ตอบประชาชนให้ชัด-อย่าพูด‘เลอะเทอะ’
‘สุดารัตน์’โต้เดือด
จี้นายกฯสัญญาไม่โละสส.ปาร์ตี้ลิสต์
อัดพท.หาเสียงทำการเมืองเลอะเทอะ
ตระบัดสัตย์จับมือ‘3ป.’จัดตั้งรัฐบาล
พท.สวนอย่าปล่อยข่าวด้อยค่าพรรค
“สุดารัตน์” เตือนแก้รธน.อย่าให้วุ่นวาย ท้านายกฯให้สัญญาประชาคมไม่โละปาร์ตี้ลิสต์ แฉลดปาร์ตี้ลิสต์150 เหลือ 100 ทำมาแล้วประกาศไม่จับมือ 3ป. ตั้งรัฐบาลก็ตระบัดสัตย์ทวงถามหลายนโยบายยังไม่ทำให้ปชช.“เพื่อไทย”ฉะ“สุดารัตน์”มโนฉ่ำออกสื่อ ตอกหยุดใส่ร้าย ปล่อยข่าวเท็จด้อยค่าพรรคอื่น ถามอยู่เฉยๆ ไม่เป็นหรือ ท้าเปิดชื่อคนพูด ยันไม่กระทบความสัมพันธ์ในพรรค ด้าน“นพดล”ยันพท.ไม่มีแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญรายประเด็นยกเลิกสส.บัญชีรายชื่อ เพราะพรรคมีนโยบายแก้รัฐธรรมนูญตั้งสสร.มาร่างรธน.ฉบับใหม่ ‘
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ค’พรรคไทยสร้างไทย’(ทสท.) เผยแพร่ความเห็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีการยกเลิก หรือลดสส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะจริงเท็จ เลอะเทอะหรือไม่ พร้อมตอบโต้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุเรื่องดังกล่าว เลอะเทอะว่า‘โล๊ะหรือลดParty List” จะจริงเท็จ เลอะเทอะหรือไม่
คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและพรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องเป็นผู้ยืนยัน’เป็นสัญญาประชาคม’ต่อประชาชนว่า จะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อความได้เปรียบ หรือเสียเปรียบทางการเมืองของนักการเมืองเท่านั้นและต้องให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ มาจากประชาชนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ภายในเวลารวดเร็ว โดยไม่ใช้เทคนิคการถ่วงเวลา ดิฉันอยากเห็นรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย อยู่บนพื้นฐานของการดูแลสิทธิและโอกาสของประชาชนอย่างทั่วถึงทัดเทียม รวมทั้งสามารถรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคง โดยไม่ปล่อยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีวาระซ่อนเร้น เพื่อประโยชน์ทางการเมือง และเพื่อเตรียมการให้มีโอกาสชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไปมากที่สุดเท่านั้น ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน อาจเป็นชนวนนำมาสู่ความวุ่นวายของบ้านเมืองในอนาคต
ท้านายกฯสัญญาไม่โละปาร์ตี้ลิสต์
สำหรับแนวคิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดจำนวน หรือยกเลิกสส.ระบบบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งครั้งหน้าตามที่ปรากฏข่าวไปแล้ว จะเป็นเรื่องเท็จ หรือเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องที่เลอะเทอะ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีต้องให้คำมั่ เป็น“สัญญาประชาคมกับประชาชน”ว่า จะไม่มีการแก้ไข และการยกเลิกหรือลดจำนวน สส.ปาร์ตี้ลิสต์ หรือสส.แบบบัญชีรายชื่อ เพราะเจตนารมณ์ของการกำหนดให้มี สส.แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อให้พรรคการเมืองได้คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถและมีความชำนาญเฉพาะด้าน เพื่อนำความรู้มาช่วยในการพัฒนาประเทศชาติ
ลดปาร์ตี้ลิสต์150เหลือ100ทำมาแล้ว
อีกทั้งปรากฏว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากบัตรใบเดียว เป็นบัตรสองใบและมีการลดจำนวน สส.ปาร์ตี้ลิสต์ จาก 150คน ให้เหลือ 100คน เพื่อเพิ่มสส.เขตจาก350เป็น 400คนมาแล้ว รวมถึงหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก่อนเลือกตั้งพูดอย่าง หลังเลือกตั้งทำอีกอย่าง แล้วบอกว่าเป็น“เทคนิคการหาเสียง”ซึ่งทำให้ระบบการเมืองถูกมองว่า“เลอะเทอะที่สุด”ในยุคนี้ ทั้งที่ประชาชนต้องการการเมืองที่มี“คุณภาพและคุณธรรม”และต้องการความจริงใจจากนักการเมือง
ประกาศไม่จับมือ3ป.ก็ตระบัดสัตย์
เคยให้สัญญาประชาชนว่า จะไม่จับมือ 3ป.เพราะรังเกียจเผด็จการ ด่าเขาสารพัดในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล ยอมตระบัดสัตย์กับคนที่ตนเคยด่าเขาว่า เป็นเผด็จการและก็ไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล บอกกับประชาชนว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันทันที แต่จนถึงวันนี้ ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทย กระทบรายได้ ค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ลงมือแก้ไขอย่างจริงจังและยังบอกว่า เมื่อได้เป็นรัฐบาลจะแจกดิจิทัลวอลเล็ตทันที ไม่กู้ซักบาท แต่สุดท้ายต้องกู้ทุกบาทและจนถึงตอนนี้ ประชาชนก็ยังไม่ได้สักบาท หรือหากได้ก็มาพร้อมกับภาระหนี้สินมหาศาลถึง 5แสนล้านของคนไทยทุกคนไปพร้อมๆกันแบกรับความเสี่ยงทางการเงินและการคลังในระยะยาว
หลายนโยบายยังไม่ทำให้ประชาชน
รวมทั้งยังมีอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้เดินหน้าตามที่ได้ประกาศไว้ตอนหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูประบบราชการ, ปฏิรูปการศึกษา, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000บาท, รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย และอีกหลากหลายนโยบายสวยหรู โดยเฉพาะจะทำให้ทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000บาทต่อเดือน จึงขอถาม คุณเศรษฐา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลว่า นโยบายเหล่านี้และอีกหลายนโยบายที่เคยพูดไว้ เป็นเพียงเทคนิคการหาเสียงใช่หรือไม่ ถ้าทำแน่นอน จะทำเมื่อไหร่ ตอบประชาชนให้ชัดเจน อย่าพูด’เลอะเทอะ’
พท.ไม่โละปาร์ตี้ลิสต์-บอกมาใครพูด
ด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เปิดประเด็นพรรคเพื่อไทย เตรียมจะแก้รัฐธรรมนูญยกเลิกระบบสส.บัญชีรายชื่อ ให้เหลือแค่ สส.เขต 500คน เพื่อเอาชนะพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า เขาก็พูดไป ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ก็ออกมาโต้แล้ว ไม่เข้าใจว่าอยู่กันเฉยๆไม่ได้หรืออย่างไร ชอบปั่น ชอบอะไรแบบนี้ เรื่องนี้เราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ทุกอย่างมีขั้นตอน ซึ่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ก็มีทุกพรรคการเมืองอยู่ด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆใครจะไปทำอะไรได้ดั่งใจ จริงๆเราไม่มีความคิดที่จะทำด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองเลย ทุกพรรคต้องหวังบัญชีรายชื่ออยู่แล้วและไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงเป็นข่าวเช่นนี้ได้ ทำไม คุณหญิงสุดารัตน์ ถึงไปพูดเช่นนั้นได้
รับประกันพรรคไม่เคยพูดเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ในการประชุมพรรค พท.จะพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มี รับประกันได้ว่าในที่ประชุมพรรคไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย ขอให้พูดมาเลยว่า ใครเป็นคนพูด แบบนี้ตนก็พูดได้ว่าคนในพรรคไทยสร้างไทยมาบอกตนเช่นนั้นเช่นนี้ ตนอยากให้มีความราบรื่นในการทำงานดีกว่า เมื่อถามว่า มองว่าการออกมาเปิดประเด็นเช่นนี้ เป็นการดิสเครดิตพรรคหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าคำว่าดิสเครดิตคืออะไร แต่ตนมองว่าหากคนใช้วิจารณญาณในการฟัง เขาแยกแยะออกอยู่แล้ว ใครจะพูดอะไรก็ตาม แต่การพูดเช่นนั้นไม่มีหลักฐาน พูดแค่ว่าคนในพรรคเพื่อไทยยังสนิทกันอยู่ แบบนี้ใครก็พูดได้ เมื่อถามว่า จะไม่กระทบต่อการทำงานร่วมกันของคนในพรรคใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มี
ฉะมโนฉ่ำ-จิตนาการไร้มูลความจริง
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกว่า ถ้าท่านพูดกับคนในครอบครัว หรือสมาชิกพรรคของท่านเป็นการภายใน จะมโนกันฉ่ำแค่ไหนก็เป็นสิทธิ แต่การจินตนาการแบบไม่มีมูลความจริงเลยออกสื่อ ต้องระมัดระวังว่าต้นทุนความน่าเชื่อถือของท่านจะหดหายลดต่ำลงไปเรื่อยๆ พรรคเพื่อไทยได้ประกาศจุดยืนชัด และดำเนินการไปแล้ว คือการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร.ไปร่างรัฐธรรมนูญ และหากตั้ง ส.ส.ร. พรรคการเมืองก็ไม่สามารถไปครอบงำการทำงานของส.ส.ร.ได้ การจินตนาการแบบไม่มีมูลความจริงเจือปน หากมุ่งหวังจะลดทอนความน่าเชื่อถือ ดิสเครดิตคนอื่น ระวังจะย้อนกลับเข้าตัวไปดิสเครดิตตัวเอง บ้านเมืองมีหลักการ ใครจะโหนพรรคไหนก็โหนไป ตนติดตามเรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่เคยได้ยินเรื่องตัดสส.ระบบบัญชีรายชื่อ เหลือเฉพาะสส.เขต การทำงานการเมืองต้องตรงไปตรงมา อย่าใช้วิธีหาคะแนนด้วยการใส่ร้าย ทำลายคะแนน หรือด้อยค่าพรรคอื่นด้วยการปล่อยข่าวที่ไม่มีมูลความจริง
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสสร.ชี้ขาดในอนาคต
นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวว่า พรรคพท.อาจเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกสส.บัญชีรายชื่อ โดยให้มีสส.เขตเพียงอย่างเดียว 500คน เพื่อไม่ให้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เปรียบนั้น ตนว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นจินตนาการบริสุทธิ์ของคนที่พูด เพราะพรรคพท.ไม่มีการพูดคุยกันเลย ตนไม่เคยได้ยินและคงจะไม่มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายประเด็นเพื่อยกเลิก สส.บัญชีรายชื่อ แปลกใจที่มีข่าวนี้ออกมา การจุดประเด็นคงไม่สามารถลดทอนความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยว่า วันๆเอาแต่จะแก้กฎ กติกาเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ ซึ่งไม่เคยคิดที่จะทำเช่นนั้น เพราะสิ่งที่พรรคดำเนินการไปแล้วคือเสนอแก้ รธน.เพื่อตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ สสร.ไปร่างรธน.และถ้าตั้งสสร.พรรคการเมืองคงไปครอบงำการทำงานสสร.ไม่ได้
‘ธรรมนัส’ขอบคุณไม่เขี่ยพ้นร่วมรบ.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ในส่วนของพรรค พปชร.ไม่มีปัญหาอะไร เห็นได้จากการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2568 ที่ผ่านมา สมาชิกพรรค พปชร.ยังเหนียวแน่นและพร้อมเพรียง ทั้งนี้ ตนยังได้ยืนยันกับนายกฯ ไปแล้วว่าพรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร พร้อมทั้งได้ขอบคุณนายกฯ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อว่าจะไม่มีการปรับพรรค พปชร.ออก ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า การรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้นั้น ตนได้เตรียมสถานที่ไว้แล้ว รอวันที่เหมาะสม เพราะจะต้องดูภารกิจของนายกฯ ด้วย
‘นิกร’สยบลือโละปาร์ตี้ลิสต์-อยู่ที่สสร.
นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช2560 กล่าวถึงกระแสข่าวการแก้ไขกติกาเลือกตั้ง ให้มี สส.เขต 500เขต ว่า เป็นประเด็นที่มโนไปเอง ไม่มีที่มาและไม่มีที่ไป ในฐานะที่ตนทำงานในส่วนของรัฐบาล เรื่องดังกล่าวไม่มีการตั้งธงไว้ เพราะการออกแบบกติกาเลือกตั้งให้เป็นแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่จะเกิดขึ้น หลังจากการทำประชามติเพื่อให้เกิดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ การออกแบบให้มี สส.เขตและสส.บัญชีรายชื่อ ถือเป็นความลงตัวในระบบการเมืองไทย ที่มาของการออกแบบให้ สส.มาจาก 2ระบบ เกิดจาก สสร.ชุดที่มาจากการเลือกของประชาชนในการจัดทำรัฐธรรมนูญ2540 ซึ่งเป็นการออกแบบจากประชาชน ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงหรือตั้งธงไว้
นายกฯถกผู้ว่าฯททท.บูมท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.35น.ซึ่งวันเดียวกันนี้ ไม่มีวาระงานอย่างเป็นทางการ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางเข้าพบนายกฯ เพื่อรายงานสรุปการดำเนินงานในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากนั้น น.ส.ฐาปณีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินทางเข้าพบนายกฯเพื่อหารือถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว จากนั้นเวลา 11.40 น.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง , ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายกฯในฐานะประธานผู้แทนการค้าไทย เดินทางเข้าพบนายกฯ เพื่อร่วมวงหารือกับ Mr.Marcus Wallenberg ประธานกลุ่มบริษัท SAAB SEB
‘ธรรมนัส’รายงานผลงานก.เกษตรฯ
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยหลังเข้าพบนายกฯ ว่า มารายงานสรุปผลการดำเนินงานในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นการเข้าพบประจำสัปดาห์ทุกวันจันทร์ตามปกติ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีงานที่ขับเคลื่อนไปได้เยอะแล้ว โดยเฉพาะโครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก
นายกฯเร่งกระตุ้นท่องเที่ยวโลว์ซีซั่น
ต่อมา นายเศรษฐา โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ว่า “ภารกิจเช้านี้เตรียมและติดตามงาน 2 เรื่องครับ เรื่องแรกผมเชิญทาง ททท.มาเตรียมแผนการท่องเที่ยวในช่วง Q2 - Q3 ที่เป็นช่วง low season ของไทย ผมได้ขอให้ ททท. เตรียม package สำหรับแต่ละประเทศที่มีศักยภาพเพื่อจะทำแผนการท่องเที่ยวราย segment ให้ตอบโจทย์ของแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย หรือประเทศอื่น ๆ เช่น รัสเซีย คาซัคสถาน อินเดีย ที่มีความต้องการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงและมีความชอบเฉพาะที่แตกต่าง นอกจากนี้ ยังพบ Mr. Marcus Wallenberg ประธานกลุ่มบริษัทSAAB SEB ซึ่งผมเคยพบตอนห้วงประชุมWorld Economic Forum ที่ Davos เพื่อติดตามประเด็นต่างๆที่เคยคุยไว้ เช่น การดึงดูดการลงทุนในไทย การเข้ามาตั้งโรงงานของAstra Zeneca ซึ่งผมได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมแล้วและทางบริษัทฯจะวางแผนพบนักลงทุนไทยเพื่อทำงานร่วมกันระหว่างประชุมDavosปีหน้าครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี