จัดห้องรับรายงานตัว200สว.ชุดใหม่
วุฒิสภาเตรียมพร้อม
รอกกต.รับรองผลเริ่มได้ทันที
ผู้สมัครสว.อกหักทวงถามกกต.
ชูโพยย้ำโกง/จี้นับคะแนนใหม่
เตือนไม่ดำเนินการระวังคุก
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พร้อมแล้ว เตรียมรับรายงานตัว“200 สว.ชุดใหม่”ก่อนประชุมนัดแรกเลือก ปธ.-รองปธ.วุฒิสภา โดย“มงคล สุระสัจจะ”ตัวเต็งนั่งประธานสภาสูง ด้านสว.ชุดปัจจุบันยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ “พรเพชร” นัดประชุม 8 กรกฎาคม พิจารณาญัตติตั้ง “กมธ.ศึกษาฯเลือกสว.ปี’67” ที่ “สว.สมชาย”เสนอหวังถอดบทเรียนปัญหาการเลือก สว.สกัด “ฮั้ว-จัดตั้ง” ด้าน ผู้สมัครสว.สอบตกบุกทวงถามคืบหน้าผลสอบโกง จากกกต. ยันมีหลักฐานโพยเลือกเป็นชุด ต้องนับคะแนนใหม่ ฮึ่ม!นิ่งเฉยโทษถึงคุก
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานวุฒิสภาว่า ช่วงเช้าวันนี้ นายพรเพชร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เรียกประชุมวิปวุฒิสภา เพื่อหารือถึงการนัดประชุม วันที่ 8 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากมองว่าขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่มีกำหนดการประกาศรับรอง สว.ชุดใหม่ อีกทั้ง อยู่ระหว่างสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ.2567 จึงถือว่า สว.ปัจจุบันยังต้องปฏิบัติหน้าที่
พรเพชรนัด8กค.ถกญัตติเลือกสว.67
ทั้งนี้ ในการหารือได้แจ้งถึงวาระการประชุมวุฒิสภา มีรายละเอียดสำคัญคือ พิจารณาญัตติของนายสมชาย แสวงการ สว. ที่เสนอให้วุฒิสภาตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาถึงการเลือกกันเองของสว. ชุดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 107
นายสมชาย แสวงการ สว.ให้สัมภาษณ์ว่า การเสนอญัตติดังกล่าวเป็นการถอดบทเรียนการเลือกสว. เหมือนการเลือก สว. ปี2562 ที่ศึกษาและถอดบทเรียนการเลือก เพื่อใช้เป็นข้อศึกษาในโอกาสต่อไป ทั้งประเด็นการเลือกกันเอง การจัดเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม อย่างไรก็ดี ในการศึกษาเตรียมเชิญนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการเขียนรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกมาร่วมศึกษา ส่วนจะทำหน้าที่หรือศึกษาได้จำนวนเท่าไร หรือกี่วัน ก็ให้เป็นไปตามนั้น การเสนอญัตติดังกล่าวเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในขณะที่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
หวังถอดบทเรียนสกัดโกงฮั้ว-จัดตั้ง
“การศึกษาคือ เกิดอะไรกับการเลือกสว. ปี 2567 ที่พบปัญหามาก ขณะที่การเลือกกันเองของสว. ปี2562 นั้น ไม่มีการร้องและไม่มีปัญหา สิ่งสำคัญคือ ระเบียบของกกต.อาจมีปัญหา โดยเฉพาะการรับรองคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการเลือกที่ปี 2567 มีข้อแตกต่างจากปี2562 ที่กำหนดให้องค์กรหรือหน่วยงานลงนามรับรอง แทนให้ประชาชนรับรองกันเอง ทั้งนี้จะมีข้อเสนอที่เป็นแนวทางแก้ไขประเด็นที่ไม่ถูกต้องในอนาคต รวมถึงประเด็นการฮั้วหรือจัดตั้งด้วย” นายสมชาย กล่าว
วุฒิสภาพร้อมรับรายงานตัว200สว.ใหม่
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.กำลังเร่งพิจารณาคำร้องของผู้สมัคร สว. ในการเลือก สว. 2567 ที่ผ่านมา ก่อนประกาศรับรองผู้ได้รับเลือกทั้ง 200 คน ในต้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ตามขั้นตอนหลัง กกต. ประกาศรับรอง 200 สว. และบัญชีสำรอง 100 คน และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ 200 สว. ต้องมารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อรับบัตรประจำตัวการเป็น สว. รวมถึงเอกสารและคู่มือปฏิบัติหน้าที่เป็นสว. ซึ่งขณะนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับการเข้ารายงานตัวของ 200 สว.ชุดใหม่แล้ว ที่ห้องริมน้ำ ชั้น 1 อาคารวุฒิสภา พร้อมรับการรายงานตัวได้ในวันถัดไปจากที่ กกต. ประกาศรับรอง
อย่างไรก็ตาม ในการจัดเตรียมห้องรับรายงานตัว สว.ชุดใหม่นั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา นำป้าย“ห้ามเข้า”ติดไว้ที่ประตูทางเข้า ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่
“มงคล”ตัวเต็งแคนดิเดตปธ.สภาสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะเปิดรับรายงานตัวประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าที่ สว.จะเข้ารายงานตัวจนครบ 200 คน จากนั้นจะนัดประชุมวุฒิสภานัดแรก เพื่อให้สว. 200 คนกล่าวคำปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ และเป็นวาระการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา ซึ่งมีผู้ที่คาดว่าจะเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภาคือ นายมงคล สุระสัจจะ ว่าที่สว.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง นอกจากนี้ อาจมีประเด็นข้อหารือที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภารายงานเป็นวาระสำคัญ เช่น การตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมที่ สว.ชุดที่ผ่านมาได้ตั้งคณะทำงานไว้แล้ว เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง รวมถึงตั้งกรรมการเพื่อศึกษาร่างกฎหมายที่เป็นคู่ขนานกับสภาฯ เช่น ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
สำหรับ สว.ชุดใหม่ 200 คนนั้น นับเป็นสว.ชุดที่ 13 ของการเมืองไทย มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ กกต. ประกาศผลการเลือกในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ต้องจับตาการทำงานของสว.ชุดใหม่ ที่ถูกมองว่ามาจากสายบ้านใหญ่ ที่เป็นเครือข่ายนักการเมือง อย่างไรก็ดี ในมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ด้วยว่า สว.ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด
ผู้สมัครสว.บุกถามผลสอบโกง
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ผู้สมัคร สว. นำโดย พลตำรวจโทคำรบ ปัญญาแก้ว ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 2 (กลุ่มกฎหมายฯ ) เข้ายื่นหนังสือถึงกกต. เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามคำร้อง หลังยื่นเรื่องมาก่อนหน้านี้ ในการคัดค้านการประกาศรับรองผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. 200 คน และสำรอง 100 คน รวมถึงพบความผิดปกติในการลงคะแนนคล้ายมีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ และยื่นหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพยลงคะแนนของผู้สมัคร สว.และขอให้กกต.เปิดหีบนับคะแนนใหม่อีกรอบ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของ กกต. เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าตามข้อเรียกร้อง จึงมาติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
ยันมีโพยหลักฐานจี้นับคะแนนใหม่
พลตำรวจโทคำรบกล่าวว่า ข้อเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่ ไม่ใช่ข้อเรียกร้องเลื่อนลอย ตนและเพื่อน สว.มีหลักฐาน พบโพยลงคะแนนที่ลงคะแนนเป็นชุด และได้ถ่ายภาพบัตรเลือก สว.ไว้เป็นหลักฐาน หลังได้รับโทรศัพท์คืนจากเจ้าหน้าที่ช่วงท้ายการนับคะแนน ทั้งนี้ เห็นว่าตามมาตรา 25 และ30 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ระบุว่าเลขาธิการ กกต. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศต้องดำเนินการเลือกให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
พลตำรวจโทคำรบกล่าวอีกว่า เมื่อผู้สมัครพบเหตุไม่ปกติได้แจ้งต่อกกต.หากกกต.ยังเพิกเฉย หรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำการเป็นการขัดขวางไม่เป็นไปตามกฎหมาย และหาก กกต.ไม่มีเงินเพียงพอเช่าสถานที่นับคะแนนใหม่โดยใช้อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี ก็ขอให้เปิดขายบัตรให้ใบละ 100 บาท ให้ผู้สมัครที่สนใจ เชื่อว่าน่าจะได้เงินเพียงพอเช่าสถานที่
ขู่กกต.เพิกเฉยขัดม.32เจอคุก10ปี
“หากผมยื่นไปแล้วท่านไม่ดำเนินการ อาจขัดมาตรา 32 ซึ่งได้กำหนดโทษไว้ว่า หากฝ่าฝืนต้องโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ผมจึงมายื่นคำร้อง เพราะถือว่าทั้งตนและผู้สมัครทั้งหมดเป็นผู้เสียหาย” พลตำรวจโทคำรบ กล่าว และว่า ตนเห็นด้วยหาก กกต.ชะลอการประกาศรับรองผลการเลือก สว.ออกไปก่อน ถ้าตรวจสอบพบว่าที่ สว.ทั้ง 200 คน มีคนใดทุจริตก็ไม่ต้องประกาศรับรอง และให้นำบัญชีสำรองกลุ่มนั้นๆขึ้นมา หากบัญชีสำรองยังไม่พอก็ขอให้จัดการเลือก สว.ใหม่ในกลุ่มนั้นๆ และเห็นว่าจากปัญหาในการเลือก สว.ไม่ควรให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ
ซัดปล่อยผีก่อนสอยทีหลัง‘ล้มเหลว’
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ ก่อนรับรอง 200สว. กกต.ต้องทำ 2 ข้อก่อนว่า ตนคิดว่าก่อน กกต.จะรับรับรองผลเลือกตั้ง สว. 200 คนเป็นทางการควรทำ 2 เรื่องนี้ให้ปราศจากข้อสงสัยคือ 1.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร สว.ว่าตรงกับกลุ่มที่สมัครหรือไม่ ได้ประกอบอาชีพที่มีรายได้จากอาชีพนั้นๆเป็นเวลา 10 ปี เป็นอย่างน้อยหรือไม่ การที่กกต.อ้างเรื่องสมัครผิดกลุ่มไม่เป็นความผิดนั้น เป็นเรื่องที่ขัดเจตนารมย์ของการมีสว.ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพ ถ้าการสมัครผิดกลุ่มไม่เป็นความผิด ก็ต้องถามว่า กฎหมายจะกำหนดให้แบ่งกลุ่มอาชีพขึ้นมาทำไม ประเด็นที่ 2.ต้องตรวจสอบว่า การเลือกตั้งทุกระดับมีการบล็อกโหวตหรือไม่ ซึ่งสามารถทำได้ โดยกลับไปดูบัตรลงคะแนนเลือกตั้งแต่ละระดับว่ามีการเลือกแบบซ้ำๆกันหรือไม่ เบอร์ที่เลือกเหมือนกันจำนวนกี่ครั้ง พออนุมานได้หรือไม่ว่าเป็นการบล็อกโหวตกัน ถ้ามีเหตุสงสัยและผิดสังเกตว่า มีการเลือกเบอร์เดียวกันเป็นทีมหรือเป็นแพ็คจำนวนมาก แสดงว่ามีการบล็อคโหวต ต้องตรวจสอบไปถึงเหตุจูงใจมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันหรือไม่
“ถ้าตรวจสอบแล้ว ไม่พบความผิดปกติ หรือไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่า ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งสว. มีความโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรมแล้ว สามารถรับรองผลได้เลย แต่การปล่อยผีรับรองไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลัง จะเป็นความล้มเหลว และเป็นไปได้ยากมาก”นายเทพไท ระบุ
‘สว.’ใหม่เท่ากับฉีกรธน.โดยไม่ยึดอำนาจ
มีความเห็นจากนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ “ยึดอำนาจโดยไม่ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ”ตอนหนึ่งว่า ดูเหมือนการเลือกสว.ยังคาใจคนทั้งประเทศ จึงต้องมาคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง หลักของสว.คือ 1.ต้องเป็นกลาง 2.พรรคการเมืองหรือส.ส.เข้าไปยุ่งเกี่ยวในการเลือกไม่ได้ 3.สะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ ผู้ออกแบบรัฐธรรมนูญเขาเจตนาดี ออกแบบไว้ดีพอสมควร ไม่อยากให้มีสภาผัวสภาเมีย ไม่อยากให้มีการซื้อเสียง เราจึงควรปฏิบัติให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปกติเมื่อกฎหมายมีช่องว่าง ในอารยะประเทศเขาต้องหาทางปิดช่องว่างนั้น เพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมืองไทยตรงไหนมีช่องว่าง เราจะออกไปทางช่องว่างนั้น เราจึงได้สว.ไม่สะท้อนตัวแทนประชาชนทุกกลุ่ม
“การได้มาของสว.จึงไม่ตรงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเหมือนเราฉีกรัฐธรรมนูญส่วนนี้ออกไปอย่างไม่แยแส ครั้งนี้ เป็นการฉีกรัฐธรรมนูญโดยพรรคการเมือง นักการเมือง และประชาชนที่ว่าประชาชนเองก็ร่วมฉีกรัฐธรรมนูญ เพราะมีประชาชนส่วนหนึ่ง (ที่น้อยมาก) เข้าไปสมัครสว. และประชาชนส่วนหนึ่งที่น้อยนั้น ก็เลือกกันตามโผที่เขาจัดส่งกันมา โดยมีเงินหรืออามิสเป็นค่าตอบแทนในการเลือก เมื่อฉีกรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ได้ ต่อไปเขาก็ฉีกในเรื่องอื่นได้อีก”นายนิพิฏฐ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี