‘เศรษฐา’ใส่เสื้อ‘ลายแมวโคราช’ เปิดโคราชโมเดลมหานครดิจิทัลแห่งอนาคต ยกระดับการทำงานภาครัฐ-เอกชน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานรูปแบบดิจิทัล คาดหวังปชช.ได้รับบริการภาครัฐอย่างสะดวก ชี้เป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นักเรียนกรี๊ดได้เซลฟี่นายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ “ประตูสู่อีสาน ศูนย์กลางการท่องเที่ยวอารยธรรม และเกษตรมูลค่าสูง” และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 ที่จังหวัดนครราชสีมา และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์)
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 67 ที่จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now – โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมคณะ นอกจากนี้ยังมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มาให้การต้อนรับ
วันเดียวกันนี้นายกฯสวมเสื้อแขนสั้นลำลองสีเหลืองลายโคราชโมโนแกรม (KORAT Monogram) ที่ถือเป็น 1 ใน soft power ของจังหวัด โดยมีรูปแมวโคราช (Korat Cat) สัตว์ประจำจังหวัดนครราชสีมา
เมื่อมาถึงนายกฯได้รับหนังสือร้องเรียนราคาน้ำมัน รถขนส่ง และเรื่องปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ
จากนั้นได้ทักทายกลุ่มมวลชนเสื้อแดงโคราชที่มาต้อนรับ นำโดย นายทวี อภิชาติเสนีย์ ประธานมวลชนคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด ซึ่งมวลชนสวมเสื้อยืดสีขาวสกรีนรูปนายเศรษฐา และรูป พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมข้อความ “พลังคนไทยต้านภัยยาเสพติด” นอกจากนี้ยังชูป้ายข้อความว่า มวลชนชาวเสื้อแดงโคราช ขอต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน และคณะรัฐมนตรี ด้วยความยินดียิ่ง , ขอสนับสนุนนโยบายพลังคนไทยต้านยาเสพติด เป็นต้น
จากนั้นนายกฯกล่าวเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now – โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดงาน ที่จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งทุกท่านทราบดีเรากำลังเข้าสู่สังคมดิจิทัล ผู้คนในสังคมได้สัมผัสการทำงาน ทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อำนวยความสะดวกให้กับทุกคน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ปรากฏเป็นรูปธรรม และเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำรงชีวิตของพวกเราในการดำรงชีวิตในรูปแบบปัจจุบัน และหลายองค์กรในโลกปัจจุบันกำลังถูกเคลื่อนย้ายในการให้การบริการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เป็นรูปแบบดิจิทัลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีร่วมกับการบริหารในรูปแบบการกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล และทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐสะดวกมากยิ่งขึ้น
นายเศรษฐา กล่าวว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลเราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมระดับโลกและเป็นศูนย์กลางดิจิทัล รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของประชาชนและบุคลากรทางภาครัฐให้มีทักษะและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเสมอ ขอขอบคุณกระทรวงดิจิทัลฯและหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมกันบูรณาการทำงานในครั้งนี้ และหวังว่าการจัดงานในโครงการนี้จะช่วยให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัลในทุกวิถี ทุกมิติ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญอีกตัวหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และขอให้การจัดงานครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
จากนั้นนายกฯได้เยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนวงดนตรีย่าโมซิมโฟนีออเคสตร้า พร้อมถ่ายภาพร่วมกับนักเรียนในวงฯ ต่อจากนั้นได้เดินทักทายนักเรียนที่มาร่วมงาน และถ่ายภาพเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง ซึ่งเด็กๆนักเรียนต่างส่งเสียงกรี๊ดเมื่อได้เจอกับนายกฯ จากนั้นนายกฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน ซึ่งได้มีการมอบภาพวาดสีน้ำมันรูปนายเศรษฐา ให้ด้วย //-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี