“สว.สมชาย” แฉหลักฐานโพยฮั้วเลือก สว. จี้กกต.ตรวจนับคะแนนใหม่ทั้งหมด โดยถ่ายทอดสดให้ปชช.ทราบ เพื่อพิสูจน์บล็อกโหวต-ฮั้วลงคะแนน อย่างที่มีการร้องเรียนหรือไม่ ด้าน “นิกร” ชี้ปัญหามาจากรัฐธรรมนูญ 2560 กับ “พ.ร.ป.เลือกสว.”เจ้าปัญหา ที่ทำให้การเลือก สว.วุ่น เสนอกกต.เดินหน้ารับรอง เพื่อให้ได้ส.ส.ร.มาแก้รธน. สอดคล้องกับก้าวไกลให้ประกาศผลเลือกสว.เร็วที่สุด ปิดช่องสุญญากาศ จะได้แก้รธน. ยันส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100%
เมื่อวันที่ 2กรกฎาคม นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่ตรวจสอบความสุจริตและเที่ยงธรรม ก่อนรับรองการเลือกสว.ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญการได้ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 42 วรรคสองและมาตรา 59 ที่ กกต.มีหน้าที่และอำนาจทำให้กรเลือกสว.ครั้งนี้ “ถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม” กกต. จึงควรแสดงความกล้าหาญตรวจพิสูจน์ blockvote ด้วยการตรวจนับคะแนนในระดับประเทศใหม่ทั้งหมด โดยให้นำบัตรลงคะแนนทั้งหมดมาแสดงหลักฐานต่อสื่อมวลชน พร้อมถ่ายทอดสด ให้ประชาชนทราบ เพื่อพิสูจน์ว่ามีการจัดเรียงคะแนนในบัตรลงคะแนนเป็นชุด blockvote ฮั้วเลือกสว ตามที่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาร้องคัดค้านและตามที่นักวิชาการ สื่อมวลชนและสังคมตั้งข้อสังเกตหรือไม่
ชี้รธน.-พรป.ตัวปัญหาทำเลือกสว.วุ่น
ด้านนายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวให้ระงับยับยั้ง การได้มาซึ่ง สว.ชุดนี้ หรือแม้แต่การให้ยกเลิกไปเลย แล้วเริ่มกันใหม่ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ฉบับเจ้าปัญหา ในมาตรา 107 ที่กำหนดว่า”วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิก 200 คน ซึ่งมาจากการเลือกกันเอง ของบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะ หรือประโยชน์ร่วมกันหรือทํางาน หรือเคยทํางานด้านต่างๆ ที่หลากหลายของสังคม โดยในการแบ่งกลุ่มต้องแบ่งในลักษณะที่ทําให้ประชาชน ซึ่งมีสิทธิสมัครรับเลือกทุกคนสามารถอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้” และตอนท้ายของมาตราหักกลับย้อนเกล็ดเป็นบอกว่า “จะกําหนดมิให้ผู้สมัครในแต่ละกลุ่มเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันก็ได้ โดยให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.กำหนด”
ต้องรอส.ส.ร.ชุดใหม่มาแก้กม.
“ดังนั้นปัญหาส่วนใหญ่ทั้งหมดนี้เกิดจากรัฐธรรมนูญ และกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดอยู่ ซึ่งคงต้องรอให้ส.ส.ร ที่กำลังจะมีขึ้นเสนอแก้ไขให้ดีกว่านี้ เพราะเราได้เห็นสภาพปัญหากันได้ชัดเจนพอสมควรแล้ว กับระบบการได้มาซึ่งสว.ที่เป็นระบบริเริ่มใช้หนึ่งเดียวในโลก ต้องเรียนรู้ข้อผิดพลาดแล้วแก้ไขกันในโอกาสต่อไป”นายนิกรกล่าว
แนะเดินหน้ารับรองก่อนสอยทีหลัง
และว่า ส่วนว่าที่ สว. 200 คนที่ได้มาตอนนี้ ถ้าจะให้กกต.ยกเลิกไปทั้งหมด แล้วให้สมัครใหม่เลือกกันเองขึ้นใหม่ตามกฏหมายเดิมตามที่มีผู้รู้เสนอหรือ ถ้าจะทำเช่นนั้น แน่ใจหรือว่าส่วนใหญ่ของว่าที่สว.ใหม่นั้น ได้มาด้วยการทุจริตไม่ชอบตามกฏหมายที่มีอยู่ เรามีหลักฐานการทำผิดชัดเจนกันแล้วหรือ แล้วถ้าเขาเหล่านั้นฟ้องร้องเพื่อรักษาสิทธิอันชอบธรรมของตัวเอง ใครจะรับผิดชอบได้ แล้วเราจะทำอย่างไรกับหลักการแห่งความยุติธรรม หรือจะ”ปล่อยคนผิดสิบคน ดีกว่าลงโทษคนบริสุทธิ์หนึ่งคน” ซึ่งเป็นคำกล่าวของ Sir Wil-liam Blackstone นักกฎหมายชาวอังกฤษที่ยึดถือเป็นหลักการมาถึงปัจจุบัน หรือเราจะให้ทำเท่าที่พอจะทำได้ครั้งนี้ คือปล่อยให้กกต.เข้าไปตรวจสอบคุณสมบัติผู้ผ่านรอบสุดท้ายทั้ง 200 บวกสำรอง 100 ที่น่าจะมีปัญหาอีกครั้ง แล้วประกาศรับรองผล จากนั้นรีบเข้าไปตรวจสอบทางลึก หาผู้ทำผิดตามกฏหมายที่บังคับใช้อยู่ เมื่อพบแล้วก็ถอดถอนออกไปในระยะเวลาตามกฏหมาย และเอาสว.สำรองที่มีอยู่มากเพียงพอ เข้ามาทำหน้าที่แทน
ก้าวไกลจี้กกต.รีบรับรองสว.
เช่นเดียวกับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการคัดเลือกสว.ว่า เรื่องสำคัญเฉพาะหน้าคือ ทำอย่างไรให้ กกต. เร่งตรวจสอบข้อร้องเรียนให้เสร็จเร็วที่สุด จะได้รับรองผลการเลือก สว. เพราะตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเลือก สว. ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เคยชี้ว่าในพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. ไม่ได้กำหนดไว้ว่า กกต. ต้องประกาศผลภายในกี่วัน ไม่เหมือนการเลือกตั้ง สส. กฎหมายเขียนเพียงว่า ให้รอไว้ 5 วัน ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว ฃ
จะได้แก้รธน.เร็วที่สุด-ปิดสุญญากาศ
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า สว.ชุดใหม่มีบทบาทสำคัญในการแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้น ยิ่งมี สว.ชุดใหม่เข้ามาเร็ว การพูดคุยหารือเรื่องทำรัฐธรรมนูญจะเร็วมากขึ้น รวมถึงบทบาทการรับรองบุคคลในองค์กรอิสระ และการกลั่นกรองกฎหมายต่างๆ ซึ่งพรรคก้าวไกลก็มีกฎหมายหลายฉบับ ที่รอการเสนอ แต่อาจถูกมองว่าเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ จึงรอให้ สว.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ก่อน ซึ่งควรดำเนินการให้เร็วที่สุด วันที่ 4 กรกฎาคม ตนในฐานะประธาน กมธ.ฯ จะเชิญ กกต. เข้ามาชี้แจงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ถ้ากกต.ประกาศผลเร็ว โอกาสเกิดสุญญากาศทางการเมือง ให้สว.ชุดเดิมรักษาการต่อ ก็จะน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่า ตนเห็นด้วยกับกฎกติกา สว.ก็ยังมีอำนาจสูง แต่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่เมื่อกติกากำหนดมาแบบนี้ และเริ่มกันมาแล้ว จึงคิดว่า เป็นหน้าที่ กกต. ที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านระหว่าง สว.ชุดเก่า และ สว.ชุดใหม่ เป็นไปอย่างเร็วที่สุด
ยันส.ส.ร.ต้องมาจากเลือกตั้ง100%
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการตังข้อสังเกตว่า สว.ชุดใหม่ อาจจะมีการจัดตั้งโดยพรรคการเมือง หรือบ้านใหญ่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ข้อสังเกตของประชาชน ก็เป็นผลลัพธ์ของกติกาครั้งนี้ จึงควรมองไปข้างหน้าดีกว่า เพราะ สว.มีบทบาทสำคัญ ทั้งนี้ ในเรื่องผลงาน สว.ชุดใหม่คงได้พิสูจน์กัน หลังเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ เพราะปัจจัยหลักในร่างแก้รัฐธรรมนูญ คือ กำหนดองค์ประกอบของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% รวมถึงอาจมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา คู่ขนานไปกับการแก้ทั้งฉบับ
สว.ใหม่เตรียมเลือกบอร์ดองค์กรอิสระ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ก่อนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศผลการเลือกสว.200คนและบัญชีสำรองอีก 100คนนั้น ตามอำนาจหน้าที่ของ สว.นอกจากการกลั่นกรองพิจารณากฎหมาย และติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลแล้ว อีกภารกิจสำคัญคือการให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐ และให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในปี 2567 นี้มีกรรมการหลายองค์กรที่ครบวาระ เริ่มจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีผู้ที่พ้นตำแหน่ง 1 คน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา คือน.ส.จินดา มหัทธนวัฒน์ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ที่พ้นจากตำแหน่งในวันที่ 24 เมษายน เหตุอายุครบ 70 ปี และในวันที่ 22 กันยายนนี้ จะมีพล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน และ กรรมการตรวจเงินแผ่นดินอีก 4 คน ได้แก่ นางยุพิน ชลานนท์นิวัฒน์ , นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์, นายสรรเสริญ พลเจียก และนางอรพิน ผลสุวรรณ์ สบายรูป ที่ครบวาระดำรงตำแหน่ง 7 ปี นอกจากนี้ ยังมีผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ลาออกจากตำแหน่ง1คน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์
ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 9 กันยายนนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. จะพ้นจากตำแหน่งเหตุอายุครบ 70 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด และยังมีอีก 2 คน ที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 9 ปี ในวันที่ 30 ธันวาคม คือ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ และ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ
ขณะที่เดือนพฤศจิกายน จะมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พ้นจากตำแหน่งอีก 2 คน เหตุครบวาระการดำรงตำแหน่ง 9 ปี คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 16 พ.ย.67 กับ นายปัญญา อุดชาชน ที่จะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 26 พ.ย.67
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี