เลขาธิการกกต.เตรียมประกาศรับรอง สว.200 คน หลังวันที่ 3 ก.ค.ระบุร้องคัดค้านเลือก สว.3 วัน 614 เรื่อง เผยส่วนใหญ่ร้องสอบคุณสมบัติ ยันเดินหน้าลุยสอบโพย-บล็อกโหวต ชี้สอบไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย ปัดวิจารณ์โฉมหน้าวุฒิสภาชุดใหม่อาชีพไม่ตรงปก ชี้เลือก สว.วุ่นเหตุระเบียบ กกต.ถูกเปลี่ยน
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.แถลงสรุปภาพรวมการเลือก สว.ระดับประเทศ ว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศผลคะแนนผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.200 ราย และสำรองอีก 100 ราย ตนในฐานะผู้อำนวยการการเลือก สว.ระดับประเทศ ได้แจ้งผลคะแนนให้กับ กกต.ในวันนี้แล้ว ซึ่ง กกต.ต้องรอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน จึงจะประกาศการเลือก สว.คือนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.เป็นต้นไป ถ้าเห็นว่าการเลือก สว.เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม
ส่วนกรณีหากจะคัดค้านการเลือก สว.ก่อนประกาศผล จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายใน 3 วันนับจากวันที่กรรมการประจำสถานที่เลือก (กปล.) วินิจฉัย ซึ่งจะเป็นการยื่นร้องการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องของความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือสามารถร้องต่อ กกต.ก็ได้ หากเห็นว่าการดำเนินการในวันเลือกเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าเป็นกรณีเป็นการเลือกที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรมยังสามารถร้องต่อ กกต.เพื่อให้ กกต.พิจารณาเพื่อส่งเรื่องไปยังศาลทั้งก่อนและหลังการประกาศผล
นายแสวง ยังกล่าวถึงเรื่องร้องเรียนว่า ขณะนี้มีทั้งหมด 614 เรื่อง จำแนกเป็นเรื่องการร้องเรียนคุณสมบัติให้ลบจากบัญชีชื่อผู้มีสิทธิ์เลือก สว.400 กว่าเรื่อง หรือคิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์ และร้องเรื่องความไม่สุจริต ให้เงิน ให้ทรัพย์สิน ตามมาตรา 77 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.14 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 4 เปอร์เซนต์ เป็นการร้องเรื่องการทุจริต ให้ลงคะแนน จ้างสมัคร เรียกรับ ให้ เพื่อลงคะแนน รวมถึงการนับคะแนน เจ้าหน้าที่ขานคะแนน ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ เป็นการร้องให้ลบชื่อออกในการเลือกระดับอำเภอมากที่สุด มีการยื่นเรื่องไปที่ศาลฎีกา และศาลมีคำวินิจฉัย โดยสิ่งที่ กกต.จะต้องดำเนินการต่อคือการระงับสิทธิสมัครชั่วคราวหรือให้ใบส้ม ส่วนการร้องระดับจังหวัดมี 175 เรื่อง ระดับประเทศยังไม่มี
นายแสวง กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้สมัครหลายรายตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติในการลงคะแนน กกต.ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่ง กกต.ได้ยืนยันอย่างต่อเนื่องว่าจะดำเนินการเรื่องความไม่สุจริต เที่ยงธรรม ทั้งเรื่องการฮั้ว การบล็อกโหวต ซึ่งหากระเบียบเก่ายังอยู่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้น้อย และ กกต.สามารถป้องกันได้ แต่เมื่อระเบียบยกเลิกต้องดูกฎหมาย
"ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเราบอกว่าเรื่องฮั้ว การบล็อกโหวต พื้นฐานอาจจะเกิดจากเงินก็ได้ ซึ่งนั่นผิดกฎหมายอย่างแน่นอนตามมาตรา 77 (1) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ที่กำหนดในเรื่องของการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด จะเข้าองค์ประกอบความผิดแน่นอน แต่ถ้าเป็นลักษณะชวนกันมา หรือแลกคะแนนกัน โดยไม่มีเงินเกี่ยวข้องตรงนี้เป็นปัญหาทางกฎหมาย แต่ระเบียบ กกต.ได้ถูกยกเลิกไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาในการนำกฎหมายไปจับเรื่องนี้ว่าสุดแค่ไหนอย่างไร
อย่างไรก็ตาม กกต.จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุดในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมก็จะต้องมีการตรวจสอบว่ากลุ่มไหนเข้าไปพัก ใครเป็นคนยอมใครเป็นคนจ่าย ลงทะเบียนใครเป็นคนให้เงิน ซึ่งตรงนี้จะเข้าข่ายความผิดเรื่องการจัดเลี้ยง
เมื่อถามว่า การตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.เป็นคนของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง นายแสวง กล่าวว่า กรณีที่บอกว่า มีโพย มีบล็อกโหวต แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดคำว่าผิดกฎหมายสักคน มีแต่คนพูดว่า "เป็นข้อสังเกต" นอกจากเราจะไปสืบว่าการไปเป็นกลุ่มเป็นก้อน ลงคะแนนให้กันมีการให้เงิน มีการให้ประโยชน์ มีการจัดเลี้ยงหรือไม่ ซึ่งกำลังหาพยานหลักฐานตรงนี้มาสนับสนุน หากเป็นเช่นนี้ผิดกฎหมายแน่นอน ทั้งนี้ การฮั้วกรณีการไปเจอกันที่โรงแรม จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี หรืออยู่เมืองทอง มาก่อนวันเลือก 3 - 4 วัน ไม่ถือว่าผิด แต่ว่าถ้าเกิดทำเกินนั้นเช่นมีคนจัดเลี้ยงมีการให้เงิน ให้ค่าที่พักเราก็ต้องหาส่วนนี้
เมื่อถามย้ำว่า มีผู้สมัครบางรายเขียนหมายเลขเหมือนกันทั้ง 3 ใบ เป็นการบล็อกโหวตหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เป็นสมมติฐานว่าเป็นการให้ประโยชน์ลงคะแนนแบบนี้หรือไม่ ไม่ว่าศูนย์คะแนนหรือคะแนนเดียวกัน กกต.ต้องไปสืบเสาะหาข้อเท็จจริง ยกตัวอย่างย้อนไปในการเลือก สว.ปี 2562 ที่มีการแลกคะแนนหรือขอคะแนนกัน ซึ่งก็เป็นความผิด แต่กฎหมายในปัจจุบันไม่ผิด
เมื่อถามว่า มีการรายงานว่ามีการเข้าไปเจรจาเรื่องกล่าวกันภายในห้องน้ำชาย แถวบริเวณสถานที่เลือก สว.นั้น นายแสวง กล่าวว่า ที่จริงตนก็เข้าห้องน้ำชายหลายรอบ และมีคนของกกต.อยู่ในนั้น ก็พบเหตุการณ์ว่ามีการเจรจาแต่ว่าจับยาก การท่องหมายเลขต่างๆ เขาก็บอกได้ทำการบ้านมา หรือตัดสินใจมาจากข้างนอก หรือจากที่ไหนก็ไม่ทราบ เพราะเราไม่อนุญาตให้เอาเอกสารอะไรเข้าไปในห้องเลือก ให้ใช้เอกสารใหม่ที่เราแจกให้เท่านั้น ส่วนการพูดคุยเจาะจงว่าให้มีการเลือกหมายเลขนั้น หมายเลขนี้ นั้นก็ต้องดูด้วยว่า มีการให้เงินกันหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นไปตามระเบียบเดิม จะห้ามขอคะแนน แลกคะแนนกัน แต่เมื่อศาลตัดสินให้การแนะนำตัวสามารถทำได้ ดังนั้น การที่ผู้สมัครพูดคุยกันเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ไม่มีการจ่ายเงิน ซึ่งคิดว่าไม่มีใครกล้าจ่ายเงินในนั้น อย่างไรก็ตาม อยู่ที่การสืบสวนสอบสวน ยกตัวอย่าง กลุ่มคนที่ได้คะแนนใกล้ๆ กัน ก็อาจจะไปดูต้นทางการเงิน แต่ในห้องน้ำไม่มีการจ่ายเงินเพราะว่าเราดูแลดี
ต่อข้อถามกรณีที่มีผู้สมัครโวยวายว่าคะแนนหายไป ขณะขีดคะแนนได้ 13 คะแนน แต่พอรวมคะแนนกลับได้เพียง 12 คะแนนนั้น นายแสวง กล่าวว่า ทุกคะแนนสำคัญมากเพราะเป็นการเลือกครั้งสุดท้ายแล้ว ดังนั้น เราจึงให้อ่านช้า ชัด โปร่งใส และมีท่าทีที่เป็นมิตรแต่เด็ดขาด อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิด 4 ตัว เพื่อดูพฤติกรรมคนในแต่ละกลุ่ม ซึ่งในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ทั้งนี้ การพิจารณาของศาลก็ใช้กล้องวงจรปิดมาตัดสินว่ามีการท้วงติง หรือไม่มีการทำถูกต้องหรือไม่ ซึ่งมีกล้องชัด ถือเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งการนับในกระดาน กับที่ผู้สมัครนับและคิดคะแนนเองนั้นเป็นคนละกรณีกัน เป็นเรื่องความรู้สุกของคน มันเหมือนคนตกลงกันมา ได้ 3 คะแนน แต่พอผลออกมาได้ 2 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเพื่อนที่เข้าคูหาแล้วเขียนเลขให้หรือไม่ เหมือนที่มีคนเข้าห้องน้ำแล้วพูดว่า "ผมถูกหักหลัง" มันก็เป็นลักษณะเดียวกัน เมื่อถามต่อว่ามองอย่างไรที่ผู้สมัครคนดังบางคนมีศูนย์คะแนนสะท้อนอะไรหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า สำหรับตนแล้วผู้สมัครทุกคนเท่ากันหมด
เมื่อถามเพิ่มเติมว่า หากจะมีการจัดเลือก สว.ครั้งต่อไปจะใช้เวลานานเช่นนี้หรือไม่ นายแสวง หัวเราะก่อนที่จะบอกว่า ถ้ายังใช้ระบบนี้อยู่ อย่างน้อยต้องดีขึ้น ใช้เวลาแน่นอน แต่ กกต.อาจจะรับมือยากขึ้นก็ได้ เช่นในการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 ได้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นครั้งแรก เราทำอะไรก็ง่าย แต่พอนักการเมืองไหวตัวจะยากทันที จะมีการเตรียมการเพราะรู้ว่าเกมจะเดินไปเช่นนี้ แต่ กกต.ต้องรับมือให้ได้ และเชื่อว่าการบริหารจัดการจะดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตอนนั้นคงไม่ใช่ตนที่จะมารับผิดชอบแล้ว
เมื่อถามอีกว่า กกต.จะมีการตรวจสอบ ว่าที่ สว.บางรายมีคุณสมบัติไม่ตรงกลุ่มอาชีพได้อย่างไร นายแสวง กล่าวว่า เดิมตามกฎหมายอาชีพจะต้องมีองค์กรรับรอง แต่รัฐธรรมนูญไม่อยากให้มีเจ้าพ่อมาอีกคนหนึ่งเพื่อมากัน หรือกรองคนเข้ามา แต่อยากให้ประชาชนเดินเข้ามาสมัครโดยมีผู้รับรองไม่ต้องจบปริญญาตรี แต่มีความรู้จริงๆ มาจากอาชีพ การทำงานไม่ใช่ปริญญา ให้โอกาสทุกคนสามารถเข้ามาสมัคร และกฎหมายก็ออกแบบมาครอบคลุม 20 กลุ่มอาชีพ โดยเริ่มตั้งแต่ระดับอำเภอเพื่อเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย แล้วให้ตัวเองเป็นผู้ถูกเลือกและเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกด้วย อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่สามารถไปดูพฤติกรรมคนได้ทุกอย่าง ซึ่งจนถึงตอนนี้มีคนร้องเข้ามาเยอะที่สุด คือ เรื่องคุณสมบัติทั้งนี้กฎหมายได้ให้สิทธิเขา ยกตัวอย่างกลุ่มอาชีพทำนา ซึ่งผู้สมัครทำนาเกลือ ก็สมัครมาอยู่กลุ่มอาชีพทำนา แต่ถ้าไปดูตามกฎหมายมันให้สิทธิเขา
เมื่อถามว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดปัญหายิบย่อยหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า มันเกินกำลังคนตัวเล็กๆ อย่างตน ก็เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน เพราะสภาฯ ออกแบบมาเช่นนี้ กกต.ก็มีหน้าที่ทำ เพียงแต่ต้องทำให้ดีที่สุด ขณะนี้คนได้เห็นหน้าตา สว.ชุดใหม่แล้ว บางคนบอกให้ลองไปก่อน หรือถ้าทำผิดก็สอบอยู่แล้ว แต่บอกว่าได้ตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้หรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญออกแบบไว้สวยแน่นอน แต่เมื่อใช้แล้ว กกต.ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่จนถึงวันนี้ก็กำลังจะส่งรายชื่อแล้ว นอกจากจะควักคนผิดออก ส่วนที่สังคมวิจารณ์หน้าตา สว.ชุดใหม่นั้น ตนของไม่ขอออกความเห็น อย่าให้ตนมีความเห็นเลย เพราะตนจะเดือดร้อน
ด้านผู้สมัคร สว.รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะที่การเลือก สว.ระดับประเทศดำเนินการอยู่นั้น ที่ห้องน้ำชายพบว่ามีผู้สมัคร สว.เข้าไปพูดคุยตกลงกันเรื่องการลงคะแนนจำนวนมาก ทำให้แถวของผู้ที่ต้องการใช้ห้องน้ำยาวออกมาภายนอก โดยการพูดคุยดังกล่าวเป็นการเจรจากันของตัวแทนจาก 3 พรรคการเมืองใหญ่ซีกรัฐบาล ว่าหากสามารถหาคนลงคะแนนให้ได้ 1 คน จะให้ค่าตอบแทน 3 แสนบาท แต่ถ้ารวบรวบได้ 5 คน ให้มาโหวตลงคะแนนให้ได้ จะเสนอค่าตอบแทนให้ 1 - 1.5 ล้านบาท
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี