ประธานป.ป.ช. ยอมรับมีคณะกรรมการ 7 คนเป็นปัญหาพอสมควร เล็งชงแก้ รธน.หวังสรรหาได้ครบ 9 คน ด้านเลขาฯ ป.ป.ช. ระบุขาดความต่อเนื่องในการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. เร่งรับฟังข้อเสนอ เพื่อหาวิธีเหมาะสม
เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2567 ที่โรงแรมทีเคพาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดโครงการเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการสรรหา และคุณสมบัติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2560 โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.. กล่าวรายงานในการเป็นเปิดเสวนา ว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2560 ได้กำหนด การสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไว้เช่นเดียวกันว่าจะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ รวมถึงมีความซื่อสัตย์สุจริต แต่ก็ยังประสบปัญหาขัดข้องในการเสนอรายชื่อคนที่มีคุณสมบัติในบางกรณี คือ คนที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องมีความสามารถมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งอาจจะเสนอจากหลากหลายอาชีพ เช่น จากองค์กรวินิจฉัย ฝ่ายการบริหารที่มาจากส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ บุคคลอื่นที่ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายรองรับ หรือคนที่มีความรู้ความชำนาญประสบการณ์ด้านการบริหารการเงินการคลัง การบัญชีหรือการบริหารกิจการวิสาหกิจ
นอกจากนี้ ยังมีข้อขัดข้องคุณสมบัติเกี่ยวกับการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง และการกำหนดให้คณะกรรมการสรรหา มีคุณสมบัติระดับเดียวกับคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญส่งผลให้องค์กรอิสระประสบปัญหาการคัดเลือกผู้แทนมาเป็นคณะกรรมการสรรหา รวมทั้งการทำหน้าที่ให้ความเห็นชอบคนให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาทำให้กระบวนการสรรหาใช้ระยะเวลาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดจึงขาดความต่อเนื่องการทำหน้าที่ของเอกชน นั้นจึงต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการสรรหากรรมการป.ป.ช.เพื่อทบทวนคุณสมบัติและความเหมาะสมของกระบวนการสรรหา และเป็นการยกระดับมาตรฐานของคนที่จะมาทำหน้าที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช.ให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ด้านพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวในการเปิดการเสวนาฯ ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งใน 5 องค์กรที่สำคัญ ทำหน้าที่ผดุงความยุติธรรม ความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหาในการกระทำทุจริตหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ รวมถึงการกระทำละเมิดด้านจริยธรรม ซึ่งจากการทำงานมานานเป็นปีแทนที่จะมีการการ ป.ป.ช.ครบ 9 คนแต่กลับมีเพียง 5 คน หากต่ำกว่า 5 คนก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้จะส่งผลให้กระบวนการทำงานของ ป.ป.ช.และสำนักงาน จะสามารถทำงานได้ในระดับขั้นต่ำ เพราะกระบวนการทั้งหมดจะต้องผ่านมติที่ประชุมป.ป.ช.เพื่อจะสามารถดำเนินการได้และมีผลตามกฎหมาย วันนี้มีกรรมการป.ป.ช.7 คน ยังขาดอีก 2 คน ขณะที่ขบวนการสรรหามีขั้นตอนปลีกย่อยมากมายตั้งแต่คุณสมบัติ ขั้นตอนการสรรหา
ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า ตนทำหน้าที่มาขึ้นสู่ปีที่ 9 พบว่าระบบการกำหนดกรรมการไว้ที่ 9 คนนั้นเหมาะสมแล้ว หากวินิจฉัยก็จะทำได้โดยเสียงข้างมาก หากครบ 9 คนเสียงข้างมากคือ 5 คน หากกรรมการเหลือ 5 คน เมื่อวินิจฉัยด้วยคะแนน 3 ต่อ 2 จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือที่จะมีผลต่อสิทธิของผู้ที่ถูกกล่าวหา ก็อาจจะเกิดปัญหาพอสมควร และวันนี้เป็นโอกาสดีที่สำนักงานได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยสำนักงานจะนำความคิดเห็นไปเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจากการรับฟังการทำงานของรัฐบาลน่าเชื่อว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะมีโอกาสนำเรื่องคุณสมบัติและกระบวนการสรรหากรรมการป.ป.ช.เข้าสู่การกระขวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย และมีการแก้ไขกฎหมายลูก ป.ป.ช.ตามมาด้วย โดยเป้าหมายจะมีกรรมการ ป.ป.ช.มีความรู้ความสามารถและมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้การทำงานมีความเที่ยงธรรม สุจริตให้ความเที่ยงธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาอย่างแท้จริงดัวย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี