"กมธ.นิรโทษกรรม"เคาะรายละเอียด"ตั้งคกก.-แนวทางล้างผิด" ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรับคำร้อง-วินิจฉัย-เปิดช่องยื่นอุทธรณ์ ขอรอลุ้นเหมารวม"ม.112"หรือไม่
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.ฯ ว่า มีมติ 2 เรื่องคือ 1.การนิรโทษกรรมโดยใช้รูปแบบผสมผสานจะมีการดำเนินการนิรโทษกรรมโดยใช้กลไก 2 ส่วน คือ กลไกที่ให้ผู้ได้รับสิทธินิรโทษกรรมตามกฎหมาย และประสงค์ใช้สิทธิให้ยื่นคำร้องต่อหน่วยราชการในกระบวนการยุติธรรมที่คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาของหน่วยราชการนั้น ให้หน่วยราชการที่รับคำร้อง มีอำนาจรับคำร้องและพิจารณาหรือวินิจฉัยให้สิทธินิรโทษกรรมคดีที่เข้าองค์ประกอบที่จะได้รับการ นิรโทษกรรมตามบัญชีฐานความผิดแนบท้ายพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1.หากคดีอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ให้พนักงาน โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าของคดีให้ยุติการสอบสวน 2.คดีอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของพนักงานอัยการ ให้พนักงานอัยการยุติการดำเนินคดีคดีที่อัยการส่งฟ้องแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ให้พนักงานอัยการถอนฟ้อง 3.กรณีที่จำเลยถูกฝากขังในเรือนจำ ให้ศาลพิจารณาออกหมายปล่อย 4.คดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด และผู้ต้องคดีเป็นนักโทษในเรือนจำ ให้ศาลพิจารณาออกหมายปล่อย เพื่อให้กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวนักโทษ 5.คดีถึงที่สุด ผู้เคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำผิด ประสงค์ขอให้ลบล้างประวัติให้ยื่นคำร้อง ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.ให้หน่วยงานตาม 5 ข้อ จัดทำรายงานเกี่ยวกับคดีที่จะให้มีการนิรโทษกรรม เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา หากคณะกรรมการไม่มีความเห็นแย้งภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือถือว่าคณะกรรมการเห็น ด้วยกับการนิรโทษกรรมตามเสนอ กรณีผู้ได้รับสิทธินิรโทษกรรมใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อหน่วยราชการในกระบวนการยุติธรรมที่คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาแล้ว ได้รับการปฏิเสธไม่ดำเนินการ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการนิรโทษกรรม
นายนิกร กล่าวต่อว่า 2.ให้ผู้ได้รับสิทธินิรโทษกรรมตามกฎหมายขออุทธรณ์ กรณีที่หน่วยราชการปฏิเสธไม่ให้สิทธินิรโทษกรรม ให้คณะกรรมการนิรโทษกรรมแบบผสมผสานมีองค์ประกอบอาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ , ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานกรรมการ และคณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้
1.พิจารณารายงานคดีที่จะให้มีการนิรโทษกรรมที่หน่วยงานราชการในกระบวนการยุติธรรมเสนอ หากมีความเห็นแย้งให้ตอบกลับหน่วยงานราชการในกระบวนการยุติธรรมภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานนั้น 2.พิจารณาอุทธรณ์กรณีผู้ใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อหน่วยราชการในกระบวนการยุติธรรมที่คดีอยู่ในอำนาจพิจารณา ได้รับการปฏิเสธไม่ดำเนินการ ให้คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการนิรโทษกรรมมีผลผููกพันหน่วยราชการดังกล่าวให้พิจารณาการให้นิรโทษกรรม 3.หยิบยกคดีที่ได้รับผลตามพระราชบัญญัตินี้แต่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณาเพื่อส่งให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งกรณีที่คณะกรรมการเห็นเองหรือกรณีที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องร้องขอ 4.พิจารณาชี้ขาดกรณีที่มีปัญหามาสู่คณะกรรมาการว่าคดีใดได้รับสิทธิตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ จากการเสนอของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงกรณีที่คณะกรรมาการพบเห็นเอง 5.จัดทำรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อรัฐสภาเพื่อทราบ และเผยแพร่ต่อสาธารณชน 6.สื่อสารสร้างความเข้าใจสาธารณะเพื่อนำไปสู่การสร้างความปรองดอง และ 7.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
"เรื่องหลักๆ คือการไม่ให้กระทำความผิดซ้ำ การคืนสิทธิ์บางอย่างให้ นอกจากนี้ ยังจะมีการพิจารณาเรื่องฐานความผิดอะไรบ้าง มีกี่อย่างที่จะนิรโทษกรรมให้" นายนิกร กล่าว
เมื่อถามถึงวาระการพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายนิกร กล่าวว่า คดีนี้จะมีการพิจารณาทีหลัง เพราะเดิมจากที่ศึกษามาใน 17 ฐานความผิดนั้นไม่มี แต่จากที่ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเสนอมา เราก็นำมารวมอยู่ด้วยและจะต้องมีการตัดสินใจอีกครั้งว่าจะรวมหรือไม่รวมแต่ขณะนี้ข้อมูลครบหมดแล้ว เข้าใจว่าสัปดาห์หน้าก็จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ แต่หากไม่ได้พิจารณาในสัปดาห์หน้าก็จะเป็นอีกสัปดาห์หนึ่ง
เมื่อถามว่า น่าจะเคาะได้เลยใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า น่าจะเคาะได้ ตอนนี้ตนเริ่มทำรายงานในส่วนของอนุกรรมาธิการและสั่งพิมพ์แล้ว เหลือเพียงแค่ชุดใหญ่ ตั้งใจไว้ว่าสิ้นเดือน ก.ค.จะสามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของสภาฯ ได้ แต่หากไม่ทันก็อาจจะขยับไปไม่เกิน 2 สัปดาห์
เมื่อถามย้ำว่า จะเคาะเรื่องความผิดมาตรา 112 เลยใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า คณะกรรมาธิการพูดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะตอนนี้โครงสร้างเสร็จหมดแล้วและการร่าง พ.ร.บ.นี้ต้องมีบัญชีแนบท้ายที่ว่าการจะนิรโทษกรรมจะรวมฐานความผิดอะไรบ้างเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ส่วนที่ประชุมสภาฯ จะเอาอย่างไรก็แล้วแต่ ย้ำว่า กมธ.ชุดนี้มีหน้าที่แค่ชี้แนวทางในการทำร่างกฎหมาย ไม่ได้มีหน้าที่ยกร่าง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี