ยื่นศาลปค.สูงสุดเบรกรับรองว่าที่สว.
ไม่เชื่อลมปาก กกต.
ปล่อยไปก่อนตามสอยทีหลัง
อดีตผู้สมัครสุดทนแก๊งจัดตั้ง
‘สว.สมชาย’ไล่กระทุ้งกกต.ซ้ำ
นับคะแนนใหม่-เช็คบิลฮั้ว
มาตามนัด!ผู้สมัครสว. ร้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราว สั่งระงับประกาศผลเลือก สว.จาก 3 กรกฎาคมออกไปก่อน เพื่อให้เวลากกต.ตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ สว. 200 คน และสำรอง 100 คน ว่ามีคุณสมบัติถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ หลายคนคุณสมบัติไม่ตรงกลุ่ม – เข้ามาสมัครโดยการจัดตั้งกระจายให้ครบ 20 กลุ่มอาชีพ ลั่นไม่เชื่อลมปาก กกต.ที่“ปล่อยผ่านไปก่อนแล้วสอยทีหลัง” สว.’สมชาย’ตามไล่บี้กกต.ซ้ำ จี้นับคะแนนใหม่ชุดบล็อกโหวต จับแก๊งฮั้วเลือก สว.
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่สำนักงานศาลปกครอง นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic ในฐานะอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มที่ 20 (กลุ่มอื่นๆ) กรุงเทพมหานคร ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อศาลปกครองสูงสุดว่า ปล่อยปละละเลยการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ไม่ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง สว.ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจาณาสั่งระงับการประกาศรับรองผลการเลือก สว.เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น สว. 200 คน และผู้อยู่ในบัญชีสำรองอีก 100 คนว่ามีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ชี้โกงเลือกสว.เป็นวาระแห่งชาติ
นายจาตุรันต์ให้สัมภาษณ์ว่า กระบวนการเลือก สว. 2567 ตั้งแต่รับสมัครถึงการเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน จะเป็นวิบากกรรม ประชาชนไม่มีส่วนร่วม แต่หลังการเลือกเสร็จกลับกลายเป็นวาระแห่งชาติ ประชาชนโฟกัสมาที่กลโกง การจัดตั้ง กลุ่มอาชีพของคนเป็นว่าที่ สว.ใหม่ ตนไม่ได้ด้อยค่าอาชีพ แต่กระบวนการได้เข้ามาของบางคนเชื่อมโยงของบางกลุ่มที่พยายามจัดตั้งและนำคนเข้ามา ซึ่งตนเห็นว่า เป็นการเข้ามาสมัครที่ปราศจากความต้องการเป็น สว.ตามรัฐธรรมนูญ ที่เราเห็นคือ การเลือกไม่ลงคะแนนให้ตัวเองถือเป็นความผิดปกติ และการเลือกลงในกลุ่มอาชีพ ที่อาจผิดมาตั้งแต่แรก โดยใช้เจ้าหน้าที่ กลไกกระทรวงมหาดไทย มีการอบรม ซึ่งมีทั้งคนเข้าใจ และไม่เข้าใจ บางจังหวัดมีคนเยอะ บางอำเภอใช้การอะลุ้มอล่วย ใช้วิจารณญาณที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ หรือมีความผูกพันกันส่วนตัวหรือไม่
ร้องศาลปค.สั่งเลื่อนรับรอง200ว่าที่สว.
“ดังนั้น การลงไม่ตรงกลุ่มอาชีพมีปัญหาแน่ๆ การบอกว่า เป็นเจตนาของผู้สมัคร ซึ่งอาจจะทำหลายอาชีพ แล้วแบบนี้จะกำหนดไว้ทำไม 20 กลุ่ม ซึ่งบางกลุ่มคลุมเครือก็ต้องตีความ แต่บางกลุ่มขัดแย้ง ดูแล้วพิกลพิการ ผมไม่ได้ด้อยค่าอาชีพ แต่บางคนอาจถูกหลอกจากคนจัดตั้งเพื่อกระจายไปยังกลุ่มต่างๆ เพื่อให้ตรงตามเป้าหมาย 20 กลุ่มให้ได้มากที่สุด เรื่องนี้หลายคนเห็นความผิดปกติ หากปล่อยว่าที่ สว. 200 คน เข้าไปทำหน้าที่ ผมเกรงว่า บางคนไม่มีความเหมาะสม เนื่องจากอาจถูกครอบงำจากบางกลุ่มบางก้อน จึงมายื่นเรื่องให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครอง ไต่สวนฉุกเฉินในการที่กกต.จะประกาศรับรองผล ซึ่งคาดว่าเป็นวันที่ 3 กรกฎาคม ตามที่กกต.เคยให้สัมภาษณ์ ผมคิดว่าเรื่องนี้ยังมีเวลา ไม่ต้องรีบ การปล่อยผ่านสว.บางคนเข้าไป พิจารณากฎหมายสำคัญที่มีผลกระทบกับประชาชนทั้งประเทศนั้น ผมไม่สามารถปล่อยผ่านได้จริงๆ อยากให้ กกต.ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ยืนยันไม่ได้ต้องการให้การเลือกเป็นโมฆะ” นายจาตุรันต์ กล่าว
ลั่นไม่เชื่อมั่นกกต.ตามสอยที่หลัง
และว่า สำหรับหลักฐานที่นำมายื่นประกอบวันนี้ มีทั้งหลักฐานที่ปรากฏผ่านสื่อ จากที่ไปเจอมา และหลักฐานจากนายสมชาย แสวงการ หนังสือท้วงติงจากนายกล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา และหลักฐานการนับคะแนนเป็นศูนย์คะแนนของผู้สมัคร สว. รวมถึงกลุ่มอาชีพที่นำมายื่นประกอบการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตาม วันเลือกนั้นตนไม่ได้ทักท้วง เพราะเห็นว่ามีคนยื่นเรื่องจำนวนมากแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.ออกมาชี้แจงว่า จะรับรองไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลังก็ได้ นายจาตุรันต์กล่าวว่า ไม่ได้ ตนไม่เชื่อมั่นแนวทางนี้ จากการทำหน้าที่ที่ผ่านมาของ กกต. ตั้งแต่เลือกตั้งใหญ่แล้ว ทุกวันนี้ให้ใบแดง ใบเหลืองกี่คน หลังปล่อยผ่านเข้าไป เป็นคำพูดที่ กกต.พูดได้ แต่ความเชื่อมั่นของประชาชนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้น บอกตรงๆว่ายังไม่เชื่อมั่นตรงนี้
เย้ยบอกมีหลักฐานเด็ดกล้าใช้อำนาจหรือไม่
ถามต่อว่า มีคนบอกว่า ไม่อยากให้ปล่อยยาวไป เพราะไม่อยากให้ สว.ชุดเดิมที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รักษาการต่ออีกยาว นายจาตุรันต์กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นคนละเรื่องกัน ตนคิดว่า หากกกต.ตรวจสอบอย่างจริงจัง ซึ่งกกต.บอกว่ามีข้อมูล และได้มาก่อนที่ประชาชนรู้อีก หากเป็นเช่นนี้ก็เชื่อว่า กกต.มีหลักฐานเด็ด อยู่ที่ว่าจะกล้าใช้อำนาจของ กกต.หรือไม่
ส่วนกรณีที่กกต.บอกว่า การฮั้ว หากไม่มีหลักฐานเรื่องการจ่ายเงินก็จะจับได้ยากนั้น นายจาตุรันต์กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่า คน 4 หมื่นคน แล้ว กกต.จะไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน อยู่ที่ว่าจะสืบคดีหรือไม่ ตนขอเรียกร้องผู้สมัครที่อาจถูกชักจูงในทางที่ผิด มีการจ่ายเงิน ชักจูงจริงแล้วถูกหักหลังก็ขอให้นำหลักฐานมายื่นต่อ กกต.ได้เลย จึงเป็นการทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง
กระทุ้งกกต.เร่งทำหน้าที่กู้ศักดิ์ศรี
นายจาตุรันต์ยังเรียกร้องด้วยว่า ครั้งนี้ กกต.ต้องเร่งกู้ศักดิ์ศรีอันศักดิ์สิทธิ์ของ กกต. ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่แค่การจัดการเลือกตั้ง ใครๆก็จัดเลือกตั้งได้ ประชาชนอาจทำได้ไม่ดีเท่ากกต. แต่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของ กกต. เรื่องการจับทุจริต รู้ว่ามีความผิดแล้วดำเนินคดีอย่างไร การทำหน้าที่ของ กกต.ชุดนี้ทำให้นึกถึงการทำหน้าที่ของ กกต.ชุดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ปล่อยผ่านไปง่ายๆ นั่นคือการทำหน้าที่อย่างศักดิ์สิทธิ์
สว.สมชายบี้ซ้ำฟันฮั้ว-บล็อกโหวต
วันเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อำนาจที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มี และควรต้องใช้ตรวจสอบการฮั้ว การบล็อกโหวต และการร้องว่าการนับคะแนนไม่เป็นความลับ ใน 3 มาตรา คือมาตรา 59 มาตรา 64 และมาตรา 32 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาของสมาชิกวุฒิสภาคือ สั่งให้นับคะแนนใหม่ เพื่อตรวจสอบการลงคะแนนชุดบล็อกโหวต พิสูจน์ขบวนการฮั้วเลือก สว. ซึ่งผู้สมัครในระดับประเทศได้ยื่นร้องคัดค้านต่อ กกต. โดยน่าจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแล้วหลายราย แม้ศาลจะยกคำร้อง แต่ได้วางหลักให้ร้องต่อ กกต. ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมาย
ไล่เช็คทั้งกระบวนการนับคะแนนใหม่
นายสมชายระบุต่อว่า ดังนั้น กกต. จึงมีหน้าที่ตรวจสอบตามที่ผู้ร้องคัดค้านด้วยการตรวจสอบทั้งกระบวนการ โดยเฉพาะการนับคะแนนใหม่ เพื่อพิสูจน์บัตรชุดลงคะแนนที่เลือกตรงและเลือกไขว้ ของผู้สมัครจำนวนมาก ลงคะแนนซ้ำเหมือนกับที่ผู้สมัครบางคนร้องว่ามีมาก 22 – 26 ชุด โดยมีแหล่งข่าวจากผู้สมัครบางรายระบุว่า มีการออกแบบโดยนักวิเคราะห์คอมพิวเตอร์จัดทำชุดลงคะแนนโดยเฉพาะให้แต่ละโหวตเตอร์ นำเข้าไปกาในคูหา คะแนนที่ออกมาจึงควบคุมเกาะกลุ่มเป็นชุดๆ ไปที่ผู้สมัครเฉพาะรายแบบเจาะจงที่ได้คะแนนสูงเป็นกลุ่มก้อนตามลำดับ และตามมาตรา 64 และมาตรา 32 ที่ผู้สมัครไปร้องศาลฎีกาในหลายคดีและศาลยกคำร้อง โดยวินิจฉัยว่าเป็นหน้าที่ กกต. คณะกรรมการและเลขาธิการ กกต. จึงมีอำนาจหน้าที่ที่ต้องตรวจสอบว่า การลงคะแนนดังกล่าวเป็นความลับ สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ โดยไม่อาจเลี่ยงได้
’อนุทิน‘ร้องโอ้โหพูดได้ไงภท.เอี่ยวเลือกสว.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ พรรคภูมิใจไทยไปเกี่ยวข้องกับการเลือก สว.ว่า ไม่รู้พูดได้อย่างไร กฎหมายเขาห้ามชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าไปทำนี่ โอ้โห ไม่สามารถทำผิดกฎหมายได้ ฝากนักข่าวเสนอข่าวให้เข้าใจด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี