ด่วน!!!มติบอร์ดเคาะคืน‘กัญชา’กลับเข้าบัญชียาเสพติด ชง ปปส.ออกกฎหมายคุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดรับฟังความคิดเห็น (ร่าง)ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. ... ตั้งแต่วันที่ 11-25 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นการกำหนดให้กัญชากัญชง ในส่วนของช่อดอกและสารสกัดที่มี THC เกิน 0.2 %เป็นยาเสพติด และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 โดยผลแสดงความคิดเห็นเห็นด้วยกว่า 80% ซึ่งตามขั้นตอนต้องนำเสนอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษพิจารณาก่อนเสนอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ครั้งที่ 32-8/2567 โดยมีนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานการประชุมแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข และมี นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการ อย. และกรรมการจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แห่งตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พ.ต.อ.ประเวศ วงษ์ประมุข ฯลฯ โดยที่ประชุมมีการพิจารณาวาระสำคัญ คือ การพิจารณา (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.... ที่กำหนดให้กัญชากัญชงเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด
ต่อมาเวลา 16.30 น. นพ.สุรโชค พร้อมด้วย นพ.ณรงค์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ว่า วันนี้มีการประชุมประเภทชื่อที่เป็นยาเสพติด ซึ่งมีการเสนอเรื่องกัญชา กลับเป็นยาเสพติด โดยมีการพิจารณาและเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับ (ร่าง)ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. ... ตามที่มีการเปิดแสดงความคิดเห็นเมื่อวันที่ 11-25 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา โดยรวมทั้งกัญชา กัญชง เพิ่มเข้ามาเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 จากของเดิมมีเห็ดขี้ควาย เป็นต้น
“จากนี้เราจะเสนอผลการประชุมวันนี้ต่อท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ส. พิจารณา โดยร่างดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มกัญชาในส่วนช่อดอก สารสกัดเกิน 0.2% เป็นยาเสพติด ยกเว้นกิ่ง ก้าน ราก ใบ เมล็ด ซึ่งเป็นไปตามที่รับฟังความคิดเห็น 80% เห็นด้วยกับร่างประกาศดังกล่าว แต่ก็มีข้อสังเกต ที่เสนอว่า กิ่ง ก้าน ราก ใบ เมล็ดที่ยกเว้นไม่ใช่ยาเสพติด มีการถกกันว่า ควรเป็นเฉพาะในประเทศหรือไม่ ซึ่งข้อคิดเห็นนี้จะแนบไปกับความคิดเห็นที่รับฟังให้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ส.” นพ.สุรโชค กล่าว
นพ.สุรโชค กล่าวว่า ส่วนเรื่องเมล็ด ที่มีข้อกังวล เราจะรวบรวมทั้งหมดเสนอ ป.ป.ส. เช่นกัน อย่างเมล็ด สามารถนำน้ำมัน มาทำเป็นสารสกัดที่นำไปใช้ในรูปแบบเครื่องสำอางได้ ส่วนหากจะปลูกก็ต้องมีการขออนุญาต สรุปคือ ในเรื่องกฎเกณฑ์ การใช้ การปลูก ที่เน้นทางการแพทย์และสุขภาพ จะมีการจัดทำร่างประกาศ กฎกระทรวงต่างๆ ออกมาว่า ใครใช้ได้ แพทย์แผนไทยแบบไหนใช้ได้บ้าง แบบไหนต้องขออนุญาต แบบไหนไม่ต้อง ส่วนคนทั่วไปจะใช้อย่างไรต้องรอขั้นตอนดำเนินการ ซึ่ง อย.จะดำเนินการคู่ขนานต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอคณะกรรมการ ป.ป.ส. พิจารณา
“อย.จะเสนอผลการประชุมวันนี้ต่อคณะกรรมการป.ป.ส. สัปดาห์หน้า จากนั้นก็จะเป็นไปตามขั้นตอน มีประกาศ มีกฎกระทรวงออกมารองรับเพื่อให้สามารถประกาศใช้ได้ในวันที่ 1 มกราคม 2568” นพ.สุรโชค กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติดจะมีการระบุในส่วนใดบ้าง นพ.สุรโชค กล่าวว่า ตามร่างประกาศฯ ที่ได้เปิดรับฟังความเห็นมา คือ ส่วนของกิ่ง ก้าน ราก ใบ และเมล็ด ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ ส่วนช่อดอกและสารสกัดที่มีปริมาณ THC มากกว่า 0.2% โดยน้ำหนักจะถือว่าเป็นยาเสพติด ส่วนความเห็นว่าควรกำกับให้การอนุญาตส่วนที่ไม่เป็นยาเสพติด จะต้องเป็นส่วนของกัญชาที่อยู่ในประเทศเท่านั้น ก็มีการเขียนในข้อเสนอแนะต่อ ป.ป.ส.
เมื่อถามต่อว่า ส่วนของเมล็ดกัญชาที่ไม่เป็นยาเสพติด จะสามารถควบคุมไม่ให้เป็นต้นและมีช่อดอกอย่างไร นพ.สุรโชค กล่าวว่า เรื่องนี้ก็รวบรวมไปในข้อเสนอแนะต่อ ป.ป.ส. โดยหนึ่งในเหตุผลที่ไม่นำเมล็ดกัญชาเป็นยาเสพติด เนื่องจากในเมล็ดไม่มีสาร THC ที่ทำให้เกิดการเสพติด ซึ่งนิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรม ส่วนความกังวลว่าจะเอาเมล็ดกัญชาไปปลูกนั้น ส่วนนี้จะมีการออกกฎกระทรวงสาธารณสุขมาเพื่อกำหนดการอนุญาต ว่า ใครสามารถปลูกได้ ใครขออนุญาตทำอะไรได้บ้าง ซึ่งจะเป็นการควบคุมในการปลูกทั่วไป
เมื่อถามว่าร่างพระราชบัญญัติกัญชง กัญชา พ.ศ. … ยังมีความจำเป็นหรือไม่ นพ.สุรโชค กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ร.บ.จะเป็นกระบวนการทางนิติบัญญัติ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี