ผู้สมัครสว.‘ตกรอบ-บัญชีสำรอง’แห่ร้องกกต. ‘ตัวแทนกลุ่มสตรี’ห่วงตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ขุดประวัติ‘เลขาฯแสวง’คนบุรีรัมย์ ใกล้ชิด‘ชัย ชิดชอบ’ แย้มพี่ชายก็สนิทคนบางพรรค ขณะที่‘อดีตผู้ช่วยผบ.ตร.’สวมวิญญาณสืบ เก็บโพยตกคาห้องน้ำเป็นหลักฐาน บอก‘กกต.’ขอข้อมูลก็ยินดีให้ ด้าน‘อดีตที่ปรึกษา รมต.ศึกษาฯ’แนะสอบ‘คนเสื้อลาย โปรไฟล์สั้น’จะได้เห็นใครอยู่เบื้องหลังแน่ ขณะที่‘ผู้สมัครกลุ่ม19’เหน็บเลขาฯกกต. บอกพูดว่ารู้ แต่กลับจับ‘คนทุจริต’ไม่ได้
28 มิถุนายน 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่มผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่ม 2 , 3 , 14 เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศ
นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร สว. กลุ่มสตรี กล่าวว่า อยากให้ กกต.ตรวจสอบ การบล็อกโหวต เพราะทุกคะแนนทุกหีบเหมือนกันหมด แสดงให้เห็นว่ามีโพยเป็นการทำลายประชาธิปไตย นอกจากนี้คุณสมบัติก็ยังไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพ
“นักวิทยาศาสตร์จบ ป. 4 สื่อมวลชนเป็นคนพูดเสียงตามสาย มันผิดตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัครในครั้งแรกแล้ว ดิฉันอยากจะเรียนต่อสื่อมวลชนว่าโรงแรมพี่จองให้กับคนที่มาจากต่างจังหวัด ตามกลุ่มต่างๆที่เขาได้จัดสรร เพื่อมาฮั้วกัน มีการเข้าพักจัดเลี้ยง จ่ายเงินกันตรงนั้น อยากฝากว่าทั้ง 10 โรงแรมนั้น ให้ กกต.ไปสืบสวน ดิฉันเชื่อว่ามีความพยายามทำลายพยานหลักฐาน” นางกุสุมาลวตี กล่าว
นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือเราจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะขณะที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. เป็นคนบุรีรัมย์ เป็นอดีตคณะทำงานของนายชัย ชิดชอบ และพี่ชายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ โดยการสนับสนุนของคนบางคน และคนบางพรรค เพราะฉะนั้นการกระทำเยี่ยงนี้ เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายทั้งสิ้น ยืนยันว่ามีการซื้อโหวตกันจริงๆ เราหาพยานหลักฐานได้ เชื่อว่าพยานแวดล้อมเข้าองค์ประกอบล้านเปอร์เซ็นต์ โดยตอนบ่ายเราจะยื่นร้องต่อศาลฎีกาในกรณีดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผบ.ตร. ผู้สมัคร สว. ในกลุ่มกฎหมาย กล่าวว่า มีความพยายามให้โหวตเตอร์เลือกคนที่เป็นเป้าหมาย และในช่วงบ่ายที่มีการเลือกไขว้ก็มีการเขียนโพยไว้ โดยตนเหลือบมองไปเห็นเพื่อนข้างๆ ยังไม่อ่านใบ สว. 3 จนจบก็ลงคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องนี้ กกต.ต้องใช้ความกล้าหาญในการตรวจสอบ
“ทั้งหมดนี้ตนไม่ได้พูดลอยๆ เพราะหลักฐานอยู่ที่ใบคะแนนทุกใบที่อยู่ในกล่อง เชื่อว่าทำได้ไม่ยาก เพียง 1 วันก็รู้ว่าใครเลือกใครบ้าง ผมยินดีที่จะเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม อยากให้กกต.อย่าเพิ่งรีบประกาศผล” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว
เมื่อถามว่าเงื่อนไขการล็อบบี้ หากไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องก็ไม่ผิดกฎหมาย พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์อย่างเดียว ต้องเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมด้วย การจัดตั้งโดยไม่สุจริต ยุติธรรม ไม่จำเป็นต้องมีผลประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเงินเรื่องทอง
พล.ต.ท.คำรบ โชว์พยานหลักฐานที่เป็นโพยการลงคะแนน พร้อมระบุว่า “เป็นโพยที่ตกในห้องน้ำพอดีผมเป็นตำรวจ เลยเก็บหลักฐานทุกชนิด ผมได้โพยมาแล้วก็ไปเทียบกับคะแนนที่ได้มาเป๊ะ”
พล.ต.ท.คำรบ ย้ำว่า ส่วนเรื่องการยุบพรรคการเมือง วันนี้ตนมายื่นร้องแค่กระบวนการเลือก ส่วนกรณีพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้องหากมีหลักฐานก็ให้ไปเติมเอาเป็นรายบุคคล อย่างกลุ่มผมกลุ่มกฎหมาย กลับไปดูแล้วคนที่ได้กลับไม่ได้จบกฎหมาย แต่ทำอาชีพค้าขาย เป็นผู้ใหญ่บ้าน และจบราชภัฏมา และประวัติก็เขียนแค่บรรทัดเดียว
ด้านนายจิรัฏฐ์ แจ่งสว่าง อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้สมัคร สว. กลุ่มการศึกษา กล่าวว่า จริงๆหลักฐานทั้งหลายมีแต่อยู่ในกล่องเลือกตั้ง เพียงแค่นำมาสแกนเก็บเข้าไปในระบบแล้วตรวจสอบว่าบัตรใดที่มีการลงคะแนนซ้ำกันมากๆ อย่างที่ 2 คือการตรวจสอบคุณสมบัติเราต้องไปตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ตรงปก ที่ตนแซวว่าเสื้อลายโปรไฟล์สั้น คนเหล่านี้จะได้รับการโหวต อันนี้เป็นเรื่องจริงว่าบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลต้องสงสัย แล้วนำคนเหล่านี้มาสอบ มันจะย้อนไปถึงในเส้นทางว่าสัมพันธ์กับบุคคล หรือสายสีใด จึงสามารถไปเล่นงานพวกเขาได้
ระหว่างการสัมภาษณ์นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เดินทางมาถึง กกต.พอดี จึงขอชี้แจงว่าหลังถูกแอบอ้างว่าจะเดินทางเข้าร่วมกับผู้สมัคร สว.หลายคนเพื่อให้ตรวจกรณีการทุจริตเลือกสว. ก่อนหน้านี้ได้มีคนแอบอ้างว่าตนจะมาร้องกกต. วันนี้ โดยส่งไปในกลุ่มของผู้สมัครสว.หลายกลุ่มยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง น่าจะโดนใครปั่นและหลอกแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ยังมีผู้สมัคร สว.กลุ่ม 19 นำโดยนายสุรชัย พรจินดาโชติ พร้อมด้วยผู้สมัครบางส่วน ยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสว.ระดับประเทศ
นายสุรชัย กล่าวว่า ตนอยู่ในบัญชีสำรองของการเลือกครั้งนี้ อยากให้ กกต.ตรวจสอบความผิดปกติ 3 ประเด็น
ประเด็นแรก ผู้สมัครบางกลุ่มลงคะแนนเหมือนกัน ซีรีย์เดียวกัน ซึ่งกลุ่มของตนพบว่ามีประมาณ 20 กว่าคน ทั้งที่คิดว่ามีแค่ 2 คนก็ประหลาดแล้ว โดยตัวเลขที่ลงอย่างเช่น 3 , 22 , 122 , 5 ขอเรียกว่าเป็นตัวเลขมหัศจรรย์
ประเด็นที่ 2 พบว่า ผู้สมัคร สว.บางส่วนมีการแต่งกายคล้ายกัน เช่น ใส่เสื้อสีเหลืองเป็นกลุ่ม คลุมด้วยแจ็คเก็ตสีดำ พฤติกรรมบางอย่างมีข้อผิดสังเกต ไม่เหมือนพวกตนที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังพบคนที่เป็นหัวหน้าทีมแต่งกายต่างไปลักษณะคล้ายไกด์ทัวร์ ขอแนะนำให้ กกต.ไปเปิดวีดีโอวงจรปิดดู
ประเด็นที่ 3 อยากให้ตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติ ที่กรอกไว้ในเอกสาร สว. 3 ว่าจริงหรือเท็จ โดยเฉพาะข้อมูลประวัติการศึกษา และประวัติการทำงานที่เกี่ยวข้องในกลุ่มตัวเอง ซึ่งจากที่ตนเห็น กกต. น่าจะตรวจสอบไม่ละเอียด
“การเขียนข้อมูลลงในเอกสาร สว. 3 ก็เหมือนเป็นการโฆษณาตัวเอง เพื่อให้คนเข้ามาเลือก ซึ่งจะมีผลในการลงคะแนน ถ้าเขาเขียนอะไรที่โฆษณาเกินจริงหรือไม่ใช่ข้อเท็จจริง แล้วทำให้คนอื่นตัดสินใจเลือก ก็จะมีผลต่อผู้สมัครรายอื่น โดยการกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จมีผลทางกฎหมาย จึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบ” นายสุรชัย กล่าว
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า ยังมีพวกตนบางส่วนที่แยกกันไปศาลฎีกา เพื่อยื่นคำร้องในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน ส่วนคุณสมบัติของว่าที่ สว. 200 คนนี้ ขอไม่ให้ความเห็นเพราะถือว่าผ่านกระบวนการของ กกต. ไปแล้ว
ขณะที่นายสหรัฐ มาลาศรี ผู้สมัคร สว.ที่ตกรอบ กล่าวว่า ที่ กกต.บอกว่ามีสายสืบอันนี้ได้ไปทำงานหรือไม่ โดยเฉพาะเลขาธิการ กกต.ขอให้ท่านทำงาน สมกับที่เป็น กกต.คุ้มภาษีประชาชน
“คุณบอกว่าคุณรู้ แต่คุณไม่สามารถจับคนทุจริตได้ ถือว่าคุณไม่ทำงาน การมายื่นครั้งนี้ไม่ถึงขนาดที่อยากให้การเลือกเป็นโมฆะ แต่อยากให้ตรวจสอบคนที่บล็อกโหวต หรือจัดตั้ง คุณต้องไปจัดการ ไม่ใช่มาบอกว่าไม่มีหลักฐาน ทำอะไรไม่ได้ อย่างนั้นแสดงว่าคุณไม่ทำงาน” นายสหรัฐ กล่าว
นายสหรัฐ กล่าวต่อว่า คนที่ได้ศูนย์คะแนน โดยที่ไม่กาตัวเอง เฉพาะกลุ่มตนมีประมาณ 10 กว่าคน และได้ 1 คะแนนมีประมาณ 10 กว่าคน อยากให้กกต.ไปดูตรงนี้ว่าสามารถทำอะไรกับเขาได้บ้างหรือไม่
เมื่อถามว่าจะเอาผิดกับพรรคการ เมืองด้วยหรือไม่ นายสหรัฐ กล่าวว่า ถ้าสอบสวนถึงก็ต้องเอาผิดแน่นอน จะยุบก็ต้องยุบ ไม่ว่าจะเป็นพรรคสีน้ำเงิน สีส้ม หรือสีแดง ก็ต้องจัดการ
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสตรีที่รวมตัวกันเดินทางมาร้องภายหลัง เพื่อให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกใหม่ เนื่องจากพบก่อนถึงวันเลือกระดับประเทศ ปกติผู้สมัครจะตั้งกลุ่มไลน์ เพื่อแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จัก แต่คนที่ได้รับเลือกกลับไม่ได้มีการแนะนำตัว พอถึงวันจริงก็มานั่งนิ่ง แล้วลงคะแนนในลักษณะเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี