ปลดออกลูกเดียว!
‘อนุทิน’ลั่นอย่าให้เรื่องถึงมท.
แนะปม‘ชาญ’ให้ยึดกฎหมาย
ยันไม่เว้นคนพท.-พรรคร่วม
เพื่อไทยโดดอุ้ม‘ชาญ’สุดลิ่ม
ย้ำหยุดทำหน้าที่ต้องให้ศาลสั่ง
นายก อบจ.ปทุมฯคนใหม่ ยังวุ่น “อนุทิน”ไม่เสี่ยง!ปม“ชาญ”ว่าที่นายก อบจ.ปทุมฯมีคดีค้าง แนะให้ยึด ก.ม.ลั่นอย่าให้ถึง มท.ปลดออกลูกเดียว ไม่เว้นแม้คนของเพื่อไทย-พรรคร่วม-เพื่อนพ้อง “ชูศักดิ์”รองหน.เพื่อไทย ปธ.คณะทำงาน ก.ม.ชี้เมื่อศาลฯประทับรับฟ้องแล้ว ต้องสั่งให้ “ชาญ”
หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่อำนาจ‘มท. ย้ำควรเป็นไปตามแนวนี้ ระบุคำวินิจฉัยกฤษฎีกา แค่คดีทั่วไป‘สมคิด’เทียบเคส‘ลุงชาญ’คล้าย‘สส.เพื่อไทย’ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เผยนักกฎหมายสภาฯให้ความเห็นเป็นคนละวาระกัน ย้ำสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่ศาล ยันมีคุณสมบัติครบก่อนสมัคร‘กกต.-พรรค’ตรวจสอบแล้ว ขณะที่‘บิ๊กแจ๊ส’ขึ้นรถแห่ขอบคุณทุกคะแนนของชาวปทุมฯ
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.30 น.ที่สำนักงาน กอ.รมน. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ชนะการเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี จะขัดกฎหมายตามมาตรา 157 หรือไม่ เนื่องจากมีคดีคั่งค้าง
‘อนุทิน’ไม่เสี่ยง ปมนายกอบจ.ปทุมฯ
โดยกล่าวว่า รับรองว่า ตนไม่เสี่ยงตัวเองแน่นอน ทุกอย่างมีข้อกฎหมาย ในความเป็นส่วนราชการ เราต้องทำตามข้อเสนอแนะของเลขาฯกฤษฎีกา ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ได้รับรายงานมาในระดับหนึ่ง คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบเบื้องต้น คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะมีแนวทางในการดำเนินการ มีขั้นตอนอยู่แล้ว
ลั่นอย่าให้ถึง‘มท.’ปลดออกลูกเดียว
“และหากผู้ว่าราชการจังหวัด มีข้อสั่งการใดออกมา และผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ปฏิบัติตาม ผู้ว่าราชการจังหวัด จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน และนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มีคำสั่ง
:ซึ่งหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีเพียงสั่งปลดอย่างเดียว เราอย่าไปให้ถึงจุดนั้นเลย เพราะผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ขอให้ทุกท่าน ได้ทำตามกฎหมายให้ได้มากที่สุด จะได้ไม่ต้องใช้มาตรการอะไร” นายอนุทิน กล่าว
ไม่สนคนพท.-พรรคร่วม-เพื่อนพ้อง
นายอนุทิน กล่าวย้ำอีกว่า ตนไม่รู้สึกหนักใจอะไร แม้จะเป็นคนของพรรคเพื่อไทย หรือต่อให้เป็นพรรคเดียวกันก็แล้วแต่ ทำผิดกฎหมาย เพื่อเอื้อพรรคพวกเพื่อนพ้องไม่ได้ เพราะมีโทษทางอาญา เราคงไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายไม่ได้
ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.ชงข้อเสนอแนะถึง ครม. ตรวจสอบโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยพลังงานไฟฟ้า กทม. 842 คัน มูลค่าเกือบ 4 พันล้านบาท พบความเสี่ยงเกิดทุจริต นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่เห็น เรื่องดังกล่าว กทม.เป็นผู้กำกับดูแล หากมีปัญหา ก็ต้องฟังทางผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งในส่วนของกทม.ก็เช่นเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มาจากการเลือกตั้ง จะมีอำนาจในระดับหนึ่ง ที่จะเป็นเอกเทศในการกำหนดนโยบาย ในขณะที่ตนเป็นเพียงผู้กำกับดูแลเท่านั้น
‘ชูศักดิ์’ชี้ปม‘ชาญ’ต้องให้ศาลฯสั่ง
ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย(พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตและศาลรับฟ้องแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ว่า ในความเห็นตนคิดว่า เรื่องที่คณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เป็นเรื่องของมติทั่วไป คนที่พ้นจากตำแหน่ง และกลับมามีตำแหน่ง แล้วมีคดีแบบนี้ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อันนั้น คือ คดีทั่วไป
“แต่ในกรณีของนายชาญ ความเห็นของผมคือ มีคำร้องที่ศาลอาญาทุจริตแล้ว ซึ่งศาลมีอำนาจในการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อมีคำร้องไปที่ศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องเป็นเรื่องที่ศาลต้องสั่ง ไม่ใช่เป็นเรื่องของใครที่จะสั่ง ทั้งนี้ เรื่องไปที่ศาลแล้ว ศาลประทับรับฟ้องแล้ว และศาลมีอำนาจทางกฎหมาย ในการที่จะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ ควรจะเป็นไปตามแนวนี้”นายชูศักดิ์ กล่าวย้ำ
สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ใช่ มท.
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.มหาดไทย เป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องดังกล่าว นายชูศักดิ์ ตอบว่า“ความเห็นของตน คือ ถามว่าใครเป็นโจทก์ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ ก็ควรร้องเข้าไป ถ้าต้องการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อเรื่องไปถึงศาล ศาลก็ต้องใช้ดุลยพินิจว่าจะให้หยุด หรือไม่ไม่ให้หยุด ไม่ใช่อำนาจของกระทรวงมหาดไทย”
‘สมคิด’ยกเคส‘ลุงชาญ’คล้ายสส.พท.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายก อบจ.ปทุมธานีถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตและศาลรับฟ้องแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ว่า กรณีแบบนี้เคยเกิดเหตุที่สภาฯมาแล้วซึ่งมีสส.พรรคเพื่อไทยถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในขณะที่ดำรงตำแหน่งและปรากฏว่าหลังยุบสภามีการเลือกตั้งใหม่ สส.คนดังกล่าว ก็สามารถลงรับสมัครได้อีกครั้ง ทั้งนี้ นักกฎหมายสภาซึ่งตนไม่ขอเปิดเผยชื่อ เราได้สอบถามไปว่าหากได้เป็นสส.อีกจะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ซึ่งนักกฎหมายท่านนั้น ก็บอกว่าคนละขั้นตอนกัน ตำแหน่งเดิมถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ตำแหน่งใหม่ที่ได้มา ก็ต้องว่ากันใหม่ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของสภา เคยให้คำแนะนำมาแบบนี้ และอดีตสส.คนดังกล่าว จึงไปลงสมัครเลือกตั้ง แต่ไม่ได้รับเลือกจึงไม่มีปัญหา
สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็อยู่ที่ศาล
“ส่วนกรณีของนายชาญผมเข้าใจว่าน่าจะเข้ากับเคสนี้คือต้องรับรอง แล้วศาลจะหยุดสั่งปฏิบัติหน้าที่อีกหรือไม่ก็ได้ แต่ในความเห็นของผม นายชาญผ่านการเลือกตั้งแล้ว ก็สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ ส่วนศาลจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”นายสมคิด กล่าว
เมื่อถามว่าทางเลขาธิการกฤษฎีกาออกมาบอกว่านายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ หากมีการรับรองตำแหน่ง นายสมคิด กล่าวว่า เป็นแนวความคิดเห็นหนึ่ง แต่พรรคเพื่อไทยคุยกันอีกแนวทางหนึ่งว่าให้ไปปฏิบัติหน้าที่แล้วรอศาลสั่งหยุดหรือไม่เพราะถึงอย่างไร ตนคิดว่ามีคนไปร้องอยู่แล้ว กรณีนี้ มีแค่ 2 เรื่องคือหยุดโดยอัตโนมัติ หรือ ศาลสั่งหยุด
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายแล้วนายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะส่งผลเสียต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ อย่างไร นายสมคิด กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ศาลสั่ง ซึ่งหากนายชาญหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมีรองนาย กอบจ.ที่สามารถทำงานต่อได้หรือหากไม่มี รองนายก อบจ.ก็เป็นปลัด อบจ.ที่จะบริหารงานต่อได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ยันคุณสมบัติครบก่อนลงสมัคร
เมื่อถามว่าในเรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้ตรวจสอบมาดีแล้วใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่าเท่าที่ตนสอบถามและดูรายละเอียดแล้ว รวมถึงนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันแล้วว่าดูละเอียดดีแล้วว่ามันตำแหน่งคนละตอนกัน
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวนายชาญรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์แต่ยังไปสมัครใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนเชื่อว่า กกต.ได้ตรวจอย่างละเอียด และยืนยันว่าคุณสมบัตินายชาญ ไม่มีปัญหา แต่ตัวคำสั่งศาล ตนไม่แน่ใจ
‘บิ๊กแจ๊ส’แห่ขอขอบคุณชาวปทุมฯ
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่บริเวณหน้าสนามธูปะเตมีย์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี พร้อมทีมงานขึ้นรถแห่กระจายเสียง ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ แม้ว่าจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ให้แก่ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี 3 สมัย ซึ่งบรรยากาศในการแห่ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวปทุมธานี พบว่า ตลอดเส้นทางมีประชาชนที่ได้ยินเสียงจากรถกระจายเสียงต่างออกมาโบกไม้โบกมือให้กำลังใจ พร้อมตะโกนว่า“สู้ๆๆ”
เดินหน้าเปิดคลินิกช่วยเหลือปชช.
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังคงเดินหน้าให้การช่วยเหลือประชาชนโดยการเปิดคลินิกการแพทย์แผนไทย บริการคนไข้ ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่มูลนิธิ มงคล-จงกล ธูปกระจ่าง ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี วันละ 50 คน ต่อไป
สำหรับผลการเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ดังนี้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้ 203,032 คะแนน มากสุด เป็นลำดับที่ 1 เอาชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้ 201,212 คะแนน เป็นลำดับที่ 2 ไปได้ 1,820 คะแนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี