ครม.สัญจรเมืองย่าโมกระหึ่ม
อัดงบเกือบ500ล.
เดินหน้าพัฒนา4จว.อีสานใต้
วางคิวทัวร์ครั้งต่อไปที่อยุธยา
ฝ่ายค้านขู่รบ.เจอซักฟอกแน่
ครม.สัญจรวุ่น!ม็อบโปแตชปิดทางเข้า ทำครม.เปลี่ยนเส้นทาง“เศรษฐา”นำถกครม.สัญจรเมืองย่าโม จัดเต็มเคาะงบเกือบ 500 ล้านบาทลุยพัฒนา 4 จว.อีสานใต้ ใน 16 โครงการกลุ่มจังหวัดและ 8 โครงการภาคเอกชน เคาะครม.สัญจรคิวหน้าที่พระนครศรีอยุธยา ลุย 5 จว.ภาคกลางตอนล่างขณะที่“ปธ.วิปฝ่ายค้าน”ชี้เปิดสภาขู่จัดหนักตรวจสอบรัฐบาลเข้ม พร้อมยื่นซักฟอกแน่นอน ไร้ปัญหาทำงานสว.ชุดใหม่ ส่วน‘ไอติม-โฆษกก.ก.’ลั่นฝ่ายค้านเชิงรุก โวข้อมูลพร้อมใช้ทุกกลไกของสภาฯรอจังหวะเหมาะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 2 ก.ค. 2567 ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฎ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร)ได้มีกลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โปรแตส ที่อ.โนนไทย อ.โนนสูง และอ.เมืองกำลังทำสำรวจแร่อยู่และขอสัมปทานบัตรเหมืองแร่เหตุผลที่มาวันนี้เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายไว้สำหรับการขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาลที่ต้องการผลักดันเมืองแร่โปรแตสซึ่งอ.ด่านขุนทด เป็นหนึ่งในการที่ขอให้มีเร่งรัดการทำ
ม็อบบุกประชิดทำครม.เลี่ยงเส้นทาง
ทั้งนี้ตอนที่อนุมัติได้อ้างว่าเพื่อชดเชยการนำเข้า8แสนตันแต่ปรากฏว่ากลับให้มีการอนุมัติให้มีการดำเนินการแล้วกว่า3ล้านตันโดยต้องการที่จะยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐาและหากวันนี้ไม่ออกมารับหนังสือทางกลุ่มจะเผาหนังสือที่จะยื่นบริเวณหน้าประตูทางเข้าของบรรดารัฐมนตรีและนายเศรษฐาซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปรับเส้นทางให้นายกฯและรัฐมนตรีคนอื่นเข้าประตูอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ปราศรัยอย่างดุเดือดขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดตำรวจควบคุมฝูงชนหนึ่งกองร้อยมาดูแลความเรียบร้อย จนทำให้เกิดวิวาทะระหว่างผู้ชุมนุม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายตัว
รมว.อุตฯโร่รับหนังสือม็อบฯ
จากนั้นเวลา09.50น. นางสาวพิมพ์ ภัทราวิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้มารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านเหมือนโปแตสที่มาปักหลักชุมเรียกร้องหน้า ที่ประชุมครม.สัญจรจังหวัดนครราชสีมาโดยแกนนำกล่าวว่าบรรยากาศเหมือนรัฐมนตรีมาเยี่ยมนักโทษ เนื่องจากเป็นการเจรจาผ่านรั้วประตูทำให้เจ้าหน้าที่เปิดรั้วให้รัฐมนตรีไปรับมอบหนังสือจากมือผู้ชุมนุม
ประกาศยื่น 3 ข้อเรียกร้อง
จากนั้นผู้ชุมนุมได้นำเกลือที่ขึ้นในนาข้าว จากผลกระทบการทำเหมืองโปแตสมากองหน้ารัฐมนตรี
พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้องว่า 1.ขอให้มีคำสั่งให้ยกเลิกแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแร่โปแตสทั้งหมด เนื่องจากแผนแม่บทดังกล่าวไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2560โดยไม่มีการสำรวจและกันพื้นที่โดยกำเนิดเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองและเปิดโอกาสให้มีการสำรวจแร่และทำเหมืองแร่โปรแตสในพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตแหล่งแร่ เพื่อการทำเหมือง 2.ขอให้ประเมินสิ่งแวดล้อม สำหรับการพัฒนาเหมืองแร่โปรแตสใหม่ และ 3.ขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการทำเหมืองแร่โปรแตสในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา อย่างเร่ง หาเพิกเฉยเลยยื้อเวลาออกไปยิ่งทำให้เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมไม่มีศักยภาพในการกำกับดูแลและควบคุมให้เกิดการทำเหมืองที่มีประสิทธิภาพได้
ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังคงเดินหน้า ไม่ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าไม่เห็นได้ว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เห็นคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง และต้องการเพียงตัวเลขจีดีพี และหากรัฐบาลยังปล่อยให้ทำเหมืองแร่แผ่นดินอีสาน จนไม่สามารถฟื้นคืนได้หลังรับหนังสือกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวทิ้งท้ายด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาไหลว่า “ปุ๋ยกระสอบแรกของท่าน มากับคราบน้ำตา เอาตัวพวกเราไปก็ได้ ปุ๋ยกระสอบแรกของท่านอยู่ตรงนี้”
ยันดูกม.เคร่งครัดคำนึงถึงสวล.-ปชช.
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยภายหลังรับข้อเรียกร้องครั้งนี้ว่าขอยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะกำกับดูแลการดำเนินโครงการเหมืองแร่โพแทชให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พยายามนำทรัพยากรแร่ขึ้นมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าขณะเดียวกัน พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด โดยในการบริหารจัดการแร่ จะต้องคำนึงถึงดุลยภาพทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนประกอบกันด้วย
นายกฯ นำถกครม.สัญจรเมืองย่าโม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 10.15 น.ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร)ครั้งที่ 4/2567
ครม.อัดงบเกือบ500ล้าน4จว.อีสานใต้
เวลา 11.20น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์) โดย นายเศรษฐา กล่าวว่า ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 16โครงการ กรอบวงเงิน 249 ล้านบาท โดยให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัดขอรับจัดสรรงบกลาง ปี 67 และเห็นชอบในหลักการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน จำนวน 8 โครงการ กรอบวงเงิน 247.15 ล้านบาท โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการขอรับการจัดสรรงบกลางในปี 67
นอกจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.นครราชสีมา พ.ศ.2572 ที่ไทยได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาให้ทันเวลาปี 2572
‘ครม.สัญจร’คิวหน้าประชุมที่อยุธยา
นายกรัฐมนตรีแถลงอีกว่า เรื่องเพื่อทราบ การเตรียมจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งต่อไป โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เสนอกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่างโดยจะใช้จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นแกนนำและมีจังหวัดภาคกลางตอนล่าง เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี และนครนายก เป็นต้น
‘ฝ่ายค้าน’ลั่นจัดหนักสอบรัฐบาลเข้ม
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญว่า จะมีการพิจารณาเรื่องของร่างกฎหมาย ที่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงร่างพระราชบัญญัติ เกี่ยวกับอุดมศึกษา 4 ฉบับ โดยจะมีการอภิปราย ในเรื่องของรายละเอียด เนื้อหา ของแต่ละร่าง แต่คงมีการรับหลักการ นอกจากนี้อาจมีการพิจารณา ร่างกฎหมายที่สมาชิกวุฒิสภา มีการปรับแก้ไขและส่งกลับมาให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ส่วนเรื่องอื่นๆที่อาจมีการพิจารณาเพิ่มเติม อาจเป็นเรื่องพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่เห็นว่าควรต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด
ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่าหากมีประเด็นข้อสงสัยก็จะเสนอแนะไปยังรัฐบาลเพื่อให้มีการปรับอย่างเหมาะสมและยืนยันไม่ใช่ลักษณะการอภิปรายเพื่อจ้องล้มรัฐบาลเพียงแต่เสนอแนะว่ามีประเด็นใดที่ควรปรับ ส่วนตัวมองว่าที่ผ่านมาก็มีรายละเอียดของกฎหมายหลายเรื่องที่รัฐบาลมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อปรับแก้ไข รายละเอียดของกฎหมายบางอย่างที่ฝ่ายค้าน เสนอแนะ ถือเป็นเรื่องดีและเป็นที่น่าพอใจ
ยืนยันพร้อมยื่นซักฟอกแน่นอน
เมื่อถามถึงการทำงานของฝ่ายค้านในการเปิดสมัยประชุมสภาฯครั้งนี้ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ก็ต้องทำหน้าที่อย่างเข้มข้นขึ้น เพราะปีที่ผ่านมา รัฐบาลอาจจะดำเนินการ ในส่วนของงบประมาณ และนโยบาย ล่าช้า เพราะอาจเป็นผลมาจากรัฐบาลชุดก่อน แต่ครั้งนี้ถือว่ารัฐบาล ทำหน้าที่บริหารงบประมาณอย่างเต็มตัว การทำหน้าที่จึงต้องมีการตรวจสอบการทำหน้าที่ให้หนักขึ้น รวมถึงการติดตาม การผลักดันนโยบายของรัฐบาล ว่าได้ทำตามที่ให้คำมั่นไว้กับประชาชนหรือไม่ ขณะที่การอภิปรายทั้งการอภิปรายทั่วไปและอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่า มีแน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้
เชื่อไร้ปัญหาทำงานร่วมสว.ชุดใหม่
เมื่อถามถึงหน้าตาสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดใหม่ทั้ง200 คน ที่เลือกมาใหม่ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า มั่นใจว่าหากมีการรับรองก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ในการประชุมร่วมรัฐสภาแต่ก็ต้องดูแนวคิดของสว.ชุดนี้ว่ามีแนวคิดอย่างไร เชื่อว่าไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการในการเลือก สว.ครั้งนี้ แต่เมื่อได้สว.มาแล้วก็ต้องพร้อมที่จะทำงานด้วยกัน อย่างน้อยก็ดีกว่า การได้ สว.จากคนคนเดียวเลือกมา
เชื่อ‘ก้าวไกล’รอดไม่ถูกยุบพรรค
นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงคดียุบพรรคก้าวไกลที่ศาลรัฐธรรมนูญออกมาระบุจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายนนี้ว่าคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่ยุบ เพราะไม่มีอะไร เรามั่นใจในข้อโต้แย้งของเรา ต่อข้อกล่าวหาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญซึ่งคิดว่าหลายคนคงเห็นว่าท่าทีของฝั่งผู้กล่าวหาดูจะเกรงๆต่อข้อโต้แย้งของเราพอสมควร คือมีน้ำหนักและมีโอกาสมากที่พรรคก้าวไกลจะมีโอกาสรอดสูง
ก.ก.ลั่นฝ่ายค้านลุยตรวจสอบเชิงรุก
ด้านนายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม สส.พรรคก้าวไกลว่าเป็นการกลับมาสู่ความปกติของการเปิดสมัยประชุมสภาจึงมีการพูดคุยกันในวาระที่เกิดขึ้น คงไม่มีวาระอะไรเป็นพิเศษ แต่จะมีการพูดถึงทิศทางการทำงานภาพรวม สส.พรรคก้าวไกลหลายคนก็เตรียมกฎหมายไว้หลายฉบับถือเป็นเรื่องดีที่ส.ส.ทุกคน มุ่งหน้าเต็มที่ในการใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เมื่อถามว่ารัฐบาลทำงานมาพักใหญ่แล้วจะมีการวางแนวทางในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นายพริษฐ์ กล่าวว่าเรื่องนี้มีการพูดคุยอยู่เรื่อยๆก็ถือเป็นกลไกหนึ่งที่ฝ่ายค้านใช้ตรวจสอบรัฐบาล แต่ตนคิดว่าพรรคก้าวไกลที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกเราพยายามใช้ทุกกลไก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นกลไกสำคัญ แต่ไม่ได้เป็นกลไกเดียวที่พรรคก้าวไกลจะใช้ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
โวข้อมูลพร้อมใช้ทุกกลไกสภาสอบเข้ม
“ยืนยันว่าเรามีความพร้อม ข้อมูลที่ครบถ้วนจะใช้กลไกนี้เมื่อมีข้อมูลที่ครบถ้วน และมีจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่ผมคิดว่าทุกสัปดาห์ในการประชุมสภาแม้จะยังไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่พรรคก้าวไกลก็พยายามใช้กลไกสภาอื่นๆเพื่อตรวจสอบกระตุ้นการทำงานของรัฐบาลด้วยเช่นกัน หากไปดูวาระการประชุมสภา โดยเฉพาะสมัยการประชุมที่แล้ว น่าจะมีกฎหมายของพรรคก้าวไกลเข้าสู่กระบวนการพิจารณาหลายฉบับก็จะเป็นการกระตุ้นการทำงานของรัฐบาลอีกด้านเพื่อดึงให้รัฐบาลเข้ามาพูดคุยในประเด็นดังกล่าวอยากให้มองกลไกการทำงานของฝ่ายค้านให้กว้างกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ”โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าว
นายกฯพร้อมให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมครม.สัญจรที่นครราชสีมาถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านประกาศเตรียมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอนและจะมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณปี2567อย่างเข้มข้นว่า “เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่สำหรับผมและรัฐบาลพร้อมให้ตรวจอบ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี