่าปล่อยประท้วง-เน้นบริหารเวลา
“การเลือกระดับประเทศ กปล.ต้องบริหารเวลา อย่าให้ผู้สมัครประท้วง ถ้าเกิดปัญหาให้กปล.ชี้แจง และให้ผู้สมัครที่ไม่เห็นด้วยเขียนแบบฟอร์มทักท้วง อย่าปล่อยให้ต่อล้อต่อเถียงจนให้คนอื่นเสียเวลา ผู้ทักท้วงจะไปใช้สิทธิที่ไหนก็ได้ แต่อย่ามาใช้ในเวทีนี้เพื่อประโยชน์อะไรผมไม่รู้ คุณสามารถรักษาสิทธิของคุณได้ แต่ต้องไม่ทำให้คนอื่นเสียเวลา” นายแสวง กล่าว
ย้ำต้องได้สว.ครบ200ตามไทม์ไลน์
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีข้อกังวลเรื่องการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการล้มการคัดเลือกสว.หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ไม่ได้กังวล แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบกระบวนการ ต้องรักษากระบวนการการเลือก สว.ไว้ นั่นคือการรักษาเป้าหมายให้ได้สว.ครบ 200 คน ตามระยะเวลาที่กำหนด ถ้ากระบวนการมีปัญหาอาจมีคนนำไปร้องให้การเลือกเป็นโมฆะ จึงต้องพยายามบริหารสถานการณ์ ปิดช่องว่างเหล่านี้ให้ผู้ปฏิบัติงานรับทราบว่าเรากำลังอยู่ตรงไหนทำหน้าที่อะไร เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสบายใจในการทำงาน
รับจับโกงยากคนทำมีทุน-อำนาจ
นายแสวงยังกล่าวถึงข่าวที่กกต.พบความเคลื่อนไหวทุจริตเลือกสว. 4 รูปแบบว่า เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ที่ไม่ง่ายอย่างที่เราเคยได้ยิน White Collar Crime หรืออาชญากรรมคอปกขาวคือ ผู้กระทำเป็นผู้ที่มีความรู้ มีอำนาจ มีทุน ยิ่งถ้าเป็นการเมืองก็จะมีเครือข่ายมีผู้สนับสนุน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองอยู่แล้ว และเชื่อว่ามีอยู่ทุกประเทศ ซึ่งข้อมูลที่เรารับมามีทั้งเป็นเบาะแส เรื่องเล่า เรื่องคนนำมาร้อง อย่างเรื่องรับจ้าง หรือจ้างคนลงมาสมัคร ให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เป็นความผิดทั้งนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงแรกๆ สำนักงานฯให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจที่ทำงานร่วมกันเข้าไปดู แต่เกิดขึ้นใน 2-3 วันนี้ เราก็จะดูว่าจะสามารถป้องกัน ป้องปรามหรือจับกุมได้อย่างไร
เผยความผิดมี3กลุ่ม333เรื่อง
อย่างกรณีที่มีข่าวมีการเปิดโรงแรมจองห้องพักเพื่อล็อบบี้กันนั้น นายแสวงกล่าวว่า โรงแรมใกล้สถานที่เลือกมีไม่เยอะ เราก็ตรวจสอบพบว่ามีผู้สมัครมาจองห้อมเต็มหมด เพราะสะดวกต่อการเดินทางในวันที่ 26 มิถุนายน แต่จะมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่สำนักงานฯไปดูแล ทั้งนี้ ฝากไปยังผู้สมัครว่าท่านต้องไปรับผิดชอบประเทศชาติ อยากให้เคารพกฎหมาย
เลขาฯกกต.ยังยืนยันว่า การเลือกสว.จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ ความผิดที่เกิดขึ้นมีอยู่ 3 กลุ่ม รวม 333 เรื่อง 200 เรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติ และการลงผิดกลุ่ม รู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัคร ซึ่งศาลฎีกา และกกต.ได้วินิจฉัยไปบางส่วนแล้ว กลุ่มที่ 2 การดำเนินการในวันเลือก ซึ่งการเลือกทั้งระดับอำเภอ และระดับจังหวัด มีอยู่ 39 เรื่อง ซึ่งกกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกลำดับถัดไป กลุ่มที่ 3 การเลือกที่ไม่สุจริต มีประมาณ 90 เรื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา แต่คิดว่าจากจำนวนทั้งหมดยังถือว่าน้อยถ้าเทียบกับจำนวนผู้ที่สมัครทั้งประเทศที่มีกว่า 4 หมื่นคน
การเมืองเรื่องสมยอมทำกกต.ทำงานยาก
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีฝ่ายการเมืองเข้ามาสนับสนุนผู้สมัครในการคัดเลือกสว.นั้น นายแสวงกล่าวว่า ตามกฎหมายให้คนที่เป็นสว.ต้องเป็นกลาง แต่ถ้าพูดกันแบบทั่วไปก็คือการเมือง แต่กฎหมายห้ามนักการเมือง 2-3 เรื่อง คือห้ามช่วยให้ได้รับหรือเป็นสว. และผู้สมัครเองก็ต้องไม่ให้ฝ่ายการเมืองช่วยให้ตัวเองได้รับการเลือก ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้ง หรือให้ทรัพย์สิน ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่การเมืองบางที่เป็นเรื่องของการสมยอมสมประโยชน์กัน ทำให้กกต.ทำงานยากขึ้นในการที่จะเข้าไปจับกุม แต่ก็มีในบางส่วนที่เป็นเรื่องที่กกต.หาเอง จึงให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะเมื่อมีการกล่าวหาว่ามีการให้ทรัพย์สิน แลกตำแหน่ง เช่น มาอยู่ทีมเดียวกัน ถ้าตนได้เป็นสว.ก็จะให้มาเป็นผู้ช่วย หรือนั่งเป็นกรรมาธิการ แต่กฎหมายได้ออกแบบไว้หมดแล้ว ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อไทม์ไลน์แน่นอน
ไฟเขียวนำสว.3เข้าคูหาได้
ขณะที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมาร่วมสังเกตการณ์กระบวนการซักซ้อมการคัดเลือกสว. ระดับประเทศ พร้อมเผยว่า ในการเลือก สว.ระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน ผู้สมัครสามารถนำแบบ สว.3 ซึ่งเป็นข้อมูลการแนะนำตัวของผู้สมัคร ในกลุ่มของตนเองเข้าไปในสถานที่เลือกได้ และเข้าคูหาได้ รวมถึงในรอบเลือกไขว้ กกต. จะพิมพ์แบบ สว.3 ให้ใหม่ก็สามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งในวันเลือกช่วงเวลาพักผู้สมัครสามารถแนะนำตัวเองกับผู้สมัครสายเดียวกันได้
ผู้สมัครแจ้งคุณสมบัติเท็จมีโทษ
นายอิทธิพรยังกล่าวถึงหนังสือจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค ของวุฒิสภา ที่แนบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับคำร้องให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ว่า ในขั้นตอนเริ่มต้นของการสมัคร ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมาย ไม่มีลักษณะต้องห้าม โดยผู้สมัครต้องรับรองตนเอง รวมถึงรับรองความเชี่ยวชาญในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี ประกอบการสมัคร ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไรน่าสงสัยก็รับสมัครได้ แต่ถ้าจากนั้นพบ แจ้งคุณสมบัติเป็นเท็จ ทั้งผู้สมัครและผู้รับรองมีโทษตามกฎหมาย ส่วนกรณีพบคนมีอาชีพเป็นกู้ภัยหรือ อสม. เป็นผู้ที่ได้รับเลือกในกลุ่มภาคประชาสังคมจำนวนมาก ไม่ใช่ความผิดพลาดหรือการตรวจสอบไม่จริงจังของเจ้าหน้าที่ เพราะคุณสมบัติการสมัครใน17 กลุ่ม สาขาอาชีพ มีกำหนดไว้ด้วยว่า”หรืออื่นๆลักษณะเดียวกัน หรือประกอบอาชีพอื่นที่มีผู้รับรอง”
ย้ำจนท.ทำหน้าที่เข้มงวดยึดกม.
ประธาน กกต.กล่าวอีกว่า ตนยังย้ำกับเจ้าหน้าที่ ให้เข้มงวดการทำงานหน้าที่ ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ตั้งแต่ขบวนรายงานตัว การเลือกรอบแรก และการจับสลากแบ่งสายเลือกไขว้ แต่ประเด็นที่กำชับและมีความสำคัญคือ เรื่องการนับคะแนนและขานคะแนนว่าให้ทำช้าๆขานคะแนนให้ชัดเจน เพื่อความโปร่งใส ไม่ให้เกิดประเด็นปัญหา ท่ามกลางการจับตามองของผู้สมัครที่ติดตามอยู่ ถ้าผู้สมัครมีคำถาม ให้ตอบโดยอิงระเบียบและคู่มือการปฏิบัติ ไม่ใช่การใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจ
สั่งสายข่าวจับตาผู้สมัครน่าสงสัย
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวผู้สมัครจองโรงแรมเดียวกันจำนวนมากนั้น ประธาน กกต.มองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ปกติและปกติ เพราะการเลือกครั้งนี้เป็นการเลือกระดับประเทศ มีสถานที่แห่งเดียว ที่อิมแพคฟอรัม เมืองทองธานี ซึ่งผู้สมัครเลือกมาพักใกล้สถานที่เลือก เพื่อความสะดวกในการเดินทาง เบื้องต้นไม่ได้หมายความว่า เจตนามารวมกลุ่มกัน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องอยู่ในสถานที่ที่สะดวกที่สุด เพื่อไปสถานที่เลือก ซึ่ง กกต.ได้ตระหนักประเด็นนี้ ตั้งแต่เลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ว่าหากไปรวมตัวที่ไหนให้ตั้งข้อสงสัย เพราะผู้สมัครบางคนอาจมีความน่าสงสัย กกต.ได้สั่งให้จับตาดูตั้งแต่การเลือกตั้งระดับอำเภอแล้ว และให้สายข่าวได้ติดตาม
“กกต.เชื่อมั่นว่า ผู้สมัครที่จะมาเป็นสว.ทำหน้าที่ในสภา ต้องมีเกียรติและ ศักดิ์ศรี และยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ามีพยานหลักฐานชัดเจน นำไปสู่การจับกุม กกต.จะทำทันที พร้อมแนะให้ประชาชนที่มีพยานหลักฐานทุจริต แจ้งเบาะแสไปยังกกต.ได้”ประธาน กกต.ระบุ และกล่าวทิ้งท้ายว่า กระบวนการเลือกสว. กกต.ทำตามกฏหมาย เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจ เชื่อว่าผู้สมัครมาสมัครเพื่อเป็นตัวแทนประชาชน ก็ควรที่จะทำตามกฎหมาย ขณะที่การเลือก สว. ระดับจังหวัดที่ผ่านมา มีการสั่งให้นับคะแนนใหม่ที่จ.สุพรรณบุรี ซึ่งดำเนินการไปแล้ว ไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อผู้เข้ารอบ ย้ำว่า ไม่ได้อยากให้กระบวนการเลือกล่าช้าแต่ต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ
ยุผู้สมัครสว.เก็บหลักฐานฮั้วฟันโกง
ด้านผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผู้สมัคร สว.ที่พบเห็นกระบวนการฮั้ว ส่งกันจากในไลน์ ตนเห็นด้วยให้ทุกคนที่ถูกปิดล้อม ถูกกระบวนฮั้วกัน เพื่อใช้สิทธิอันไม่สุจริตตามเจตนารมณ์กฎหมาย หลักฐานปรากฏชัดมากมาย อย่าเพิ่งวิ่งลบ คะแนนในกกต.คือ Digital footprint ที่จะนำผู้มีเจตนาอันไม่สมบูรณ์ ที่ไปกลั่นแกล้งปิดกั้นคนดีที่ตั้งใจลงสมัคร หวังให้พวกตัวเองถึงเส้นชัย
“อาชญากรทางการเมืองที่บกพร่องและที่ไม่เข้าใจ หลักกฏหมาย หลักเจตนาต้องมีเจตนาอันสุจริตสองอย่างคือ ไปลงสมัครเพื่อเป็นสว. และเป็นทั้งผู้เลือก และผู้ถูกเลือก แต่ชี้นำอย่างผิดปกติไม่วางอยู่หลักแห่งสุจริต ทำให้คนดีที่ตั้งใจถูกกลั่นแกล้ง ได้รับผลกระทำดังกล่าว อย่างคุณรสนาและอีกหลายคน หลายเขตใน กทม. ผู้สมัครที่ไปใช้สิทธิอันไม่สุจริต เตรียมไปพิสูจน์ในศาลอีกไม่นานเกินรอ”ผศ.ดร.อานนท์ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี